ห้องเม่าปีกเหล็ก

วิเคราะห์ 3 ปั๊มน้ำมันรายใหญ่

โดย ปั่นปลูกปลูกปั่น
เผยแพร่ :
769 views

วิเคราะห์ 3 ปั๊มน้ำมันรายใหญ่

ท่ามกลางค่าการตลาดฟื้น...นักท่องเที่ยวทะลัก

 

.

เมื่อท่องเที่ยวฟื้นตัว หุ้นกลุ่มสถานีบริการน้ำมัน จึงเป็นอีกหนึ่งในกลุ่มที่จะได้รับผลบวก ผสานกับล่าสุดค่าการตลาดเข้าสู่โหมดฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ดังนั้น Wealthy Thai จึงได้รวบรวมหุ้นในกลุ่มดังกล่าวมาฝากนักลงทุน โดยในแต่ละบริษัทจะมีทิศทางการเติบโตแค่ไหน บทความนี้มีคำตอบแล้ว

.

ความเห็นนักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ประเมินกลุ่มสถานีบริการน้ำมัน ค่าการตลาดฟื้นตัวดี โดยก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีการปรับค่าการตลาดเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลง

.

โดยส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมันทั้งดีเซลและเบนซิน ฟื้นตัวต่อเนื่อง ขณะที่กองทุนน้ำมันติดลบน้อยลง ล่าสุดอยู่ที่ -9.7 หมื่นล้านบาท มองเป็นผล “บวก” ต่อกลุ่มสถานีบริการน้ำมัน อย่าง PTG และ SUSCO

.

อย่างไรก็ตาม Wealthy Thai ได้รวบรวมความน่าสนใจของหุ้นกลุ่มสถานีบริการน้ำมันในตลาดหุ้นไทยที่ถูกถามเข้ามาบ่อยครั้งมาฝากนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็น OR, PTG, และ BCP โดยในปี 66 เทรนด์การเติบโตจะน่าสนใจหรือไม่? ท่ามกลางปรับปัจจัยที่เข้ามาต่อเนื่อง

.

OR กำไรไตรมาส 1 โตเด่น

มาเริ่มกันที่ OR นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ประเมินไตรมาสที่แย่ที่สุดของ OR ได้ผ่านไปแล้ว คาดการณ์ผลประกอบการจะฟื้นตัวเมื่อเทียบไตรมาสก่อน รูปแบบ V-Shape ในไตรมาส 1/66 จะหนุนราคาหุ้นให้ปรับตัวขึ้น มูลค่าปัจจุบันยังอยู่ในระดับน่าสนใจ โดยซื้อขายที่ PER ปี 2566 เพียง 18.1 เท่า ซึ่งต่ำที่สุดตั้งแต่ IPO จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 34 บาท

.

ทั้งนี้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานได้อนุมัติการปรับค่าการตลาดของผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันดีเซลและก๊าซโซลีน) ให้กลับเข้าสู่ระดับปกติดังเช่นปี 2563 ที่ประมาณ 2 บาท/ลิตร โดยนโยบายนี้ส่งผลให้ค่าการตลาดสำหรับน้ำมันดีเซลสูงขึ้นประมาณ 0.60 บาท/ ลิตร (จากเดิมอยู่ที่ 1.40 บาท/ลิตร) ขณะที่ค่าการตลาดน้ำมันก๊าซโซลีนจะลดลง 0.90-1.20 บาท/ลิตร

.

จากข้อมูลของ EPPO ค่าการตลาดเฉลี่ยของน้ำมันก๊าซโซลีน, ก๊าซโซฮอล์, และดีเซลเพิ่มขึ้นเป็น 2.14 บาท/ลิตรในเดือน มี.ค.จาก 2.02 บาท/ลิตร ในเดือน ธ.ค. 2565 ในขณะที่ค่าการตลาดเฉลี่ยของน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นเป็น 1.70 บาท/ลิตรในเดือน มี.ค. จาก 1.41 บาท/ลิตรในเดือนธ.ค. 2565

.

