อย่าลืม “การลงทุนมีความเสี่ยง”.... ให้ “เซียนบริหารพอร์ต” กลยุทธ์การลงทุนขั้นเทพ “ก็เจ็บได้” !!!

สาระ Fund วันละนิด: จะดีแค่ไหน?...ถ้าได้ “นักลงทุนระดับเซียน” มาบริหารพอร์ตให้ จะระดับประเทศก็ได้ ระดับโลกยิ่งดี จริงมั้ย


แนวคิดนี้...ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดขึ้น จนปัจจุบันมี “เฟซปลอม” หลอกลวงนักลงทุนให้ใส่เงินเข้าไป เอารูปผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมาแปะ ว่าจะเอาเงินไปบริหารให้...เดี๋ยวสิ้นเดือนมีผลตอบแทนคืนให้เท่าโน่น เท่านี้...(เกลื่อนโลกดิจทัลการลงทุนเต็มไปหมด)


ก็เพราะไอเดียแบบนี้...“มันขายได้” บริษัทที่ทำแบบถูกต้องก็มี เริ่มเห็นโพรดักต์แนว “บริหารพอร์ตโดยกูรูตัวจริง” มาเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนมากขึ้นเช่นกัน


แต่รู้หรือไม่ว่า?...“กองทุนรวม” มีโพรดักต์ภายใต้แนวคิด “ตามรอยเซียน” เกิดขึ้นมานานแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อ 13 ปีก่อน ตั้งแต่ปี2009 แล้ว (และปิดกองไปในปี2015)


ไม่ต้องเสียดายไป...เพราะปัจจุบันยังมี “กองทุนรวม” ที่อิงกลยุทธ์การลงทุนที่ประสบความสำเร็จระดับโลกให้เลือกลงทุนอยู่


เพียงแต่ที่ต้องย้ำกันอีกครั้ง...“การลงทุนมีความเสี่ยง” นะ กลยุทธ์การลงทุนของนักลงทุนระดับเทพ ก็ “เจ็บตัวได้” เช่นเดียวกัน


ตามไปย้อยรอยดู “กองทุนตามรอยเซียน” กับทีมงาน ‘Wealthythai’ ไปพร้อมๆ กันได้เลย

“KTIL” ต้นตำรับ ‘กองทุนตามรอยเซียน’...เหมือนได้ “กูรูระดับตำนานของโลก” มาบริหารพอร์ตให้

มาดูต้นตำรับของกองทุนแนวนี้กันเลย นั่นก็คือ “KTIL: กองทุนเปิดเคแทม อินเวสเมนท์ เลเจนด์ ฟันด์” ของ ‘บลจ.กรุงไทย’ ที่คุณจะเสมือนได้ “นักลงทุนในตำนานระดับโลก” มาบริหารพอร์ตการลงทุนให้เลยทีเดียว นั่นเป็นที่มาของชื่อที่มีคำว่า “ตำนาน” (Legends) อยู่ด้วย


ถ้านึกถึงการลงทุนใน “หุ้น” ระดับตำนานที่นักลงทุนทั่วโลกรู้จักก็ต้องคุณปู่ “วอเร็น บัฟเฟ็ต” หรือนักลงทุนแถวหน้าอย่าง “Ian Cumming” และ “Joseph Steinberg” ต้นฉบับการลงทุนในหุ้น Value เป็นต้น


ถ้านึกถึง “หุ้นตลาดเกิดใหม่” เจ้าพ่อในตลาดนี้ก็ต้องยกให้ “ดร.มาร์ค โมเบียส”


ถ้านึกถึงการลงทุนใน “โลกแห่งตราสารหนี้” ก็ต้องคนนี้เลย “บิล กรอส” ที่ได้รับฉายาว่า “Bond King”


หรืออยากจะลงทุนใน “สินค้าโภคภัณฑ์” ก็ต้องคนนี้เลย “จิม โรเจอร์” เจ้าพ่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์


“เห็นชื่อเปิดมานี่ นักลงทุนผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสินทรัพย์ในระดับตำนานทั้งสิ้น ดีกรีความโด่งดังสนั่นโลก เชื่อว่า...คงมีนักลงทุนไทยที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของเหล่าตำนานนี้ไม่มากก็น้อย”


และนั่นจะสุดยอดเพียงใดเมื่อนักลงทุนไทยจะได้มีโอกาสให้เหล่าตำนานบริหารพอร์ตการลงทุนให้ ...จริงมั้ย?


