โดย Fin-trading
เผยแพร่ : 
88 viewsเปิดชื่อ 10 หุ้นปันผลเด่นปี 60 ชูผลตอบแทนสูงกว่า 0.80% ค่าเฉลี่ยของตลาด ด้านราคายัง Laggard นำทีมโดย AP, TISCO, AMATA, HANA, KTB, QH, SC, SCC, SIRI, TCAP
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ ที่ได้ทำการวิเคราะห์หุ้นที่ให้ผลตอบแทนปันผลสูงในช่วงปี 60 ขณะที่ราคาหุ้นนั้นยังปรับตัวน้อยกว่าตลาด
โดยนายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา (สิ้นสุดวันที่ 6 ก.พ.) หุ้นปันผลที่อยู่ในกลุ่ม SETHD ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 1.6% สูงกว่าตลาดรวม SET Index ที่ปรับเพิ่มขึ้น 0.80% ซึ่งเป็นไปตามที่ฝ่ายวิเคราะห์ทรีนีตี้ได้คาดการณ์ว่านักลงทุนจะหันมาโฟกัสการลงทุนในหุ้นปันผลมากขึ้น หลังหลายบริษัทเตรียมที่จะรายงานผลประกอบการประจำปี 2559 และประกาศจ่ายเงินปันผล
ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงแนะนำให้ถือลงทุนในหุ้นปันผลต่อเนื่อง ประกอบด้วย AP, TISCO, AMATA, HANA, KTB, QH, SC, SCC, SIRI, TCAP ซึ่งราคาหุ้นหลายบริษัทในกลุ่มนี้ยังคงปรับตัว Laggard ดังนั้นสำหรับนักลงทุนที่สนใจเข้าลงทุนใหม่ จึงสามารถโฟกัสการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ได้อยู่
สำหรับหุ้นปันผลที่ให้ผลตอบแทนชนะตลาดมีดังนี้ AP, TISCO, AMATA, HANA, KTB, QH, SC, SCC, SIRI, TCAP
อันดับที่ 1 บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP โดยบริษัทมีนโยบายเงินปันผลไม่เกินร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิในแต่ละปีซึ่งอัตราเงินปันผลตอบแทนในปี 59 อยู่ที่ 4% และปี 58 ที่ 5.20% ส่วนอัตราปันผลในปัจจุบันอยู่ที่ 4.11%
ด้าน บล.ทรีนีตี้ แนะนำ "ซื้อ" AP ให้ราคาเป้าหมาย 9.20 บาท/หุ้น โดยคาดว่าไตรมาส 4/59 จะเป็นไตรมาสที่โดดเด่นที่สุด เนื่องจากเป็นไตรมาสที่มีโครงการเสร็จพร้อมโอนใหม่ทั้งของ AP เองและโครงการภายใต้การร่วมทุน โดยกำไรสุทธิคาดว่าจะอยู่ที่ 1.23 พันล้านบาท ถือว่าสูงที่สุดสำหรับ AP
ทั้งนี้ปรับกำไรส่วนแบ่งจากโครงการร่วมทุนขึ้น เนื่องจาก AP สามารถเร่งโอนได้มากกว่าที่คาด แต่ยอด Presales ปี 2559 พลาดเป้าที่ 2.6 หมื่นล้านบาท จากการเลื่อนเปิดโครงการคอนโดไป 2 โครงการในช่วงไตรมาส 4/59 โดยที่ปี 2560 ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการโอนโครงการร่วมทุน และจากการเปิดการขายโครงการ Vittorio ที่จะเป็น Flagship ของ AP ที่จะพร้อมโอนในช่วงไตรมาส 2/60 โดยยังเลือก AP ให้เป็น Top Pick ของกลุ่ม
อันดับที่ 2 บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO นโยบายเงินปันผลประมาณ 50% หรือ สูงกว่าของกำไรสุทธิในแต่ละปี ซึ่งอัตราเงินปันผลตอบแทนในปี 59 อยู่ที่ 3.98% และปี 58 ที่ 4.71% ส่วนอัตราปันผลในปัจจุบันอยู่ที่ 3.75%
ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ "ซื้อ" TISCO ให้ราคาพื้นฐาน 75 บาท อิงกับ Gordon Growth Model ซึ่งเทียบเท่ากับ P/BV ปี 60 ที่ 1.7 เท่า
โดยประมาณการว่ากำไรสุทธิปี 60 ของ TISCO จะขยายตัวสูงถึง 22% ต่อเนื่องจากที่เติบโต 18% ในปี 59 และการซื้อพอร์ตลูกค้ารายย่อยจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์ตเตอร์ด (ไทย) (SCBT) ซึ่งคาดว่าจะทำให้กำไรสุทธิปี 61 จะขยายตัวได้สูงมากต่อเนื่องอีก ธนาคารมี ROE สูงที่ 17-18% และให้ Dividend Yield ในเกณฑ์ดีที่ประมาณ 4% ต่อปี
ทั้งนี้ คาดสินเชื่อจะฟื้นตัวดีขึ้นในปี 60 หลังจากหดตัวมาต่อเนื่อง 3 ปี โดยในส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อาจยังลดลงในบางช่วงของปี 60 แต่ถึงสิ้นปีแล้วน่าจะขยับขึ้นได้เล็กน้อย ส่วนสินเชื่อเพื่อการบริโภคและสินเชื่อเอสเอ็มอีน่าจะเติบโตดีขึ้นในปีนี้
ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว และจะตั้งสำรองฯน้อยลง เพราะมี Coverage Ratio ที่สูงมากเกือบ 140% ในสิ้นปี 59 หลังจากจัดชั้นหนี้บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) ออกจาก NPL เป็น Special Mention Loans
อันดับที่ 3 บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA นโยบายเงินปันผลประมาณ 40% หรือ สูงกว่าของกำไรสุทธิในแต่ละปี ซึ่งอัตราเงินปันผลตอบแทนในปี 59 อยู่ที่ 4% และปี 58 ที่ 5.69% ส่วนอัตราปันผลในปัจจุบันอยู่ที่ 2.99%
ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 18 บาท/หุ้น โดยมีมุมมองที่ดีต่อแนวโน้มกำไรปกติในไตรมาส 4/59 ของ AMATA ที่ 516 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 172% จากปีก่อน, ถูก 182% จากไตรมาสก่อน) ซึ่งหากรวมกับกำไรปกติช่วง 9 เดือนแรกของปีจะสูงกว่าประมาณการกำไรปกติทั้งปี 59 ของ Bloomberg consensus อยู่ราว 8%
โดยการเติบโตสูงจากปีก่อนมาจากรายได้ GPM และส่วนแบ่งกำไรฯ ที่เพิ่มขึ้น ส่วนการโตจากไตรมาสก่อนมาจากรายได้ขายที่ดิน และ GPM เพิ่มขึ้นเป็นหลัก คาดกำไรปกติไตรมาส 1/60 เติบโตได้จากปีก่อน อีกจาก backlog ที่ดินที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้คงคำแนะนำ BUY ยังคงมุมมองธุรกิจของบริษัทเติบโตต่อเนื่อง
อันดับที่ 4 บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA นโยบายเงินปันผลประมาณร้อยละ 30 - 100 ของกำไรสุทธิของงบการเงินซึ่งอัตราเงินปันผลตอบแทนในปี 59 อยู่ที่ 5.06% และปี 58 ที่ 5.59% ส่วนอัตราปันผลในปัจจุบันอยู่ที่ 4.79%
ด้าน บล.กรุงศรี แนะนำ "OUTPERFORM" ราคาเป้าหมาย 50 บาท/หุ้น โดยยังคงมุมมองว่ายอดขายผลิตภัณฑ์ IC และ PCBA จะเพิ่มขึ้นตามยอดขาย semiconductor ในตลาดโลก