โดย OR น่าจะได้รับประโยชน์จากการปรับนโยบายดังกล่าว เนื่องจากบริษัทมีปริมาณขายน้ำมันดีเซล (คิดเป็น 47% ของปริมาณขายรวม/60% ของปริมาณขายปลีกน้ำมัน) มากกว่าปริมาณขายน้ำมันเบนซิน (คิดเป็น 24% ของปริมาณขายรวม/40% ของปริมาณขายปลีกน้ำมัน) ดังนั้นจึงคาดว่ากำไรขั้นต้นจากธุรกิจน้ำมันของ OR จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ 0.80-1.00 บาท/ลิตรในไตรมาส 1/66

.

นอกจากแนวโน้มธุรกิจน้ำมันที่ดีขึ้นแล้ว ธุรกิจ non-oil ของ OR (F&B, CVS และพื้นที่ให้เช่า) คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ในไตรมาส 1/66 เช่นกัน หนุนโดยการขยายตัวของอัตรากำไรจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง จากแนวโน้มที่กล่าวมา จึงคาดว่า OR จะรายงานกำไรฟื้นตัวในไตรมาส 1/66 เป็นรูปแบบ V-shape เมื่อเทียบไตรมาสก่อน โดยคาดทั้งปี 66 จะมีกำไรสุทธิ 14,322 ล้านบาท เทียบปีก่อนที่ 10,370.40 ล้านบาท

.

ส่วนนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) แนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 26 บาท/หุ้น คงมุมมองไตรมาส 4/65 เป็นจุด bottom สามารถซื้อเก็งกำไรรับการฟื้นตัวในไตรมาส 1/66 ที่กำไรขั้นต้น/ลิตรฟื้นตัว เพราะนำเข้าน้้ามันแพงมาขายลดลง ส่วนภาพปี 66 คาดกำไรโต 31%จากปีก่อน ตามปริมาณขายทุกส่วนธุรกิจที่ฟื้นตัว ตามกิจกรรมเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว รวมถึงขยายสาขาต่อเนื่อง

.

PTG ลุ้นกำไรปีนี้โต 70%

ต่อมา PTG นักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อ PTG ราคาเป้าหมาย 18.50 บาท โดยผู้บริหารประเมินค่าการตลาดน้ำมันอยู่ในระดับสูงในปี 66 หลัง กบง. ประกาศให้ค่าการตลาดกลับสู่ภาวะปกติ รวมทั้ง ปริมาณการขายน้ำมัน (Oil sales volume) ยังคงเติบโตต่อเนื่องในปี 66 โดยตั้งเป้าโต 8-10% จากปีก่อน พร้อมตั้งงบลงทุน (CAPEX) ที่ 5-6 พันล้านบาท และธุรกิจ Palm Complex คาดดีขึ้นจากปีก่อนจากความต้องการที่มากขึ้นหลังภาครัฐปรับสูตรจาก B5 เป็น B7

.

ดังนั้นคาดกำไรสุทธิปี 66 ที่ 1.6 พันล้านบาท โต 70% จากปีก่อน เนื่องจาก ค่าการตลาดคาดเฉลี่ยที่ 1.85 บาท/ลิตร(เทียบปี 65 ที่ 1.84 บาท/ลิตร), sales volume ที่ 5.5 พันล้านลิตร โต 3% จากปีก่อน และส่วนแบ่งกำไร (Palm Complex) ที่ 100 ล้านบาท (เทียบปี 65 ที่ -177 ล้านบาท)

.

BCP มีอัพไซด์จาก ESSO

BCP นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คงประมาณการกำไรสุทธิปี 66 – 67 ของ BCP ที่ 5.2 พันล้านบาท ทั้งนี้ประมาณการ และราคาเหมาะสมมี Upside จากการเข้าซื้อหุ้น ESSO ประเมินเบื้องต้นกำไรปี 67 (กรณี

.

รวมงบ ESSO เต็มปี) จะมี Upside อีก 54% และมูลค่าพื้นฐานจะเพิ่มอีก 5 – 10 บาท/หุ้นจาก ราคาเหมาะสม ณ ปัจจุบัน 34.50 บาท/หุ้น (ขึ้นอยู่กับราคาซื้อขายสุดท้าย และสัดส่วนการเข้าลงทุน) คงคำ แนะนำ TRADING

 


ปั่นปลูกปลูกปั่น