กลุ่มผู้รับเหมาตอกเสาเข็ม : เตรียมฟื้นใน 2Q68
• ประเด็นสำคัญ เมื่อวันที่ 27-28 พ.ค. SEAFCO และ PYLON เข้าร่วมงาน Opportunity Day ของ SET เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 และแนวโน้มธุรกิจโดยภาพรวมเป็นไปในเชิงบวก ทั้ง 2 บริษัทมีมุมมองที่คล้ายคลึงกัน ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1) SEAFCO และ PYLON คาดว่ารายได้และกำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 2/2568 โดยมีแนวโน้มที่แข็งแกร่งต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 3-4/2568 2) ทั้ง 2 บริษัทกำลังเพิ่มจำนวนแรงงานเพื่อรองรับโครงการใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น และ 3) คาดว่าปริมาณ backlog ในปัจจุบันจะช่วยสนับสนุนรายได้จนถึงกลางปี 2569 นอกจากนั้น ยังมีความไม่แน่นอนจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงตามที่คาดไว้ แต่ SEAFCO มีเป้าหมายที่จะชดเชยความเสี่ยงดังกล่าวโดยรับงานจากภาครัฐเพิ่มเติม ขณะที่ PYLON คาดว่าจะได้รับงานจากภาคเอกชนเพิ่มเติม โดยได้รับแรงหนุนจากการแข่งขันในตลาดที่ลดลง
• Backlog SEAFCO และ PYLON ยังคงมีปริมาณ backlog อยู่ในระดับสูง โดย SEAFCO รายงานปริมาณ backlog ที่ 2.7 พันลบ. (+163% YoY และ +51% QoQ) สูงสุดในรอบ 8 ปี ในไตรมาส 1/2568 และได้รับ backlog ใหม่มูลค่า 1 พันลบ. โดยส่วนใหญ่มาจากโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม ขณะที่ PYLON ปริมาณ backlog ที่ 1.5 พันลบ. (+90% YoY และ +15% QoQ) สูงสุดในรอบ 3 ปี ในไตรมาส 1/2568 และได้รับปริมาณ backlog ใหม่มูลค่าประมาณ 500 ลบ. รวมถึง รพ.กรุงเทพคริสเตียน เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน และ 16 เรสซิเดนซ์
• แนวโน้ม ทั้ง 2 บริษัทคาดว่ารายได้และกำไรปกติจะเติบโต QoQ ในไตรมาส 2/2568 โดยเฉพาะ SEAFCO เนื่องจากทั้ง 2 บริษัทมองเห็นสัญญาณของกิจกรรมก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น QTD หากอิงจากเป้าหมายทางธุรกิจของบริษัท เราคาดว่ากำไรปกติของ SEAFCO ไตรมาส 2/2568 จะอยู่ที่ 49 ลบ. เทียบกับผลขาดทุนปกติที่ 61 ลบ. ในไตรมาส 1/2568 และ 0.2 ลบ. ในไตรมาส 2/2567 โดยคาดว่ากำไรจะยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 3-4/2568 ขณะเดียวกัน เราคาดการณ์กำไรปกติไตรมาส 2/2568 ของ PYLON จะอยู่ที่ 27 ลบ. เพิ่มขึ้น 58% QoQ และพลิกจากผลขาดทุนปกติที่ 8.2 ลบ. ในไตรมาส 2/2567 โดยคาดว่ากำไรจะยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 3-4/2568 เช่นกัน แต่หลังจากรับรู้ backlog ทั้งหมดที่มีในปัจจุบันแล้ว (ภายในกลางปี 2569) แนวโน้มยังคงไม่ชัดเจน แต่ทั้ง 2 บริษัทกำลังดำเนินการอย่างเชิงรุกเพื่อหา backlog หลังจากจ้างแรงงานเพิ่มเติม
• มุมมองเชิงบวก เราคงมุมมองที่เป็นบวกต่อกลุ่มผู้รับเหมาตอกเสาเข็ม เราชอบทั้ง SEAFCO และ PYLON เนื่องจากเราคาดว่ากำไรปกติจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 2568 โดยได้รับแรงหนุนจากการแข่งขันที่เริ่มผ่อนคลายลงในกลุ่มธุรกิจนี้ หลังจากที่ผู้รับเหมาตอกเสาเข็มรายใหญ่รายหนึ่งออกจากธุรกิจ อย่างไรก็ตาม เรายังคงระมัดระวังหลังจากที่ปริมาณ backlog ล่าสุดของผู้รับเหมาตอกเสาเข็มจะหมดลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2569 เนื่องจากแนวโน้มในการได้ backlog ใหม่ในหลังครึ่งหลังของปี 2569 ยังไม่แน่นอน
หุ้นเด่น
SEAFCO “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 3.43 บาท
