ห้องเม่าปีกเหล็ก

0 Views Update: 21.48 น. 10 ต.ค. 59 แบ่งปันข่าวนี้

โดย Rockbottom
เผยแพร่ :
85 views
 
ปิดสัปดาห์ (จันทร์ 10 ต.ค.) ด้วยภาวะ "Panic Sell" ฉุด SET index ลดลงอย่างหนัก และปิดติดลบถึง 47 จุด มาที่ 1,457 จุด โดยจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,450 จุด เมื่อเทียบกับ 1,410 ที่เป็น Low ของเดือนที่แล้ว
 
ฝั่งขายเป็นนักลงทุนสถาบันที่ขายสุทธิ 7,268 ล้านบาท และบัญชีโบรกเกอร์ขายสุทธิ 627 ล้านบาท ส่วนฝั่งซื้อพบว่าเป็นรายย่อยหรือนักลงทุนทั่วไป ที่ซื้อสุทธิ 6,896 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติที่ซื้อสุทธิ 998 ล้านบาท
 
ภาวะตลาดที่เป็นเช่นนี้ ทำให้นักลงทุนหลายรายอาจหวั่นไหว แม้พอร์ตจะประกอบไปด้วยหุ้นที่มีความแข็งแกร่ง มีลักษณะ “Defensive” หรือทนทานต่อภาวะตลาดขาลง 
 
Money Channel ลองทำ “Fundamental check” ด้วยการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งพบว่าหุ้นในบางกลุ่มยังไม่ได้ดูแย่ลง หรือเปลี่ยนแปลงในทางลบ
 
สิ่งที่พบในเบื้องต้นผ่านมาทางมุมมองเชิงบวกที่มีต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก เนื่องจากการมีอัตราการทำกำไรที่โดดเด่น และมีความทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจผันผวน จึงไม่น่าแปลกถ้าหุ้นกลุ่มนี้จะรีบาวด์กลับขึ้นมาก่อนเป็นอันดับต้นๆ หลังจาก SET INDEX กลับมามีสัญญาณบวกอีกครั้ง 
 
โดยถ้าย้อนกลับในช่วงก่อนหน้านี้ พบว่าราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางบริษัท ราคาหุ้นขึ้นทำ All Time High ในหลายๆ ครั้ง ตามทิศทางผลประกอบการที่คาดว่าจะเติบโตแข็งแกร่งในระยะยาว
 
ในมุมมองของคุณวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการสายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง คาดว่าหุ้นที่อิงกับการบริโภคและอุปโภคในประเทศจะเป็นกลุ่มที่ฟื้นตัวได้รวดเร็ว หาก Sentiment ของตลาดหุ้นไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยถ้าสังเกตราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกในช่วงก่อนหน้านี้สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจ แต่ในช่วงภาวะตลาดปรับตัวลง ราคาหุ้นก็ลงไม่มาก 
 
นักวิเคราะห์ค่าย “บัวหลวง” ยังคงให้น้ำหนักลงทุนหุ้นค้าปลีก "มากกว่าตลาด"  เพราะกำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นในไตรมาสสุดท้ายของปี โดยเชื่อว่าไตรมาสนี้จะดีที่สุดในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากรายได้เกษตรกรที่ดีขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวที่สูงขึ้น และเม็ดเงินจากภาครัฐที่เพิ่มขึ้น 
 
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มค้าปลีกคาดว่าจะเป็นกลุ่มที่มีความโดดเด่นสุดใน SET จากกำไรที่จะเติบโตได้ดีกว่าภาพรวมตลาด รวมถึงเติบโตได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตของกลุ่มค้าปลีกเองด้วย
 
“บัวหลวง” มองหุ้น 3 บริษัทที่มีความน่าสนใจ จาก Story ด้านบวก ได้แก่  CPALL, BJC และCOM7 
 
"ตลาดหุ้นไทยเผชิญกับภาวะ Panic Sell ก่อนหน้านี้หลายครั้ง ซึ่งถ้าสังเกตจะพบว่าในวันที่หุ้นร่วงลงแรงๆ ปริมาณซื้อขายก็น้อยลง ทำให้คาดว่าตลาดได้ซึมซับกับภาวะ Panic Sell เช่นนี้ไปพอสมควรแล้ว จึงเชื่อว่า SET จะกลับมารีบาวด์ขึ้นได้อีกในไม่กี่วัน"
 
ด้านคุณมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คาดว่าหุ้นกลุ่มค้าปลีกมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวได้เร็วกว่าหุ้นกลุ่มอื่น โดยเลือกหุ้นเด่นคือ CPALL เพราะมองเป็นหุ้นที่มีธุรกิจไม่หวั่นไหวไปตามปัจจัยเศรษฐกิจ และเป็นหนึ่งในหุ้น Domestic Play ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันถือว่า “Undervalue” เมื่อเทียบกับแนวโน้มกำไรและความมีเสถียรภาพของกระแสเงินสด 
 
“เคทีบีฯ” ให้ราคาพื้นฐาน CPALL ที่ 70 บาท
 
 
Credit - Moneychannel

Rockbottom