ห้องเม่าปีกเหล็ก

เผยสถิติข้อมูล ผลกระทบต่อ SET กับหตุการณ์วินาศกรรมต่างๆ

โดย Financial Investor
เผยแพร่ :
104 views

จากเหตุการณ์ระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ ทั้งการวางระเบิด (13 จุด)และวางเพลิง (4 จุด) ในช่วงวันทึ่ 11-12 สค 2559 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 รายบาดเจ็บประมาณ 30 ราย

คาดว่า SET Index จะมีปฎิกิริยาเชิงลบตอบรับต่อเหตุการณ์ดังกล่าวในช่วงสั้น ก่อนที่จะค่อยๆฟื้นตัวอีกครั้ง (หากทางการสามารถควบคุมสถานการณ์ได้) โดนอ้างอิงจากเหตุการณ์วินาศกรรมที่สำคัญในอดีตตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ดังนี้

  1. เหตุระเบิดใน กทม 8 จุด ในช่วงรอยต่อระหว่าง 31 ธค 49 - 1 มค 50 มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บ 38 คน

ผลที่เกิดขึ้น SET Index ปรับร่วงในวันทำการวันแรกหลังเกิดเหตุการณ์กว่า 3.03% และลงต่อเนื่องต่อไปอีกทั้งสัปดาห์จนติดลบ 6.77% (นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิตลอดสัปดาห์ 1.8 พันล้านบาท) ก่อนที่จะค่อยๆฟื้นตัวในอีก 1 เดือนถัดมาจนเหลือติดลบ 3.8%

  1. เหตุระเบิดรับวาเลนไทน์ 14 กพ 55 ที่ สุขุมวิท 71 เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 5 คน

ผลกระทบต่อ SET Index ปรับลดลงในวันแรก 0.98% และพลิกกลับมาบวกในวันถัดมา 1.8% และบวกต่อเนื่องไปตลอดเดือน 2.9%

  1. เหตุระเบิดที่โรงแรมลีการ์เด้นพลาซ่า หาดใหญ่ 31 มีค 55 เป็นเหตุระเบิดครั้งรุนแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในไทย ทำให้มัผู้เสียชีวิต 12 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย

ผลกระทบที่มีต่อ SET index ดัชนีบวกขึ้นมาในวันแรก 0.2% ก่อนจะมาปรัลลดลงในช่วงปลายสัปดาห์จรตอดลบ 1.19% แต่สามารถพลิกฟื้นบวกต่อเนื่องตลอด 1 เดือนถัดมากว่า 3.6%

  1. เหตุระเบิดหน้า ราม 43/1 26 พค 56 มีผู้บาดเจ็บ 7 คน

ผลกระทบต่อ SET Index ปรับลดลงในวันแรก 0.89% นักลงทุนต่างประเทศขายหนัก 6.6 พันล้านบาท ก่อนจะลงต่อเนื่องไปตลอดเดือนกว่า 12%ตามกระแสเงินทุนไหลออก (สภาวะตลาดช่วงนั้นกำลังกังวลต่อการยุติ QE)

  1. เหตุระเบิดแยกราชประสงค์ 17 สค 58 มีผู้เสียชีวิต 20 คน และบาดเจ็บกว่า 100 คน (มีระเบิดต่อเนื่องที่สะพานตากสินในวันที่ 18 สค 58)

ผลกระทบต่อ SET Index ดัชนีร่วงหนักในวันที่ 18 สค กว่า 2.56% และลงต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์กว่า 3% ก่อนจะไปลงหนักในวันที่ 24 สค อีกกว่า 4.5% (สภาวะช่วงนั้นมีประเด็นเรื่องการชะบอตัวทางเศรษฐกิจทั้งจองไทยและจีนเป็นตัวกดดันหลัก) ทั้งนี้ตลาดสามารถฟื้นตัวได้ในอีก 2 เดือนถัดมา

- ดังนั้นจากทั้ง 5 เหตุการณ์สามารถสรุปได้ว่า SET INDEX จะตอบสนองเชิงลบในวันแรกหลังเกิดเหตุการณ์เฉลี่ย ลบ 0.8% (ระหว่าง +0.2% จนถึงติดลบ 3.03%) นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิเฉลี่ย 2.6 พันล้านบาท และปรับลดลงตลอดทั้งสัปดาห์เฉลี่ย 2.3% (ระหว่าง + 1.12%. ถึง - 6.7%) และลงตลอดเดือน -2.4% (ระหว่าง 3.6% ถึง - 12.8%)

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า ตลาดจะลงหนักในช่วงวันแรก ต่อเนื่องไปตลอดทั้งสัปดาห์ก่อนจะค่อยๆฟื้นตัวในอีก 1-2 เดือนถัดไป

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในครั้งช่วงนี้ ตลาดยังมีประเด็นการประกาศผลประกอบการงวด 2Q59 ช่วงโค้งสุดท้ายเป็นตัวช่วย ซึ่งคาดว่าผลประกอบการโดยรวมจะมากกว่างวด 1Q59 (ยังไม่น่าเกิด Sell on Fact มาก)ประกอบกับกระแสเงินทุนยังเป็นขาเข้า (เริ่มมีสัญญาณลบจากการ Short ในตราสารอนุพันธ์) หากนักลงทุนต่างประเทศยังซื้อต่อ คาดว่าจะประคองตลาดให้ยืนเหนือ 1490 จุด หากดัชนีลงมาที่บริเวณนี้จะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเพื่อลงทุนระยะสั้นอีกครั้ง

สำหรับนักลงทุนคนไหนที่ต้องการเก็บหุ้นพื้นฐานดี ๆ ราคาถูกลง จากวิกฤติถือเป็นโอกาสในการเก็บเข้าพอร์ต แต่สำหรับท่านใดมีหุ้นอยู่แล้ว สามารถกำจัดความเสี่ยงได้โดยการวาง stop loss เอาไว้ หรือจากสถิติตลาดจะกลับขึ้นมาดีขึ้นใช้ระยะเวลา 1-2 เดือนครับ  

 

ขอบคุณแหล่งข้อมูล : บล. กสิกรไทย ,นั กศึกษา วิชาการวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน สาขา เศรษฐศาสตร์การเงิน คณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ NIDA ในการรวบรวมข้อมูล


Financial Investor