ที่ดินผืนงามใจกลางเมืองของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากจะเป็นที่ตั้งของจุฬาฯ ในฐานะสถาบันการศึกษาแล้ว บริเวณนี้ยังเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งกลางกรุงเทพมหานครอีกด้วย โดยล่าสุดทำเลทองแห่งนี้ตกเป็นข่าวฮือฮาอีกครั้ง เมื่อยักษ์ค้าปลีกบริษัทเช็นทรัลพัฒนาจำกัด (มหาชน) หรือ CPN ได้คว้าประมูลสิทธิ์พัฒนาที่ดินบล็อก A แปลงโรงหนังสกาลา และ อาคารพาณิชย์เก่า 79 คูหา โซนสยามสแควร์ เนื้อที่ 7 ไร่ 31 ตารางวาไปครอง ภายหลังเปิดประมูลไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ ปลุกย่านช็อปปิ้งศูนย์กลางเมืองให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังเกิดวิกฤติโควิด-19
คิวต่อไปที่ทางสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จ่อนำออกมาประมูล คือ โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณหมอน 34 เขตพาณิชย์สวนหลวง-สามย่าน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวถูกกำหนดไว้ให้เป็นศูนย์การแพทย์และพื้นที่เชิงพาณิชย์ (Wellness/Health Complex) ประกอบไปด้วย ศูนย์การแพทย์ที่สามารถให้บริการทางการแพทย์ครบวงจร สามารถให้การดูแลผู้ป่วยในระดับตติยภูมิ และมีการใช้นวัตกรรมทางการแพทย์ขึ้นสูง มีศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Excellent Center) และศูนย์การดูแลสุขภาพ โดยใช้แนวทาง Smart Hospital และพื้นที่เชิงพาณิชย์อื่น ๆ ที่สอดคล้องและส่งเสริมกับแนวคิด Wellness/Health Complex) เพื่อตอบโจทย์การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) ที่สอดคล้องกับแนวคิดของรัฐบาลที่ผลักดันให้ประเทศไทยเป็น Medical Hub โดยหลังโควิด-19 คลี่คลาย คาดว่าจะมีบทบาทมากยิ่งขึ้น ซึ่งในขณะนี้โครงการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อข้อกำหนดและหลักเกณฑ์การเข้าร่วมยื่นข้อเสนอแก่เอกชน
อย่างไรก็ตาม เมื่อลองเปิดเอกสารข้อกำหนดของโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณหมอน 34 เขตพาณิชย์สวนหลวง-สามย่าน ในเว็บไซต์ของสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (https://pmcu.co.th/wp-content/uploads/2021/08/210820-draft-public-hearing-block34.pdf) พบ 2 ประเด็นที่อยากเสนอแนะต่อสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อพิจารณา
- สัญญาเช่าระยะเวลาอย่างน้อยเพียง 30 ปี ยังไม่ดึงดูดใจเอกชนผู้ลงทุนมากพอ
ในการนำที่ดินดังกล่าวมาพัฒนาให้เป็นที่พักอาศัยในรูปแบบมิกซ์ยูส และสร้างเป็นศูนย์การแพทย์ขั้นสูง (Wellness Centre & Medical Hub) นั้น ใช้งบประมาณการลงทุนสูงและใช้เวลาคืนทุนนาน ต่างกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่น ที่อาจจะคืนทุนได้ในระยะเวลาที่รวดเร็วกว่า อีกทั้งเมื่อครบสัญญาเช่า 30 ปี สิ่งปลูกสร้างทุกอย่าง ต้องคืนสิทธิให้กับสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เหตุนี้ระยะเวลาสัญญา 30 ปีอาจจะไม่ดึงดูดใจเอกชนมากพอ ที่จะเข้ามาเสี่ยงร่วมลงทุน เพราะมองว่าไม่คุ้มทุน
- สัดส่วนเกณฑ์การให้คะแนนตัดสินผู้ชนะประมูล ไม่สมเหตุสมผล
จากสัดส่วนเกณฑ์การให้คะแนนทั้ง 2 ข้อ ได้แก่ คะแนนข้อเสนอด้านเทคนิค 35% และข้อเสนอด้านผลประโยชน์ตอบแทน 65% และในกรณีที่เอกชนผู้ยื่นข้อเสนอได้คะแนนรวมสูงที่สุดเท่ากัน ผู้ที่ได้คะแนนข้อเสนอด้านผลประโยชน์ตอบแทนสูงกว่าจะเป็นผู้ชนะ
จากตารางข้างต้นดูเหมือนเกณฑ์การให้คะแนนนี้ไม่สอดคล้องตามวัตถุประสงค์ของการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งหากจุดมุ่งหมายของการนำพื้นที่แปลงนี้ออกประมูล เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศและประชาชน เหตุใดเกณฑ์การพิจารณาจึงให้น้ำหนักในเรื่องของการพัฒนาพื้นที่ เพียงน้อยนิด หากเป็นไปได้การปรับเกณฑ์หาเอกชนผู้ชนะ ควรเป็นผู้ที่เสนอแผนโครงการที่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพต่อโครงการสูงสุด มากกว่าผลประโยชน์ตอบแทนจะดีกว่าหรือไม่? ฝากไว้ให้สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพิจารณา
แต่หากสุดท้าย สำนักจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ ตัดสินใจใช้เกณฑ์การตัดสินตามตารางข้างต้นคงได้แต่พูดว่า เงินมาผ้าหลุดจริง ๆ
==================
Ref: ไล่ทุบ 4,000 ตึกแถว ปั้นมิกซ์ยูส “สวนหลวง-สามย่าน”ขุมทองจุฬาฯ291ไร่