BCH โอกาสในการเติบโตที่ดีขึ้นของบริการ SSO

BCH โอกาสในการเติบโตที่ดีขึ้นของบริการ SSO

BCH ได้โควต้าผู้ประกันตนเพิ่มในปี 2567 BCH จะได้รับโควตาผู้ประกันตนเพิ่มอีก 313,950 รายในปี 2567 สำหรับโรงพยาบาล SSO จำนวน 6 แห่งจากทั้งหมด 10 แห่ง เนื่องจากกฏเกณฑ์ใหม่ โควต้าผู้ประกันทั้งหมดจะอยู่ที่ 1.8 ล้านรายในปี 2567 เพิ่มขึ้น 20% จาก 1.5 ล้านรายในปี 2566

โดยโควต้าที่ได้รับเพิ่มถือว่าสูงกว่าคู่แข่ง ซึ่งน่าจะเป็นผลจากข้อได้เปรียบของ BCH ในด้าน 1) ปริมาณเตียงในการรองรับผู้ป่วยและความสามารถในการเพิ่มเตียง 2) การได้รับมาตรฐานต่างๆ เช่น JCI และมาตรฐานแรงงาน และ 3) บริการออนไลน์ เช่น การแพทย์ทางไกล และการนัดหมายออนไลน์

โอกาสที่ดีในการเติบโตของฐานผู้ประกันตน ผู้บริหารมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผู้ประกันตนที่จะมาลงทะเบียนใหม่ในปี 2567 ในบรรดาโรงพยาบาล SSO ของ BCH ทั้งหมด มีเพียงโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ประชาชื่นเท่านั้นที่จำนวนผู้ประกันตนเต็มโควตาแล้ว และ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแคมีโควตาเหลือเพียง 10,000 ราย

ทั้งนี้ โรงพยาบาลทั้งสองแห่งได้รับโควต้าผู้ประกันตนเพิ่มรวมกัน 180,000 รายในปี 2567 เทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้าของเราที่ 20,000 ราย โดยโรงพยาบาลทั้งสองแห่งนี้น่าจะมีผู้ประกันตนเข้ามาลงทะเบียนเต็มโควต้าเร็วกว่าโรงพยาบาล SSO อื่น

แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2566 ผู้บริหารมองเห็นโมเมนตัมรายได้ที่ดีจากทั้งผู้ป่วยชาวไทยและชาวต่างชาติ ขณะที่การดำเนินงานในโรงพยาบาลใหม่ 3 แห่ง ยังเป็นไปตามแผนที่จะมีกำไรในปี 2567-2568 นอกจากนี้ BCH จะบันทึกรายได้พิเศษจากบริการ SSO ในไตรมาส 4/2566 ซึ่งล่าช้าจากไตรมาส 3/2566 แม้ว่า BCH จะบันทึกผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจากโรงพยาบาลในลาว แต่ตัวเลขการขาดทุนน่าจะลดลงอย่างมาก QoQ หลังจากชำระคืนเงินกู้ในลาวไป

เราคาดว่ากำไรปกติจะอยู่ที่ 420 ลบ. ลดลง 5% QoQ จากอัตรากำไรที่ลดลง แต่เพิ่มขึ้น 34% YoY จากรายได้ที่สูงขึ้น กำไรปกติปี 2566 น่าจะอยู่ที่ 1.4 พันลบ. ลดลง 65% YoY เนื่องจากรายได้และอัตรากำไรที่เกี่ยวกับโควิด-19 ลดลง

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วย TP ปี 2567 ที่ 24.80 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 23.50 บาท เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของรายได้จากผู้ป่วยประกันสังคม (SSO) ที่เพิ่มขึ้น