เมื่อเซียนเริ่มเปิดไพ่ ซื้อหุ้นจีนครั้งใหญ่ รายย่อยอย่างเราจะตาม ดีไหม ?

เมื่อเซียนเริ่มเปิดไพ่ ซื้อหุ้นจีนครั้งใหญ่ รายย่อยอย่างเราจะตาม ดีไหม ? 
.
เมื่อไม่นานมานี้ นักลงทุนในตำนานอย่างคุณไมเคิล เบอร์รี่ ได้ประกาศว่ากองทุนที่เขาบริหารอยู่ คือ Scion Asset Management
ได้เข้าซื้อหุ้นจีน ขนาดใหญ่ 2 ตัวด้วยกัน ประกอบไปด้วย
1. หุ้น Alibaba 1.25 แสนหุ้น 
2. หุ้น JD.com 3.60 แสนหุ้น
ซึ่งทั้ง 3 ตัวอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน คือ ธุรกิจ E-Commerce 
และทำให้นักลงทุนกลับมาสนใจในหุ้นจีนอีกครั้ง
.
ถึงแม้ว่า คุณไมเคิล เบอร์รี่ จะไม่ได้บอกเหตุผลว่าทำไมถึงซื้อหุ้นจีน
แต่สื่อก็วิเคราะห์ว่า น่าจะมาจากเรื่องของหุ้นจีนในภาพรวมมีราคา "ถูกเกินไป"
ตัวอย่างเช่น Alibaba มี Market Cap. อยู่ที่ 211 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่กลับมีเงินสดในบริษัทมากถึง 85.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ส่งผลให้ค่า Forward P/E อยู่ที่ราวๆ 6 เท่า เท่านั้นเอง ซึ่งถือว่าไม่แพงเลย
.
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการซื้อหุ้นคืนอีกหลายครั้ง เช่น ใน 4Q66 หุ้น Alibaba ได้ซื้อหุ้นคืนมูลค่า 2.9 พันล้านเหรียญ
และซื้อเพิ่มอีก 4.8 พันล้านเหรียญ ใน 1Q67 
.
ถ้าเราพูดธุรกิจ E-Commerce  นอกจากจะมี Alibaba และ JD.com แล้ว
ยังมีอีกบริษัทที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ Pinduoduo ที่มาแรงมากในระยะหลังๆ โดยใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า Group Buying หรือ การซื้อแบบกลุ่ม
ที่ทำให้ราคาต่อชิ้นถูกกว่า ที่ล่าสุด Market Cap ของหุ้นได้แซงหน้า Alibaba เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
.
สุดท้าย เราจะซื้อหุ้นทั้ง 3 ตัวได้อย่างไร ? 
- หุ้น JD.com รหัส JD (Nasdaq) และ 9618 (HKEX)
- หุ้น Alibaba รหัส BABA (Nasdaq) และ 9988 (HKEX)
- หุ้น Pinduoduo รหัส PDD (Nasdaq)