ราคาหุ้น AU หรือ After You นำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (Mai) เข้าเทรดวันแรก ราคาทำ Ceiling 13.50 บาท (+200%) นอกจากร้านคิวแน่นแล้ว หุ้นก็ร้อนแรงเช่นกัน ในระยะกลาง-ยาว คงต้องดูกันต่อไป AU จะทำได้ตามเป้าหมายแผนที่วางไว้หรือไม่ ?
สำหรับในระยะยาว ให้นักลงทุนติดตาม การมูลค่าของเงินสดที่ได้จาก IPO ประมาณ 742.5 ล้านบาท ซึ่งได้ประเมินว่าภายหลังการใช้เงินตามวัตถุประสงค์แล้ว บริษัทฯ ยังคงเหลือเงินสดในมือสูงกว่า 4-500 ล้านบาท
โดยบริษัทฯ สร้างโรงงานแห่งใหม่ที่สมุทรสาครเสร็จไปแล้ว และมองว่า Cash flow from operation (CFO) สามารถนำไปลงทุนเปิดสาขาใหม่ได้ด้วยตัวมันเอง ฉะนั้นหากไม่นำเงินที่เหลือจาก IPO ไปก่อให้เกิดประโยชน์ ในระยะยาวอาจทำให้ ROA(%) และ ROE(%) โดนจำกัด
ในขณะที่การขยายสาขาในระยะยาวไปตามต่างจังหวัด มองว่ามีความเป็นไปได้สูงมากกว่า 10-15 สาขา แต่ในขณะเดียวกัน เชื่อว่ารายได้เฉลี่ยต่อสาขา SSSG จะไม่สูงเท่า 20 สาขาแรกในปัจจุบัน
คาดส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อสาขาในระยะ 3-5 ปี SSSG(%) เริ่มลดลง และตึงตัวบริเวณ 3-5% อีกทั้งมองว่าการขยายสาขาไปยังต่างประเทศที่มีกำลังซื้อมากกว่าหรือเท่ากับประเทศไทยในเอเชียนั้น ไม่ง่ายอย่างที่คิด เนื่องด้วยประเทศนั้นๆ มีร้านอาหารพวกคาเฟ่ชื่อดังอยู่เป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งมีการแข่งขันที่สูงมากกว่าประเทศไทย
ประเมินมูลค่า AU
มองว่าธุรกิจร้านขนมหวานที่มีขนาดธุรกิจใกล้เคียงกับ AU และ อัตรากำไรเติบโตสูงเฉลี่ย 4 ปีสูงถึง 50% มีให้เปรียบเทียบในตลาดฯ ค่อนข้างน้อย อย่างไรก็ตามเราใช้ M (MK สุกี้) เพื่อเปรียบเทียบเนื่องจากธุรกิจของร้านเอ็มเคสุกกี้
1) เงินลงทุนต่อสาขาประมาณ 7-9 ล้านบาท
2) อัตรากำไรสุทธิประมาณ 14-17%
3) รายได้เฉลี่ยต่อหัว 270 บาท
4) รายได้ต่อสาขา 25-28 ล้านบาท/ปี ไม่แตกต่างกับร้าน After you มาก
ประกอบกับ ใช้หุ้นที่อยู่ใน coverage ทั้งหมดของ MBKET ที่มีอัตรากำไรปี 2560 เติบโตมากกว่า 30% มาเปรียบเทียบเพื่อแสดงให้เห็นถึงค่าเฉลี่ย PER17 ที่ 31.0 เท่า
ดังนั้น มองว่าในระยะ 1-6 เดือนหลังจาก IPO ราคาหุ้น AU มีโอกาสแกว่งอยู่ในกรอบ 4.81-5.58 บาท/หุ้น
ปี 2561 : หากเทียบกับเป้าการขยายสาขาที่ผู้บริหารตั้งเป้าไว้ที่ 30 สาขาในปี 2561 ประกอบกับ SSSG(%) ที่เติบโตเฉลี่ยปีละ 5% (ค่อนข้าง conservative เนื่องจากปัจจุบันอยู่ทีระดับ 14.5%)
ซึ่งมองว่า กำไรสุทธิเฉลี่ยที่ตลาดฯ คาดไว้ประมาณ 170 ลบ. (EPS18F ที่ 0.233บาท/หุ้น) อาจจะดูต่ำเกินไป อย่างไรก็ตามหากเทียบกับ Consensus มองว่าในปี 2561 มีโอกาสที่ AU จะเล่นอยู่ในกรอบ 6.22-7.22 บาท
อย่าลืมดูปัจจัยความเสี่ยง
พึ่งพาสูตรเมนูจากความชอบส่วนตัวของผู้บริหาร แม้ว่าเจ้าของจะเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงรสนิยมของ ลูกค้าสม่ำเสมอ แต่กระแสความนิยมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก หากไม่สามารถคิดสูตรเมนูที่ ได้รับความนิยม ย่อมมีผลต่อยอดขายและกำไรในอนาคตของ AU มาก
การกระจุกตัวของสาขา สาขาทั้งหมดของ AU อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น ปัญหาความไม่สงบทางการเมือง อุทกภัย เป็นต้น อาจส่งผลกระทบต่อบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ
การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค กระแสรักสุขภาพอาจกลายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเจริญเติบโต ของบริษัทได้
ขอบคุณแหล่งข้อมูล : บทวิเคราะห์ Maybank KimEng, LH Securities