ทั้งนี้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 60 ขึ้นอีก 4% หลังจากที่ปรับสมมติฐาน GPM ปี 60 เป็น 13.7% สูงขึ้นจากช่วงขาลงปี 59 ที่ 13% เล็กน้อย แนะนำให้ซื้อ มองว่าธุรกิจของบริษัทกำลังอยู่ในขาขึ้น ราคาหุ้นยังถูกเมื่อเทียบกับหุ้นอื่นในกลุ่ม และช่วงขาขึ้นรอบที่แล้ว
อันดับที่ 5 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB นโยบายเงินปันผลประมาณร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของธนาคาร ซึ่งอัตราเงินปันผลตอบแทนในปี 59 อยู่ที่ 4.29% และปี 58 ที่ 5.39% ส่วนอัตราปันผลในปัจจุบันอยู่ที่4%
ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ โดยปรับเพิ่มราคาเป้าหมายมาที่ 22 บาท จากเดิม 21 บาท เพราะได้ปรับประมาณการกำไรปีนี้ขึ้นเป็น 3.4 หมื่นล้านบาท จากการเติบโตของสินเชื่อ ตามที่ผู้บริหารให้เป้าหมายไว้สินเชื่อปีนี้จะกลับมาขยายตัวได้ 4-6% จากปีก่อนติดลบราว 6% และคาดว่าอัตราผลตอบแทนเงินปันผลอยู่ระดับดีที่ 4.5% โดยคาดจ่ายเงินปันผลงวดปี 59 ที่ 0.85 บาท/หุ้น
ทั้งนี้ คาดว่าในไตรมาส 1/60 จะมีกำไรสุทธิของ KTB จะฟื้นตัวมาที่ราว 8.26 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาส 4/59 และเพิ่มขึ้น 10% ในงวดปีก่อน รวมทั้งมองว่าราคาหุ้น KTB ยังอยู่ระดับต่ำ
อันดับที่ 6 บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH นโยบายเงินปันผลประมาณร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิของธนาคาร ซึ่งอัตราเงินปันผลตอบแทนในปี 59 อยู่ที่ 5.43% และปี 58 ที่ 3.30% ส่วนอัตราปันผลในปัจจุบันอยู่ที่ 5.38%
อันดับที่ 7 บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC นโยบายเงินปันผลประมาณร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของธนาคาร ซึ่งอัตราเงินปันผลตอบแทนในปี 59 อยู่ที่ 5.26% และปี 58 ที่ 2.54% ส่วนอัตราปันผลในปัจจุบันอยู่ที่ 4.79%
อันดับที่ 8 บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC นโยบายเงินปันผลประมาณร้อยละ 40-50 ของกำไรสุทธิของธนาคาร ซึ่งอัตราเงินปันผลตอบแทนในปี 59 อยู่ที่ 3.23% และปี 58 ที่ 2.72% ส่วนอัตราปันผลในปัจจุบันอยู่ที่ 3.67%
อันดับที่ 9 บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI นโยบายเงินปันผลประมาณร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิของธนาคาร ซึ่งอัตราเงินปันผลตอบแทนในปี 59 อยู่ที่ 7.23% และปี 58 ที่ 7.89% ส่วนอัตราปันผลในปัจจุบันอยู่ที่ 6.15%
อันดับที่ 10 บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP นโยบายเงินปันผลนั้นบริษัทจะพิจารณาถึงผลประกอบการ และผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นในระยะยาว (โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติม) ซึ่งอัตราเงินปันผลตอบแทนในปี 59 อยู่ที่ 4.09% และปี 58 ที่ 4.54% ส่วนอัตราปันผลในปัจจุบันอยู่ที่ 3.69%
*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน
ที่มา ข่าวหุ้น
