ห้องเม่าปีกเหล็ก

‘หมดตัวถึงขั้นต้องยืมเงินพ่อ’

โดย PhotoStory
เผยแพร่ :
234 views

‘หมดตัวถึงขั้นต้องยืมเงินพ่อ’ : 3 บทเรียนจากการตัดสินใจที่ล้มเหลวของ Ray Dalio ผู้ก่อตั้ง Bridgewater เฮดจ์ฟันด์ใหญ่ที่สุดในโลก

 

 

.

สำหรับคนที่อยู่ในแวดวงการเงินเมื่อเอ่ยชื่อ เรย์ เดลิโอ (Ray Dalio) ทุกคนน่ารู้จักกันเป็นอย่างดี เขาเป็นอดีตผู้บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท Bridgewater Associates เฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่สุดของโลก บริหารเงินมากกว่า 150,000 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน

.

ช่วงที่ผ่านมาใครเดินเข้าร้านหนังสือแล้วหนังสือเล่มหนา ๆ สีดำ บนปกพิมพ์ชื่อหนังสือสีแดงว่า “Principles” นั่นแหละหนังสือของเขาครับ เป็นหนังสือที่เกี่ยวข้องกับหลักการใช้ชีวิตกึ่ง ๆ แนวคิดที่ช่วยทำให้เขาประสบความสำเร็จมาจนถึงตอนนี้ได้

.

เรย์ เข้ามาสู่ตลาดหุ้นโดยบังเอิญตอนอายุได้ 12 ปี ทำงานรับจ้างในสนามกอล์ฟ เพื่อนก็มาชวนไปซื้อหุ้นสายการบิน Northeast Airlines เขาก็เชื่อ ลงไปประมาณ 10,000 บาท แล้วหลังจากนั้นหุ้นขึ้นไปสามเท่า คงเป็น Beginner’s Luck สักอย่าง เขาก็คิดว่าตลาดหุ้นมันทำเงินได้ง่ายขนาดนี้เลยเหรอ ก็ลงเงินไปอีก ทีนี้ก็เหมือนอย่างที่ทุกคนน่าจะรู้ เดลิโอก็คืนกำไรให้ตลาดไปทั้งหมดเลย

.

แต่นั่นเป็นจุดที่ทำให้เขาสนใจมากขึ้นไปอีกเลย เข้าเรียนเกี่ยวกับการเงินที่ Long Island University และเรียนต่อ MBA ของ Harvard Business School และเข้าสู่โลกของการเงินการลงทุนตั้งแต่นั้นมา

.

เดลิโอบอกว่าก่อนที่เขาจะประสบความสำเร็จกับ Bridgewater Associates (มูลค่าทางทรัพย์สินของเขาอยู่ที่ราว ๆ 19,000 ล้านเหรียญ หรือ 640,000 ล้านบาท) เขาต้องเผชิญกับความล้มเหลวอยู่บ่อยครั้ง แต่ประสบการณ์เหล่านั้นก็ช่วยทำให้เขาเรียนรู้หลักการในการใช้ชีวิต ทำงาน และ การลงทุนต่าง ๆ มากมาย (จนเป็นหนังสือขายดีหลายเล่มเลย) เดลิโอได้แชร์ 3 หลักการจากหนังสือ “Principles for Success” ที่เขาเชื่อว่าจะช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้

.

1. คิดด้วยตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ต้องเปิดใจให้กว้างด้วย

.

นี่คือหลักการแรกที่สำคัญมากที่สุดเลย ถ้าเราไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ในกรอบหรือเดินตามเส้นที่คนอื่นขีดเอาไว้ให้ คุณต้องทำสองอย่างคือ : ตัดสินใจด้วยตัวเองและกล้าที่จะลงมือทำ

.

เดลิโอเปรียบว่าชีวิตของเราก็เหมือนกับการล่องลอยไปตามกระแสน้ำไปข้างหน้าเรื่อย ๆ และระหว่างนั้นก็ต้องเผชิญกับความจริงต่าง ๆ มากมาย ซึ่งการเผชิญหน้านี้แหละที่ทำให้ต้องตัดสินใจยาก ๆ อยู่เสมอ เราไม่สามารถหยุดกระแสน้ำไม่ให้ไหลไปข้างหน้าได้ และเราก็ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงอุปสรรคที่ขวางทางได้ด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำได้ก็คือการรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นในทางที่ดีที่สุดเท่านั้น

.

เขาบอกว่า

.

“คุณจะต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคและทำให้คุณต้องตัดสินใจนับล้านครั้ง คุณภาพของการตัดสินใจของคุณจะกำหนดคุณภาพชีวิตของคุณ การตัดสินใจที่ดีจะให้ผลลัพธ์ที่ดีแก่คุณ และการตัดสินใจที่ไม่ดีจะทำให้คุณเจ็บปวดในที่สุด”

.

ตลอดเวลาตั้งแต่เป็นเด็ก เขาจะคอยวิ่งไล่ตามความฝันของตัวเองเสมอ ล้ม ลุก แล้วก็วิ่งต่อ แล้วก็ล้มอีก แต่ทุกครั้งที่ล้มก็จะเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ และเปิดใจรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเสมอ อีกแนวคิดหนึ่งที่เขาได้เรียนรู้ผ่านปัญหาที่เข้ามาก็คือการมองมันให้เป็นเหมือนกับ ‘จิ๊กซอว์ปริศนา’ ที่เขาจะได้รับรางวัลเมื่อแก้ไขมันได้ เขาจะถามตัวเองว่า “ถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้อีกในครั้งต่อไปจะทำยังไง?” และเมื่อแก้ไขปัญหาได้ก็จะได้หลักการในการใช้ชีวิตที่ดีมากขึ้น

.

