หุ้นไทยปิดลบ 3.44 จุด ติดตามผลการประชุม ECB – BOJ – ต่างชาติขาย 1.6 พันลบ.
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 15 มิถุนายน ปิดที่ระดับ 1,557.71 จุด ลดลง 3.44 จุด (-0.22%) โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวสูงสุดที่ 1,566.14 จุด ต่ำสุดที่ 1,555.54 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,156.32 ล้านบาท ขณะที่กองทุนขายสุทธิ 708.85 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,612.51 ล้านบาท
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ทรงตัว รอดูผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในคืนวันนี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 3.5%
รวมถึงผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)ในคืนวันที่ 16 มิ.ย.นี้ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่า คณะกรรมการ BOJ จะคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษในการประชุมครั้งนี้
อย่างไรก็ตามหุ้น DELTA ที่ปรับตัวขึ้นมาราว 10% ทำให้ช่วยประคองตลาดเอาไว้ได้บ้าง หลังพบกระแสเงินทุนต่างชาติไหลออก รับผลกระทบธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้น
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบสลับกัน โดยมีตลาดหุ้นฮ่องกงที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่น รับอานิสงค์ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีน ลง 0.10% สู่ระดับ 2.65% จากระดับ 2.75% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
แนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดตลาดฯ น่าจะแกว่งไซด์เวย์ เนื่องจากรอดูผลประชุม BOJ ต่อ ให้แนวรับไว้ที่ 1,550 จุดและแนวต้าน 1,565 จุด
5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด
– DELTA มูลค่าการซื้อขาย 4,163.35 ล้านบาท ปิดที่ 111.50 บาท เพิ่มขึ้น 9.50 บาท
– KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,957.42 ล้านบาท ปิดที่ 130.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
– TIDLOR มูลค่าการซื้อขาย 1,634.57 ล้านบาท ปิดที่ 24.90 บาท ลดลง 2.10 บาท
– CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,280.11 ล้านบาท ปิดที่ 64.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
– SAWAD มูลค่าการซื้อขาย 1,166.86 ล้านบาท ปิดที่ 51.00 บาท ลดลง 3.75 บาท