มาอัพเดทตลาดภาคบ่ายกันครับ

28 กุมภาพันธ์ 2562 -- Smart Pick : Yuanta Securities

Smart Pick

กลยุทธ์วันนี้
เก็งกำไรหุ้นได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น/ขาย Short กลุ่มอสังหาฯที่ขึ้น XD แล้ว

ระดับความเสี่ยงของตลาด

Neutral

TRADING : Buy&Hold

สะสม BJC
ราคาปิด 48.50 บาท
ราคาเหมาะสม 73.00 บาท

เราคาดราคาหุ้นตอบรับเชิงบวก หลังรายงานงบ 4Q61 ที่ 2.1 พันลบ. +14% YoY และ +26% QoQ ดีกว่าคาด 8% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเร่งตัวขึ้นเป็น 20.0% จาก 4Q60 ที่ 19.8% และ 3Q61 ที่ 19.1%

ราคาหุ้น Laggard มาก อาจส่งผลให้เห็นการซื้อคืนของนักลงทุนสถาบัน โดย YTD หุ้น BJC -4.4% vs CPALL +14.2% และ SET Commerce +7.5%

เก็งกำไร PTTEP
ราคาปิด 126.50 บาท
ราคาเหมาะสม 138.00 บาท

เรามองว่ากลุ่มพลังงานจะช่วยหนุนตลาด หลังน้ำมันดิบ NYMEX และ BRENT ปรับตัวขึ้นราว 2% เนื่องจาก EIA รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบลดลง 8.6 ล้านบาร์เรล สวนทางคาดการณ์ของตลาดที่เพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล

ภาพทางเทคนิคมีแนวต้านสำคัญคือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 128.00 เป็นแนวต้านแรก

Short LPN
ราคาปิด 7.15 บาท
เป้าหมายปิด Short 6.80 บาท

เรามองว่า LPN ขาดปัจจัยบวกระยะสั้น หลังขึ้น XD แล้ววานนี้ จึงคาดว่าราคาหุ้นมีโอกาสเคลื่อนไหว Sideway Down เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการ 1Q62 คาดกำไรลดลงแรง QoQ รวมทั้งภาพรวมหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ถูกกดดันจากการเริ่มใช้มาตรการสินเชื่อ (LTV) ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.

ราคาหุ้นวานนี้ปิดต่ำกว่าแนวรับที่ 7.20 บาทเป็นภาพลบทางเทคนิค ดังนั้น เราแนะนำให้ SBL โดยมีบริเวณปิดสถานะที่ 6.80 บาท และ Stop loss หากปรับตัวขึ้นสูงกว่า 7.30 บาท

เก็งกำไร UNIQ
ราคาปิด 10.60 บาท
แนวต้านทางเทคนิค 11.40 บาท
ภาพทางเทคนิคเป็นบวก หลังราคาหุ้นวานนี้ปรับตัวผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันที่ 10.50 บาทได้ แนวต้านถัดไป 11.40 บาท แนวรับ 10.40 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 10.10 บาท

SBL LPN/ THAI

กลยุทธ์วันนี้

เรามีมุมมอง “เป็นกลาง” ต่อภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี จะเป็นกลุ่มนำตลาดเพราะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งราว 2.6%ปิดที่US$56.94/bbl หลังจากสหรัฐฯรายงานสต๊อคน้ำมันดิบรายสัปดาห์ลดลงมากถึง 8.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับคาดการณ์ของตลาดว่า จะเพิ่มขึ้นราว 2.8 ล้านบาร์เรล

อย่างไรก็ดี Upside ของการปรับตัวขึ้นในระยะนี้ ยังคงถูกจำกัดด้วยปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะความไม่แน่นอนของการปิดดีลเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ขณะที่กำหนดเส้นตายของการขึ้นภาษีรอบใหม่จาก 10% เป็น 25% วงเงิน US$200 ล้าน กำลังใกล้เข้ามา เราประเมินการเคลื่อนไหวของ SET INDEX วันนี้ แกว่งตัวออกข้างในกรอบ 1,655/1,660 ถึง 1,670/1,675 จุด

ขณะที่ประเด็นความตึงเครียดระหว่างประเทศอินเดียและปากีสถาน จะเป็น Sentiment เชิงลบกระทบต่อหุ้นสายการบินที่มีเที่ยวบินระยะไกล (Long-haul Flight) ล่าสุด THAI ประกาศยกเลิกเที่ยวบินในเส้นทางยุโรปและปากีสถาน เนื่องจากประเทศปากีสถานประกาศปิดน่านฟ้า

ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำ (1) เก็งกำไรหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Play) ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น ได้แก่ PTT/ PTTEP และ (2) สะสมหุ้น Laggard ที่ราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นช้ากว่ากลุ่ม เช่น BJC/ SCB เป็นต้น

ภาพรวมการรายงานผลการดำเนินงาน 4Q61 วานนี้ ได้แก่ OSP กำไรปกติใกล้เคียงกับคาดการณ์ แต่ประกาศจ่ายปันผล 0.30 บาท/หุ้น สูงกว่าที่เราคาด/ TOA กำไรปกติ ต่ำกว่าคาดราว 15%/ BJC กำไรดีกว่าคาดราว 8%/ BEM กำไรต่ำกว่าคาดมาก เนื่องจากการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงาน และค่าตัดจำหน่ายธุรกิจทางด่วน

Strategist Team

Mayuree Chowvikran, CISA

Head of Research 662-009-8050

Padon Vannarat

Strategist 662-009-8060

Piyapat Patarapuvadol

Strategist 662-009-8062

Suvichak Thappang

Assistant Strategist