ธปท. ไม่ต่ออายุ มาตรการ LTV

ธปท. ไม่ต่ออายุ มาตรการ LTV สิ้นปีนี้ หลังเศรษฐกิจไทย ฟื้นตัวดี - BillionMoney

ในวันนี้ โฆษกของธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับสถานการณ์ของเศรษฐกิจไทย ในช่วงเดือนกันยายนว่า เศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในทิศทางฟื้นตัว

โดยการฟื้นตัวในครั้งนี้ เป็นผลจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่กำลังเพิ่มขึ้น และการส่งออกที่ขยายตัว พร้อมกับภาคอสังหาริมทรัพย์ ก็ได้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องด้วย

นั่นจึงทำให้ทาง ธปท. ได้ทำการตัดสินใจที่จะไม่ต่ออายุมาตรการ LTV ซึ่งจะครบกำหนดการผ่อนคลายชั่วคราวภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 นี้

ซึ่งคำว่า LTV ก็หมายถึง loan-to-value ratio หรือ

“อัตราส่วนสินเชื่อต่อราคาบ้าน” ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่กำหนดวงเงินที่ผู้กู้จะกู้ซื้อบ้านได้ ซึ่งจะส่งผลต่อ จำนวนเงินดาวน์ขั้นต่ำ ของผู้ที่จะกู้ซื้อบ้านอีกด้วย

เช่น ถ้าเราจะซื้อบ้านในราคา 2 ล้านบาท มี LTV เท่ากับ 90% หมายความว่า เราจะสามารถกู้เงินเพื่อซื้อบ้านได้เพียง 1,800,000 บาท และเราจะต้องมีเงินดาวน์ 200,000 บาทนั่นเอง

โดยในช่วงโควิด 19 ระลอกที่ 3 ที่เกิดขึ้นเมื่อกลางปี 2564 นั้น ทาง ธปท. ได้ออกมาตรการผ่อนคลาย LTV

ให้เป็น 100% หมายความว่า สามารถกู้ได้เต็มจำนวน โดยไม่ต้องมีเงินดาวน์เลย

การที่ ธปท. ออกมาตรการดังกล่าวออกมา ก็เพื่อต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์

โดยมาตรการผ่อนคลาย LTV จะเป็นตัวกระตุ้นการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเป็นจำนวนมาก และมีผลต่อการจ้างงานในประเทศสูง

แต่ในปัจจุบัน เศรษฐกิจไทยเริ่มมีทิศทางการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้น ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องต่ออายุมาตรการ LTV อีกต่อไป

ซึ่งทาง ธปท. ก็มองว่าการไม่ต่ออายุมาตรการดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบต่อการซื้อบ้านของผู้มีรายได้น้อย เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการกู้ซื้อบ้านหลังแรก ที่ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งมีเกณฑ์ที่ค่อนข้างผ่อนคลายมากอยู่แล้ว

แต่สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้สูง ซึ่งจะซื้อบ้านราคาสูงกว่า 10 ล้านบาท จะได้รับผลกระทบมากกว่า เพราะต่อจากนี้ จะต้องกลับมาวางเงินดาวน์ อย่างน้อย 10-20% แล้ว

นอกจากนี้ ธปท. ก็เห็นถึงความเสี่ยงของการต่ออายุมาตรการ LTV ว่าอาจจะทำให้เกิดการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์ ทำให้หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังยุคโควิดได้…