4 อาการผิดปกติเกิดจากของเหลวในร่างกาย

ในร่างกายของมนุษย์มีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง ร้อยละ 70 และในบางครั้งเมื่อร่างกายเกิดความ ผิดปกติจึงมักจะแสดงสัญญาณเตือนผ่านของเหลวที่ออกจากร่างกาย
.
แพทย์หญิงเฟลิเซีย สโตเลอร์ ผู้เชี่ยวชาญประจําคลินิกโภชนาการและให้คําปรึกษาด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิต ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงแนะนําวิธีสังเกตอาการพร้อมคําอธิบายไว้ดังต่อไปนี้
.
1. เหงื่อออกฉับพลัน
เหงื่อออกเป็นกระบวนการระบายความร้อน ตามปกติของร่างกาย แต่หากเป็นคนเหงื่อออกง่ายและมีเหงื่อมากกว่าคนอื่นๆ หรือจู่ๆ ก็มีเหงื่อออกฉับพลัน อาจมีสาเหตุมาจากภาวะตื่นตระหนก ความเครียด หรืออาจเป็นอะไรที่รุนแรงมากกว่านั้น เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง มีปัญหาระบบเผาผลาญ
.
2. ผลเลือดปกติ
หากผลตรวจเลือดครั้งล่าสุดของคุณแสดงระดับเฮโมโกลบินที่ต่ำกว่า 12-13.5 กรัมต่อเดซิลิตร นั่นอาจบ่งชี้ว่าคุณกําลังเป็นโรคโลหิตจาง และเมื่อมีแผลเล็กๆ น้อยๆ หรือเลือดกําเดาไหล หากเลือด ไม่จับตัวเป็นลิ่มหรือหยุดไหลช้าจนผิดสังเกต นั่นอาจเป็นผลมาจากการใช้ ยาแอสไพรินได้เช่นกัน
.
3. สีน้ำมูกเปลี่ยนไป
หลังจากติดเชื้อไวรัสและมีน้ำมูก แสดงว่า ระบบภูมิคุ้มกันกําลังทํางาน และหลังจากนั้นสองสามวัน หากน้ำมูกเปลี่ยน จากสีใสเป็นสีขาวหรือสีเหลือง นั่นแปลว่าระบบภูมิคุ้มกันของคุณจัดการได้ ในขณะเดียวกันหากเราสูดเอาเชื้อโรคเข้าไปแล้วจามออกมาไม่หมด จากนั้นน้ำมูกเปลี่ยนเป็นสีเขียว แสดงว่าคุณติดเชื้อแบคทีเรียเข้าให้แล้ว
.
4. สีปัสสาวะไม่คุ้นตา
สีที่เหมาะสมคือสีเหลืองซีดถึงเหลืองอําพัน หากกลายเป็นสีเข้มจนถึงสีส้ม นั่นอาจหมายถึง ร่างกายขาดน้ำ ตับทํางานผิดปกติ หรือได้รับวิตามินซีมากเกินไป หากปัสสาวะมีเลือดปะปนออกมา ด้วยก็เป็นไปได้ว่าเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ หรือที่ร้ายแรงกว่า คือโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