สรุปเหตุผลที่ซ่อนอยู่ ? ของ SIRI กับการลงทุนใน XPG
หลายคนจะสงสัยว่าการที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่าง SIRI เข้าไปลงทุนถือหุ้น 15% ใน XPG หรือชื่อเก่าคือ บริษัท ซีมิโก้ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ซึ่งใช้ชื่อย่อว่า “ZMICO” ซึ่งหากมองในไส้ในแล้วจะพบว่า ทาง SIRI ได้ส่งมือดีอย่าง คุณวันจักร์ บุรณศิริ ที่เป็นอดีตผู้บริหารของ SIRI เข้าไปนั่งตำแหน่งใหญ่ใน XPG แล้วก่อนหน้านี้ และการเข้าไปลงทุนใน XPG นี้จะมีรูปแบบของการ Synergy กันอย่างไร
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้เหตุผลว่า การที่ SIRI ประกาศลงทุนในบริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG สัดส่วนลงทุน 15% ซึ่งการลงทุนเบื้องต้นที่ราคา 4.10 บาท ซึ่งขณะนี้ราคาหุ้น XPG ก็ปรับเพิ่มขึ้นไปเยอะแล้ว จึงทำให้เห็นว่า SIRI มีกำไรจากการซื้อหุ้นในครั้งนี้แล้ว
ขณะเดียวกันหากคิดในแง่ของมูลค่าส่วนแบ่งกำไรจากเงินที่ SIRI จะได้รับมานั้นถือว่าไม่มีนัยสำคัญมากนัก เพราะในแต่ละปี XPG มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 50 ล้านบาท แต่ถ้าเทียบกับ SIRI ที่กำไรสุทธิแต่ละอยู่ที่เกือบ 2,000 ล้านบาท แต่สิ่งที่ต้องจับตามองคือการ Synergy ร่วมกัน เพราะ XPG คือโบรกเกอร์ที่เดินหน้าขยายธุรกิจเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล และเป็นโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตการทำ ICO
สิ่งที่จะเป็นไปได้คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กับ ICO ถ้านักลงทุนเคยได้ยินนั้น ในปัจจุบันนี้มีเทรนด์ด้าน tokenization ซึ่งสามารถนำทุกอย่างมาแจกจ่ายแบ่งแยกย่อยเป็นรูปแบบเหรียญหรือโทเคนได้ ซึ่งปกติหากเราจะลงทุนคอนโดมิเนียมจะต้องใช้เงินลงทุน 5-10 ล้านบาท แต่หากเราใช้รูปแบบของ tokenization อาจจะทำให้เราใช้เงินลงทุนเริ่มต้นแค่เพียง 5-10 บาทก็สามารถลงทุนในอสังหาฯได้
ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ SIRI ให้เหตุผลว่า การลงทุนใน “XSpring” กลุ่มธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจรที่เชื่อมโลกการเงินปัจจุบันกับโลกการเงินดิจิทัลหรือ Digital Financial Serviceเข้าไว้ด้วยกันรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย โดยแสนสิริเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง ในสัดส่วน 15% ด้วยเงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท
โดยบริษัทเห็นโอกาสและเทรนด์การเติบโตแบบก้าวกระโดดของธุรกิจการเงินดิจิทัลทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก จึงได้เข้าลงทุนใน XSpring บริษัทการเงินครบวงจรที่กำลังจะนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาเชื่อมโลกการเงินปัจจุบันและโลกอนาคตเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อเปลี่ยนโลกธุรกิจการเงินด้วยการนำเสนอนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ ที่ทำทุกคนมีโอกาสเข้าถึงโลกการเงินและการลงทุนอย่างสะดวกและง่ายดายด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นไม่สูง
รวมทั้งสามารถเปิดรับข้อมูลการลงทุนได้อย่างครอบคลุม โปร่งใสและน่าเชื่อถือ ซึ่งการรุกเข้าสู่ธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ รวมถึงธุรกิจทางด้านการเงินสำหรับดิจิทัลอีโคโนมีหรือ Digital Financial Service ของแสนสิริ จะเพิ่มโอกาสการเติบโตของรายได้จากแหล่งอื่นๆ นอกเหนือจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท ตลอดจนเพิ่มความแข็งแรงทางการเงินและการดำเนินธุรกิจของแสนสิริที่ดีอยู่แล้วให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การลงทุนครั้งนี้ยังมาจากความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจของ XSpring ภายใต้การนำทีมของผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจการเงินมาอย่างยาวนานอย่าง คุณระเฑียร ศรีมงคล ประธานกรรมการ และ คุณวันจักร์ บุรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ประกอบกับการมีใบอนุญาตการดำเนินธุรกิจ Digital Financial Service ในด้าน “บริการซื้อขายโทเคนดิจิทัลเต็มรูปแบบ” ผ่านบริษัท SE Digital (เอสอี ดิจิทัล) ในฐานะ ICO Portal ที่เสนอขายโทเคนดิจิทัลให้แก่นักลงทุน ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว ที่จะทำให้ XSpring สามารถเดินหน้าออกโทเคนดิจิทัลที่มีสินทรัพย์เป็นหลักค้ำประกันเป็นรายแรกในประเทศไทยได้ในอนาคตอันใกล้นี้ โดยการผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรด้านการเงินและหลักทรัพย์ในครั้งนี้ ยังนับเป็นการลงทุนครั้งสำคัญที่จะได้เห็นความแข็งแกร่งของแสนสิริที่เพิ่มมากขึ้นผ่านธุรกิจของ XSpring
ด้านนายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ SIRI เล่าให้กับ Wealthy Thai ฟังว่า มีความเป็นไปได้ที่ในอนาคตอันใกล้ SIRI อาจจะของ ICO ที่เป็นของบริษัทเอง ถ้าทาง กลต.อนุมัติให้เราดำเนินการ เพราะทาง XPG มีใบอนุญาตที่สามารถจัดทำได้ โดยคาดหวังว่า เมื่อเริ่มมีคนรู้ความเข้าใจการลงทุนด้าน ICO ก็จะสามารถทำได้ ซึ่งการลงทุนในรูปแบบ ICO ถือเป็นนวัตกรรมทางดิจิทัล มีต้นทุนการระดมทุนที่ถูก และเชื่อในอนาคตจะได้รับความนิยม
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก