นักเศรษฐศาสตร์ "เฟด" เตือนปี 66 มีโอกาสเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยถึง 50%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางสหรัฐได้บรรยายสรุปให้กับผู้กำหนดนโยบายในเดือนพฤศจิกายนว่า โอกาสของภาวะถดถอยของสหรัฐในปี 2566 นั้นเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 50% เนื่องจากความเสี่ยงของการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง ความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
รายงานการประชุมระบุว่า “การเติบโตที่ซบเซาของการใช้จ่ายภายในประเทศของภาคเอกชนที่แท้จริง แนวโน้มทั่วโลกที่แย่ลง และสภาวะทางการเงินที่ตึงตัว ล้วนถูกมองว่าเป็นความเสี่ยงด้านลบที่สำคัญในการคาดการณ์เศรษฐกิจ นอกจากนี้ความเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่องอาจต้องใช้ปริมาณที่มากขึ้นกว่าที่คาดไว้ในสภาพการเงินที่ตึงตัว ถูกมองว่าเป็นความเสี่ยงขาลงอีกประการหนึ่ง”
“ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงยังคงตัดสินว่าความเสี่ยงในการประมาณการพื้นฐานสำหรับกิจกรรมจริงนั้นเบ้ไปทางด้านลบ และมองว่ามีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงปีหน้าซึ่งเกือบจะเป็นไปได้เท่ากับพื้นฐาน”
ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Bloomberg ในเดือนนี้เห็นว่ามีโอกาส 65% ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2566 โดยอิงจากค่ามัธยฐาน แบบจำลองเศรษฐศาสตร์ของ Bloomberg ทำให้ความน่าจะเป็นอยู่ที่ 100%
ในการประชุม FOMC เลือกที่จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของธนาคารกลางขึ้น 0.75% นับเป็นการปรับขึ้นครั้งที่ 4 ติดต่อกันเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งปีนี้พุ่งสูงขึ้นเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ทศวรรษ แต่เจ้าหน้าที่ยังส่งสัญญาณว่าจะชะลอการคุมเข้มในไม่ช้า ซึ่งจะทำให้ธนาคารกลางมีเวลามากขึ้นในการตัดสินผลกระทบของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งก่อนต่อเศรษฐกิจ