“KTIL” ก็เกิดมาภายใต้แนวคิดนี้นั่นเอง โดยไปลงทุนในกองทุนหลัก คือ “Investment Legends Fund” เป็นหนึ่งในกองทุนย่อยของ ‘Celsius Fund Plc.’ บริหารโดย ‘Barclays Capital Fund Solutions’ ( BCFS) ซึ่งเป็นกองทุนผสมที่เน้นลงทุนในสินทรัพย์ 4 ประเภทหลัก ที่บริหารจัดการโดย “กูรูระดับตำนานของโลก” เหล่านี้นั่นเอง


เช่น การลงทุนใน “Berkshire Hathaway” ที่บริหารโดย “วอเร็น บัฟเฟ็ต” รวมถึงการลงทุนใน “Templeton Emerging Market” ที่บริหารและจัดการโดย “ดร. มาร์ค โมเบียส” ลงทุนใน “PIMCO Total Return Bond Fund” บริหารและจัดการโดย “บิล กรอส” (Bond King) และลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ผ่าน “Rogers International Commodity Index” (RICI) นั่นเอง


“กองทุน KTIL มีอายุประมาณ 7 ปี ก่อนจะปิดโครงการหายไปจากอุตสาหกรรมกองทุนไทยไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นกองทุนภายใต้แนวคิดให้กูรูที่เป็นตำนานระดับโลกมาบริหารพอร์ตให้นั่นเอง”

“SCBBLN” ตำนานมีชีวิต-คว้าโอกาสลงทุนหุ้นด้วยกลยุทธ์ระดับ “มหาเศรษฐีสหรัฐ”...ตั้งแต่ต้นปีผลตอบแทนติดลบ -41.22%

มาถึงกองทุนภายใต้แนวคิดนี้ที่ยังอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ “SCBBLN: กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ บิลเลียนแนร์ ชนิดจ่ายเงินปันผล” ของ ‘บลจ.ไทยพาณิชย์’


มี “จุดเด่น” โดยเปิดให้นักลงทุนไทยมีโอกาสได้ลงทุนในหุ้นเช่นเดียวกับ “นักลงทุนระดับมหาเศรษฐี” แนวหน้าที่ประสบความสำเร็จในระยะยาว เรียกว่า...พอร์ตเศรษฐีนี้ลงทุนอะไร เราก็จะลงทุนในหุ้นที่เศรษฐีเหล่านี้ถืออยู่ แต่ผ่านกระบวนการคัดเลือกหุ้นเฉพาะเพื่อทำเป็นดัชนีอ้างอิงขึ้นมานั่นคือ “ดัชนี Solactive US Top Billionair Investor” ซึ่งนักลงทุนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้


“โดยกระบวนการคัดเลือกหุ้นเข้ามาในดัชนีนั้น จะคัดเลือกพอร์ตจากแหล่งข้อมูล 13F Filling ของมหาเศรษฐีสหรัฐ และพอร์ตที่ได้รับคัดเลือกต้อมมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านดอลลาร์และมี Turn Over ไม่เกิน 50% โดยจะมีการคัดเลือกพอร์ตใหม่ทุก 1 ปี”


หลังจากนั้นจะคัดเลือกให้เหลือ 30 หุ้น ที่มีการถือครองสูงสุดจากพอร์ตที่มีผลการดำเนินการดีสุดในระยะเวลา 3 ปี และแน่นอนหุ้นนั้นต้องมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านดอลลาร์และจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ โดยหุ้นที่ได้รับการคัดเลือกจะให้จัดสรรน้ำหนักในดัชนีเท่ากัน (Equal-Weight) โดยจะมีการเรียงอันดับและคัดเลือกหุ้นใหม่ทุกไตรมาส


“เรียกว่า...เป็นกระบวนการในการคัดเลือกหุ้นในพอร์ตเศรษฐีสหรัฐมาทำเป็นดัชนี ซึ่งกอง SCBBLN ก็จะลงทุนไปตามดัชนีอ้างอิงนี้ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของพอร์ตมหาเศรษฐีสหรัฐนั่นเอง ซึ่งหากดูผลตอบแทนของกองทุนตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันก็ติดลบอยู่ -41.22% ถือว่า...บาดเจ็บไม่ใช่น้อยเช่นกัน”


แต่ไม่ว่าจะเป็น “กูรูในตำนานระดับโลก” หรือ “มหาเศรษฐีสหรัฐ” หรือ “เซียนหุ้นไทย” ก็ตาม ในมิติหนึ่งนี่คือ “ไอดอล” ที่นักลงทุนหลายๆ คนคงอยากจะ “ตามรอยเซียน” อย่างไม่ต้องปฏิเสธ แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า...แม้แต่กลยุทธ์ระดับเทพ โอกาสลงทุนแล้ว “เจ็บตัว” ก็เกิดขึ้นได้เสมอ ใครว่า...ตามรอยเซียนแล้ว “เจ็บตัวไม่ได้” ?