ห้องเม่าปีกเหล็ก

กรณี " Salad Oil Scandal " และ " เสือดํา "

โดย ศักดิ์
เผยแพร่ :
71 views

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า วอเร็น บัฟเฟตต์เป็นนักลงทุนที่สวนกระแส ( Contrarian ) ซึ่งมีความหมายว่า “ คิดในทางตรงข้าม “ กับคนส่วนใหญ่ในตลาดที่เขาคิดเป็นกระแสกัน

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อปี ค.ศ 1964 วอเร็น บัฟเฟตต์ได้เข้าลงทุนหุ้น American Express ในตอนที่มีเรื่องฉาวโฉ่เกี่ยวกับการขาดทุนอย่างมากมายมหาศาลในการเข้าไปลงทุนในน้าสลัดของ American Express หรือ ที่เรียกว่า “ Salad Oil Scandal “ ในขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ประมาณ 99.99% หลีกเลี่ยงการลงทุนใน American Express วอเร็น บัฟเฟตต์ และ นักลงทุนส่วนน้อยประมาณ 0.01% เท่านั้นที่กลับเห็นว่าเป็นโอกาส และ มีความคิดสวนกระแสของคนส่วนใหญ่ ( Contrarian) โดยคิดว่าหุ้น ​American Express ได้ปรับตัวลงมาสะท้อนข่าวที่เกิดขึ้น จนต่าเตี้ยเลี่ยดิน มีราคาถูกแสนถูก หรือที่ เบนจามิน เกรแฮม เรียกว่ามี “ Margin of Safety “ และ เป็นเวลาที่สมควรลงทุน เพราะ เรื่อง “ Salad Oil Scandal “ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น  และ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจหลักคือธุรกิจการเงินของ American Express แต่อย่างใด และในที่สุด วอเร็น บัฟเฟตต์ก็คาดการณ์ได้ถูกต้อง และ ได้กำไรอย่างมากมายมหาศาลจากการลงทุนใน American Express ในครั้งนั้น เพราะในที่สุดแล้ว American Express ก็ยกเลิกการลงทุนในน้าสลัดรวมทั้งธุรกิจอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการเงิน และ กลับมามุ่งเน้นในธุรกิจการเงินที่ตัวเองมีความถนัดแต่เพียงอย่างเดียว และ มีผลประกอบการที่ดีขึ้นเรื่อยๆในเวลาต่อมาจนถึงปัจจุบัน

 

กรณี “ เสือดำ “ ที่เป็นข่าวฉาวโฉ่แบบชนิดที่ว่า “ จะเป็นจะตายกันไปทั้งประเทศไทย “ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ มาจนถึงเดือน เมษายน ปี พ.ศ 2561นั้น ถ้าไปสอบถามนักลงทุนส่วนใหญ่ประมาณ 99.99% ก็จะมีความเห็นตรงกันว่าให้หลีกเลี่ยงหุ้นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ "เสือดํา " อย่างไรก็ตาม ผู้โพสต์และนักลงทุนส่วนน้อยประมาณแค่ 0.01% เท่านั้นเองที่คิดว่ากรณีนี้น่าจะเข้าข่ายกรณี “ Salad Oil Scandal “ ได้ เพราะ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราว และ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารงานโดยตรงและปัจจัยพื้นฐานที่ดีที่จะรองรับในอนาคตของบริษัทฯเลย และ เมื่อเวลาผ่านไป กรณี “ เสือดำ “ ก็น่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับกรณี “  Salad Oil Scandal “ในอดีต แล้วเมื่อถึงตอนนั้นแล้วผู้คนก็จะลืมกันไป ปล่อยให้ “ นักลงทุนผู้ชาญฉลาด  ประมาณ 0.01% ตามนิยามของเบนจามิน เกรแฮม ได้ตักตวงผลประโยชน์ด้วยการที่ได้ซื้อหุ้นที่มีราคาถูกแสนถูก หรือ มี  “ Margin of Safety “ และ ได้รับผลตอบแทนอย่างมากมายมหาศาลเมื่อมีความคืบหน้าในการประมูลโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาท โครงการทวาย และ โปแตส จ.อุดรฯ ในอนาคต เหมือนกับกรณีที่ วอเร็น บัฟเฟตต์ลงทุนในหุ้น American Express ในปี ค.ศ 1964

หมายเหตุ : 1) ปัจจุบันวอเร็น บัฟเฟตต์ยังถือหุ้น American Express อยู่ในสัดส่วน 7.9% ของพอร์ตของเขา ส่วนธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในไทยนั้น เนื่องจากเป็นธุรกิจวัฏจักร เพราะฉะนั้นระยะเวลาการลงทุนในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจึงไม่ควรเกินครึ่งหลังของปี พ.ศ 2563 เท่านั้น

                 2) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ ได้ใน longtunbysak.blogspot.com

                 3) ราคาหุ้น ITD และ ITD-W1 ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ " เสือดํา " ทําจุดตํ่าสุดในรอบ 3 ปี ดังนี้คือ :

                      3.1) ITD ทําจุดตํ่าสุดที่ 2.96 บาท เมื่อวันที่ 4 เมษายน ปี พ.ศ 2561

                      3.2) ITD-W1 ทําจุดตํ่าสุดที่ 0.07 บาท ระหว่างวันที่ 10 เมษายน ถึง 10  พฤษภาคม ปี พ.ศ 2561

                 4) ผู้โพสต์ขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า ผู้โพสต์ไม่ได้มีวัตถุประสงค์หรือเจตนาที่จะชักชวน ชี้นํา หรือ ชี้เป้าให้ท่านนักลงทุนที่เข้ามาดู เข้ามาอ่าน หรือ เข้ามา View มาลงทุนตามแนวทางที่ผู้โพสต์ได้นําเสนอไป และ จะนําเสนอต่อไปในอนาคต และ จะไม่รับประกันผลตอบแทน ตลอดจนจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นในกรณีที่มีการนําข้อมูล หรือ ความเห็นส่วนตัวของผู้โพสต์ไปใช้แล้วเกิดความเสียหายขึ้น ผู้โพสต์หวังแต่เพียงว่าข้อมูล และ ความคิดเห็นส่วนตัวดังกล่าวข้างต้นของผู้โพสต์ อาจจะเป็นประโยชน์ต่อท่านนักลงทุนที่เข้ามาดู และ เข้ามา View บ้างไม่มากก็น้อย ทั้งในปัจจุบัน และ อนาคต 


ศักดิ์