2. ความฝัน + ความจริง + ความมุ่งมั่น = ชีวิตที่ประสบความสำเร็จ

.

หากคุณจดจ่ออยู่กับการไปให้ถึงความฝัน เข้าใจความเป็นจริงและรับผิดชอบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และทำสิ่งนั้นด้วยความมุ่งมั่น นั่นคือหลักการสำหรับชีวิตที่ประสบความสำเร็จแล้ว

.

เดลิโอบอกว่า ‘แต่คุณคนเดียวเท่านั้นที่จะบอกว่า ‘ชีวิตที่ประสบความสำเร็จ’ หมายความว่ายังไง’

.

บางคนอาจจะบอกว่าต้องเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกเท่านั้น หรือบางคนอาจจะบอกว่าได้เป็นเจ้าของที่ดินสักผืน ปลูกข้าว ปลูกผัก นอนกลางวัน ใช้เวลากับครอบครัว นั่นคือความสำเร็จแล้ว ซึ่งสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับคุณนั่นแหละ

.

ตราบใดที่คุณมีความสุข สุขภาพแข็งแรง และเติบโต แต่คุณก็ต้องโอบกอดยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นกับทางเลือกที่คุณเลือกด้วย โดยเฉพาะความจริงที่ไม่สวยงาม

.

เขาเล่าว่าในช่วงแรก ๆ ปัญหาที่เขาเจอ ความจริงที่ไม่สวยงาม ความผิดพลาด และจุดอ่อนของตัวเองนั้นทำให้รู้สึกเจ็บปวดอย่างมากเพราะคิดว่าตัวเองไม่เก่ง ติดอยู่กับความคิดในหัวว่าอยากจะลบล้างสิ่งเหล่านี้ออกไปให้หมด แต่พอเวลาผ่านไปก็ตระหนักว่าความเจ็บปวดทั้งหลายที่เกิดขึ้นคือวิธีที่ชีวิตบอกกับเขาว่าเขาต้องยอมรับความจริง มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้น มีอยู่และต้องรับมือกับมันให้ได้

.

3. ความเจ็บปวด + ย้อนดูตัวเอง = ความก้าวหน้า

.

ความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเดลิโอมาถึงในปี 1982 ตอนนั้นเศรษฐกิจของอเมริกาค่อนข้างกระท่อนกระแท่น เรียกว่าลูกผีลูกคน ไม่รู้จะออกหน้าไหน ความผันผวนในตลาดสูงมาก และเขาก็เชื่อว่ามันจะล่มอย่างแน่นอน

.

เขาเสี่ยงและตัดสินใจเปิดหน้าเทรดตามแนวคิดนั้น แต่มันเป็นความผิดพลาดครั้งมโหฬาร

.

ตลาดหุ้นวิ่งขึ้นอย่างแรง เป็นการขึ้นของตลาดกระทิงที่ยาวนานกว่า 18 ปี เศรษฐกิจของอเมริกาเรียกว่าบูมสุดขีด การเสี่ยงครั้งนั้นของเขาเหมือนเป็นการล้มหน้าฟาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต เรียกว่าเป็นจุดต่ำสุดเลยก็คงไม่ผิดนัก เขาหมดตัวถึงขั้นต้องไปยืมเงินพ่อเพื่อมาใช้จ่ายในบ้าน ขาดทุนอย่างหนักจนต้องตัดสินใจปลดพนักงานบริษัทออกหมด เหลือเพียงคนเดียวนั่นก็คือเขาเอง

.

เขากล่าวถึงประสบการณ์ในครั้งนั้นว่า “การผิดพลาดครั้งนั้น โดยเฉพาะผิดพลาดแบบที่ทุกคนเห็นด้วย ช่วยให้ผมถ่อมตัวลงอย่างมาก และทำให้ผมสูญเสียทุกอย่างที่สร้างมาที่ Bridgewater เลย”

.

เมื่อมองย้อนกลับไป เดลิโอรู้สึกว่าความผิดพลาดครั้งนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับเขาเลย เพราะมันช่วยปรับสมดุลให้กับแนวทางการลงทุนไม่ให้ทุ่มสุดตัวเกินไป เปลี่ยนกรอบความคิดของตัวเองไปเลยจากที่ “ฉันถูก” ไปเป็นการถามตัวเองเสมอว่า “ฉันรู้ได้ยังไงว่าตัวเองถูก?”

.

ประสบการณ์แบบนี้จะช่วยทำให้คุณย้อนกลับมาดูตัวเอง สะท้อนสิ่งที่สำคัญและบทเรียนที่ผ่านมา สูญเสียสิ่งที่เป็นของรักของหวง เจ็บป่วยถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อ บางทีอาชีพหน้าที่การงานที่คุณเคยฝันอาจจะหายไปเลยในวันพรุ่งนี้ คุณอาจจะคิดว่าชีวิตได้จบสิ้นลงไปแล้ว ไม่มีทางไปต่อแล้ว

.

แต่สุดท้าย ทุกอย่างจะผ่านไป มันจะมีทางที่ดีขึ้น อาจจะยังไม่เห็นทันที แต่เมื่อทุกอย่างสงบลง เราได้ย้อนดูตัวเองอีกครั้ง ชีวิตยังมีวันพรุ่งนี้ให้เดินต่อเสมอ

.

=======

.

อ้างอิง

.

https://www.cnbc.com/.../billionaire-ray-dalio-was-once...

 

 


PhotoStory