ห้องเม่าปีกเหล็ก

หมอพงศ์ศักดิ์ เทขายหุ้น DOHOME

โดย ลำหับ
เผยแพร่ :
299 views

หมอพงศ์ศักดิ์ เทขายหุ้น DOHOME เหลือถือครองไม่ถึง 5% หลังบริษัทรายงานกำไรน่าผิดหวัง

 

เซียนหุ้นหมื่นล้านหมอพงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี ที่ถือครองหุ้นมีมูลค่ารวมกว่า 2.38 หมื่นล้านบาท ได้ปรับพอร์ตครั้งสำคัญ โดยล่าสุดคุณหมดได้เทขายหุ้น บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME จำนวน 0.1341% เหลือการถือครองเพียง 4.8887% เท่านั้น ซึ่งการเทขายหุ้นนั้นเกิดขึ้นเมื่อ DOHOME รายงานกำไรไตรมาสที่ 2 ที่ 315.38 ล้านบาท ลดลง 47.6%


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานว่า นาย พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้นไทย ได้รายงานการขายหุ้นของบริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME โดยมีการจำหน่าย เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย คิดเป็น 0.1341% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ 


จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย คิดเป็น 4.8887% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่าย ของกลุ่มคิดเป็น 0.1341% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย ของกลุ่มคิดเป็น 4.8887% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ


ทั้งนี้การขายหุ้นของ DOHOME เกิดขึ้นหลังจากบริษัทได้รายงานผลปรกอบการ มีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2 ปี 2565 เท่ากับ 315.38 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 47.6 จำกไตรมาส 2 ปี 2564 ทั้งนี้กำไรลดลงของกำไรสุทธิมีสาเหตุหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มสูงขึ้น


ทั้งนี้ประเด็นที่น่าสนใจของการขายหุ้นของคุณหมอพงศ์ศักดิ์ คือ การรายงานการขายต่ำกว่า 5% ซึ่งหลังจากนี้หากมีการขายหุ้นเพิ่มเติม ไม่จำเป็นต้องแจ้งกับทางสำนักงานก.ล.ต.แล้ว 


บล.โนมูระ พัฒนสิน รายงานว่า DOHOME รายงานกำไรสุทธิไตรมาสที่ 2 เหลือ 315 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 48% และ ลดลง 31% จากไตรมาสก่อน แย่กว่าเราและตลาดคาด


เกิดจากต้นทุนสินค้าปรับขึ้นจากค่าขนส่งและบาทอ่อน แต่บริษัทยังไม่สามารถผลักภาระได้ทันที ฉุดอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวลงแรงเหลือ 16.8%ทั้งนี้ หากเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิหดตัวแรง ลดลง 48% เกิดจาก


1) อัตรากำไรขั้นต้นแย่ลง -590bps จากปีก่อนตามมาร์จิ้นเหล็กและผลกระทบเงินเฟ้อ 2) SG&A/sales สูงขึ้นเป็น 11.5% จาก 10.6% ในไตรมาสที่ 2 จากเป็น
ช่วงเร่งขยายสาขา โดยมีเปิดสาขาเพิ่ม 1 แห่ง (พิษณุโลก) เป็นสาขาที่ 18 (+4 แห่ง y-y)


อย่างไรก็ตามคงคาแนะนำ “NEUTRAL” โดยปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2023 เหลือ 16.80 บาทจากเดิม TP22Fที่ 19 บาทสะท้อนมุมมองลบมากขึ้นต่อแนวโน้มกำไรปี 22-23F หลังเผชิญแรงกดดันจากอัตรากำไรที่แย่ลง เราคาดกำไรปี 22F หดตัวลง -16% สวนทางกลุ่มค้าปลีกและ Home improvement แนะนำเพียง “ถือ

 

 


ลำหับ