Credit : ผศ.ดร. ศุภวัฒน์ สุภัควงศ์ (อาจารย์ Nine)
-----------------------
Dr. Brett Steenbarger เจ้าของหนังสือการลงทุนขายดีอย่าง The Psychology of Trading, Enhancing Trader Performance, และ The Daily Trading Coach ได้ทำการศึกษาถึงปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลให้นักลงทุนไม่ทำตามวินัยการลงทุน ซึ่งพอจะสรุปเป็น Top 5 สาเหตุที่ก่อให้เกิดการแหกกฎมีดังต่อไปนี้
ลำดับที่ 5 สมาธิหลุด
ในสถานการณ์ปกติ นักลงทุนควบคุมอารมณ์ตนเองได้ดี อย่างไรก็ตาม ในสภาวะที่ตลาดมีความผันผวนล้วนส่งผลต่อความสามารถในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็น ความตื่นเต้นหรือความเครียดจากการขึ้นลงของราคา ความเหนื่อยล้าทางร่างกายและอารมณ์ ทำให้สมาธิหลุด และไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ตัดสินใจผลุนผลัน โดยไม่กลั่นกรองให้ดีเสียก่อน ก็ส่งผลให้เกิดความเสียหายได้
ลำดับที่ 4 แรงกดดันจากเหตุการณ์ รอบตัว
ระบบทุกระบบล้วนมีช่วงทำเงินได้เยอะ กับช่วงที่ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง หรือผลตอบแทนเอื่อยๆ อยู่กับที่ ไม่ขึ้นไม่ลงอยู่เป็นปี ซึ่งพลอยจะทำให้จิตใจเราห่อเหี่ยวไปด้วย
หากช่วงเวลาดังกล่าวมีความจำเป็นต้องใช้เงิน เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียนลูก ฯลฯ ก็จะรู้สึกแย่ขึ้นไปอีก (จริงๆ แล้วเงินส่วนที่เอามาเทรด ควรเป็นเงินเย็นที่ไม่มีความรีบร้อนจะเอามาใช้) พอมีโอกาสเข้ามา ก็พลอยทำให้เราไปโฟกัสหาวิธีในการทำกำไรให้สูงๆ แทนที่จะคงวินัยการเทรดที่ดีไว้
ลำดับที่ 3 เทรดเกินตัว
โดยเฉพาะในตลาดการซื้อขายอนุพันธ์ เทรดเกินตัวเพียงแค่มุ่งเป้าหากำไรก้อนใหญ่ๆ ในเวลาสั้นๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ระดับความเสี่ยงก็สูงตามขึ้นมาด้วย ในวันที่ตลาดมีความผันผวนมาก ย่อมส่งผลให้เกิดความหวั่นไหวทางอารมณ์ให้พร้อมที่จะแหกกฎที่ตั้งเอาไว้ทุกเมื่อ
ลำดับที่ 2 ไม่มีกลยุทธ์หรือแผนการเทรดที่ชัดเจนตั้งแต่แรก
Trading plan ถือเป็นเครื่องมือสำคัญยิ่ง ที่จะช่วยให้เราอยู่รอดปลอดภัยจากการลงทุนในเส้นทางนี้ น่าแปลกใจที่มีนักลงทุนจำนวนมากกระโดดลงในสมรภูมินี้ โดยไม่มีการวางแผนที่ชัดเจน บางคนอาจจะมีอยู่ในใจว่าถึงตอนนี้นะให้ซื้อ ถึงตรงนี้ให้ขาย แต่ไม่เคยมีการเขียนออกมาอย่างชัดเจน ทำให้เมื่อราคามีการเปลี่ยนแปลงอย่างหนักๆ ก็ลืมสิ่งต่างๆที่คิดมาทั้งหมด เป็นการเทรดด้วยอารมณ์ล้วนๆ
ลำดับที่ 1 ไม่รู้จักตัวเราเอง
ฟังดูแล้วเป็นเรื่องน่าเศร้าครับ ว่าสาเหตุหลักที่ทำให้นักลงทุนแหกกฎ คือ เขาเหล่านั้นไม่รู้จักตัวเอง ความหมายคือ ไม่รู้ว่าพื้นฐานและลักษณะนิสัยของเขาเหมาะกับการลงทุนในลักษณะไหน มีเวลาว่างให้กับการศึกษาและการเทรดมากน้อยเพียงใด รวมถึง มีเป้าหมายผลตอบแทนและความเสี่ยงที่รับได้ที่เท่าไหร่
เมื่อตอบโจทย์ตรงนี้ไม่ได้ เส้นทางการลงทุนก็เหมือนคนเดินเข้าป่าอย่างไร้จุดหมาย เดี๋ยวเดิน เดี๋ยววิ่ง กลับไปกลับมา แต่ก็ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เคยคิดไหมครับว่า (1) time frame ที่เราเทรดอยู่ในตอนนี้ (2) สไตล์การลงทุน รวมถึง (3) ตลาดที่ลงทุนนั้น มันตรงกับนิสัยใจคอเราแล้วหรือยัง ? เพราะหากเราไม่สามารถตอบ Yes ได้อย่างชัดเจนเสียงดัง ทุกๆ ครั้งที่เกิดเหตุการณ์ที่เราไม่คาดคิดขึ้น ก็จะมีเครื่องหมายคำถามกับกลยุทธ์ของเราอยู่เรื่อยไป ซึ่งสุดท้ายก็ก่อให้เกิดการแหกกฎ
ผมเชื่อว่านักลงทุนในยุคนี้มีการศึกษาเตรียมตัวที่ดีก่อนเริ่มการลงทุนอยู่แล้ว และทุกคนล้วนเคยประสบปัญหาเหล่านี้ เพียงแต่ว่าจะรู้ตัวเองได้เร็วขนาดไหน แล้วทำการปรับปรุงตัวไม่ให้เจ็บซ้ำๆ อยู่ตลอดไป
อย่าลืมนะครับ หัวใจของการลงทุนให้ประสบความสำเร็จมีง่ายๆ อยู่แค่ 3 ข้อ คือ 10% มีจุดซื้อจุดขายที่ดี 30% มีการจัดการเงิน หรือ money management ที่ดี ส่วนที่เหลืออีก 60% ต้องมีจิตวิทยาและวินัยการลงทุนที่ดี