ตอนนี้ " เม่า " ยังไม่มั่นใจ เพราะการจัดตั้งรัฐบาลของไทยยังไม่มีความแน่นอน อีกทั้งจะมีปัจจัยที่ไม่มีความแน่นอนอื่นๆอีกเป็นพัน เป็นหมื่นปัจจัยทั่วโลก
" เม่า " ยังไม่รู้ว่า ถ้าการเมืองไทยเกิดความวุ่นวายขึ้นมาอีก ทหารก็จะออกมาปฏิวัติรัฐประหาร และการเมืองก็ยังจะอยู่ในขั้วปัจจุบัน เพราะจะทําให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยดี และเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้นก็ไม่น่าจะมีผลต่อตลาดหุ้นมากนักเพราะคนส่วนใหญ่ก็คาดการณ์ไปในทางนี้อยู่แล้ว
" เม่า " จึงยังรอสะสมความมั่นใจขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563 ที่ Down Jones น่าจะปรับตัวขึ้นไปยืนที่ 50,000 จุด และ Set Index ปรับตัวขึ้นไปยืนที่ 5,000 จุด " เม่า " จึงจะมั่นใจแบบสุดๆ โดยการมีบ้านขายบ้านมีรถขายรถ และใช้บัญชี Margin แบบสุดๆ ทุ่มลงทุนไปในหุ้นทั้งหมด และเหตุการณ์ต่อมาก็เกิดขึ้นคือ " เม่า " หมดตูด เพราะ Down Jones ปรับตัวลงมาจาก 50,000 จุด เหลือเพียง 15,000 จุด และ Set Index ปรับตัวลงมาจาก 5,000 จุด เหลือ 1,500 จุด เพราะฟองสบู่โลกแตกเนื่องจากปัญหาหนี้สินท่วมโลกในปี พ.ศ 2564 นั่นเอง
และเมื่อถึงตอนนั้น ผู้โพสต์ก็จะทําการ " Short Set 50 Index Futures " จาก 5,000 จุด ลงมาที่ 1,500 จุด ให้รวยเละกันไปอีกข้างหนึ่งเลย
สรุป ผลตอบแทนขา Long สูงสุด +7,085.55% และผลตอบแทนขา Short สูงสุด +7,085.55% รวม 2 ขา ผลตอบแทนสูงสุด 7,085.55 + 7,085.55 = +14,171.1% ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม ปี พ.ศ 2562 ถึง วันที่ 30 ธันวาคม ปี พ.ศ 2564 หรือประมาณ เกือบ 3 ปี
หมายเหตุ : 1) ตัวเลขที่คาดการณ์ในอนาคตเป็นตัวเลขบอกใบ้แนวโน้มเพื่อให้เห็นภาพตามความคิดเห็นของผู้โพสต์เฉยๆ เพราะตัวเลขจริงๆ ไม่มีใครบอกได้อย่างถูกต้องแม่นยํา ครับ
2) โปรดติดตามการ Long Set 50 Index Futures ในระยะยาวได้ใน longtunbysak.blogspot.com