ใกล้จบยกที่ 1 ของสงครามค่าเงินรัสเซีย
https://www.facebook.com/drkobsak
3 วันที่ผ่านมา ธนาคารกลางรัสเซียดูเหมือนจะขีดเส้นไว้ที่ 130 รูเบิล/ดอลลาร์
โดยพยายามลากค่าเงินรูเบิล ให้มีเสถียรภาพ และสู้กันที่จุดนี้
ทั้งนี้ ที่บอกว่าใกล้จบยกที่ 1 ก็เพราะว่า ทุกคนได้ออกหมัดไปเกือบหมดแล้ว
นโยบายที่ทุกคนกังวลใจที่สุด ก็คือ "การไม่ซื้อน้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย" ดูเหมือนว่าจะมีเพียงแค่ สหรัฐ เป็นหลัก ที่จะเป็นผู้ออกนโยบายดังกล่าว โดยที่ประเทศในกลุ่มยุโรป โดยเฉพาะเยอรมัน ที่ยังคงต้องใช้ก๊าซจากรัสเซียต่อไป
การจะหาทางเลือกอื่นมาทดแทน คงต้องใช้เวลา ในการสร้างโครงสร้างต่างๆ มารองรับ เช่นท่ารับ LNG เป็นต้น
ส่วนการ Sanctions อื่น ๆ ของฝั่งตะวันตก ก็ได้ดำเนินการไปเกือบหมดแล้วเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการ Freeze เงินสำรองต่างประเทศของรัสเซีย การกันออกจากระบบ Swift การไม่ให้ทำธุรกรรมผ่านธนาคารของสหรัฐและพันธมิตร การไม่ให้ระดมทุน
ส่วนฝั่งรัสเซีย ก็ได้ออกหมัดเกือบหมดแล้วเช่นกัน
นโยบายสุดท้ายที่ออกมาล่าสุด เมื่อวานนี้ ก็คือ การห้ามไม่ให้ธนาคารพาณิชย์ในรัสเซียแลกธนบัตรเงินตราต่างประเทศแก่คนในรัสเซีย เป็นเวลา 6 เดือน
ส่วนคนที่มีบัญชีเงินตราต่างประเทศอยู่แล้ว สามารถถอนได้ แต่ไม่เกิน 10,000 ดอลลาร์ ที่เหลือต้องรับเป็นเงินรูเบิลเท่านั้น
นโยบายนี้เป็นหมัดเด็ดสุดท้าย ที่ออกมาเพื่อใช้ร่วมกับนโยบายอื่นที่ออกมาแล้ว
ที่จะมีผลก็เพราะ ปกติแล้วการเก็งกำไรสามารถทำได้จากคนประมาณ 4 กลุ่ม
1. นักลงทุนและเก็งกำไรจากต่างประเทศ
2. ธนาคารพาณิชย์ในรัสเซีย
3. ผู้ส่งออกนำเข้า
4. ประชาชน
ทั้ง 4 กลุ่มนี้ ธนาคารกลางรัสเซียได้ประกาศควบคุมหมดแล้ว
นักลงทุน - ถูกปิดตลาดหลักทรัพย์ ถูกห้ามไม่ให้ขายสินทรัพย์ในรัสเซีย
ธนาคารพาณิชย์ในรัสเซีย - อยู่ในมือของธนาคารกลางแต่ต้น ไม่น่ากังวลใจ
ผู้ส่งออก-นำเข้า - ถูกกำหนดให้เอาเงินดอลลาร์ที่ได้มา 80% ออกมาขาย (ไม่ให้เก็บไว้ให้เก็งกำไร)
กลุ่มสุดท้ายที่ยังเป็นช่องโหว่ก็คือ ประชาขน ที่เข้าแถวแลกเงินในช่วงที่ผ่านมา
ยิ่งค่าเงินรูเบิลอ่อน คนยิ่งเข้าแถวมากขึ้น
ทำให้เงินตราต่างประเทศไหลออกจากคลังหลวงของธนาคารกลางรัสเซียมากขึ้น
หากปล่อยไปเช่นนี้ เงินสำรองร่อยหรอ ก็จะกลายเป็นปัญหาในที่สุด
จึงไม่น่าแปลกใจว่า เมื่อวานนี้ จึงออกมาประกาศนโยบายดังกล่าว ทำให้คนที่จะเก็งกำไรทั้ง 4 กลุ่ม ถูกจำกัดการดำเนินการ ครบทุกกลุ่ม
สิ่งที่ยังพอเป็นช่องโหว่เหลืออยู่อยู่บ้าง คือ การซื้อทอง การซื้อคริปโต การจ่ายชำระพันธบัตรและหนี้ต่างๆ ของรัฐและเอกชน (ซึ่งสุดท้าย ก็สามารถประกาศ Debt Moratorium ได้)
เรียกว่า Extraordinary Times, Extraordinary Measures
ด้วยนโยบายเหล่านี้ สมรภูมิรบเรื่องค่าเงิน จะเข้าสู่สมดุลมากขึ้น
เอื้อให้ธนาคารกลางรัสเซียสามารถประคองสถานการณ์ และตัดสินใจอีกครั้งว่า 130 รูเบิล ตลาดมีเสถียรภาพพอหรือไม่
ส่วนสหรัฐและพันธมิตร NATO ก็ได้บรรลุผลเช่นกัน
เพราะหากเราย้อนกลับไปดู ค่าเงินรูเบิลได้อ่อนค่าลงต่อเนื่อง
จากช่วงแรกของการสถาปนารัสเซีย ค่าเงินอยู่ที่ 1 รูเบิล/ดอลลาร์
แต่ล่าสุดอ่อนจาก 75 รูเบิล/ดอลลาร์ ไปแตะ 177 รูเบิล/ดอลลาร์
ก่อนกลับมาที่ 130 รูเบิล/ดอลลาร์
ทั้งหมดหมายความว่า ในเวลาสั้นๆ เพียง 10 กว่าวัน ขนาดเศรษฐกิจของรัสเซียได้เล็กลงอีกครึ่ง (เมื่อคิดเป็นรูปเงินดอลลาร์) และความสามารถในการสะสมเทคโนโลยี สะสมยุทโธปกรณ์ และแข่งขันในเชิงอำนาจทางการทหารจะลดลงมาก
ยิ่งไปกว่านั้น เศรษฐกิจรัสเซียจะต้องปรับตัวกับเงินเฟ้อสูง และวิกฤตทางเศรษฐกิจ วิกฤตทางสังคม
Mission Accomplished!!! สำหรับสหรัฐและ NATO
วันพรุ่งนี้ จะมาเล่าเรื่องอื่นครับ