" อยากปัี่น " " อย่างทุบ " ก็เอาตามความสบายใจท่านฯ ก็แล้วกันนะคร๊าบ!

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า " นายตลาดตัวจริงเสียงจริงอย่างเอะอะ โผงผาง ไม่อยู่กับร่องกับรอย " นั้น มีบทบาทและอิทธิพลสูงมากต่อความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาและตลาดหุ้นทั่วโลก โดยใช้อาวุธที่ทรงอานุภาพร้ายแรงที่สุดอย่าง " สงครามการค้าและสงครามการเงินกับจีน " ในการ " ปั่นและทุบหุ้น " ซึ่งเราๆท่านๆก็ได้เห็นเป็นประจักษ์ต่อสายตาของตัวเองอย่างชัดแจ้งมาแล้ว โดย :

1) สงครามการเงิน : ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาปรับขึ้นดอกเบี้ย Fed Fund Rate ถี่และบ่อยมากในปีนี้คือปี พ.ศ 2561 โดยปรับขึ้นมาแล้วถึง 3 ครั้ง และคาดว่าจะปรับอีก 1 ครั้งในการประชุม FOMC ระหว่างวันที่ 18 - 19 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 ซึ่งมีผลทําให้ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาปรับฐานใหญ่ในปีนี้คือ ปี พ.ศ 2561 ท่านฯจึงสั่งการให้ธนาคารกลางสหรัฐอมริกาปรับดอกเบี้ย Fed Fund Rate อย่างค่อยเป็นค่อยไปหน่อย เพื่อจะให้เหลือกระสุนที่จะล่อจีนให้อยู่หมัดในยกสุดท้าย ซึ่งหลังจากที่ดื้อดึงมานานเพราะไม่เข้าใจว่าท่านฯคิดจะทําอะไรอยู่ ตอนนี้ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาก็ได้เข้าใจจุดมุ่งหมายของท่านฯและได้ให้ความร่วมมือกับท่านฯ เป็นอย่างดีแล้ว โดยออกมาแถลงว่า FOMC จะปรับดอกเบี้ย Fed Fund Rate ในปีหน้าคือปี พ.ศ 2562 เพียง 1 - 2 ครั้ง เท่านั้น แทนที่จะปรับ 3 ครั้งตามที่ได้ประกาศไว้แต่เดิม

2) สงครามการค้า : หลังจากตกลงจะพกรบกันไปอีก 90 วัน เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 แล้วสหรัฐอเมริกามีแผนว่า ถ้าจีนไม่ทําตามข้อตกลงที่ให้ไว้ ก็จะปรับขึ้นภาษีกีดกันการค้าเดิม 200,000 ล้าน USD จาก 10% เป็น 25% ในวันที่ 1 มีนาคม ปี พ.ศ 2562 และยังมีกระสุนอีก 267,000 ล้าน USD ที่จะถล่มจีนอีกระรอกใหญ่ในอนาคต แต่บังเอิญมีเหตุการณ์ที่ นาง เม่ง หวันโจว  ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน หรือ CFO ของบริษัทหัวเว่ย ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้ก่อตั้งหัวเว่ย ถูกจับกุมและตั้งข้อหาว่า " บริษัทลูกแห่งหนึ่งของหัวเว่ย ละเมิดมาตรการควํ่าบาตรของสหรัฐอเมริกา ขายอุปกรณ์ให้แก่อิหร่าน " ซึ่งทําให้สหรัฐอเมริกามีอาวุธที่จะบีบจีนต่อชนิดที่เรียกว่า " ได้ทีขี่แพะไล่ " เพราะนาง เม่ง หวันโจว ถือว่า เป็นสัญลักษณ์ความยิ่งใหญ่ของจีน เพราะบิดาของเธอคือ นาย เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยนั้น มีสายสัมพันธ์อันแนบแน่นกับรัฐบาลจีน นาง เม่ง หวันโจว ก็เลยเปรียบเสมือน " ตัวประกัน " หรือ " เชลยศึก " เพื่อที่จะนํามาต่อรองในสงครามการค้าในครั้งนี้ระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนอย่างไม่ต้องสงสัย  โดยสหรัฐอเมริกาเป็นฝ่ายที่เตรียมจะถล่มจีนต่อในระรอกต่อไป

เพราะฉะนั้น " อยากปั่น " " อย่างทุบ " ก็เอาตามความสบายใจท่านฯ ก็แล้วกันนะคร๊าบ!

หมายเหตุ : โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง ( จากปัจจัยขับเคลื่อนและผลักดันโดยประธานาธิบดี Donald Trump ), ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ ( จากปัจจัยขับเคลื่อนและผลักดันโดยนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ) และ สภาวะตลาดหมี ( จากปัจจัยขับเคลื่อนและผลักดันโดยวัฏจักรเศรษฐกิจขาลงรอบใหญ่วิเคราะห์โดย Ray Dalio  ) ใน  longtunbysak.blogspot.com