ห้องเม่าปีกเหล็ก

IQ ไม่ได้มากับสายเลือดเท่านั้น แต่มากับโอกาสที่สังคมมอบให้

โดย illumitus
เผยแพร่ :
32 views

IQ ไม่ได้มากับสายเลือดเท่านั้น แต่มากับโอกาสที่สังคมมอบให้

หลายคนยังเข้าใจว่า IQ เป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิดเท่านั้น แต่จากงานวิจัยด้านพัฒนาการสมองและเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม พบว่าความฉลาดโดยเฉพาะในวัยเด็กสามารถสร้างได้ผ่านสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เช่น การเลี้ยงดูที่กระตุ้นสมอง โภชนาการที่ดี และระบบการศึกษาที่เปิดโอกาสให้เด็กได้พัฒนา “การคิด” ไม่ใช่แค่ “การจำ”

 

 

แล้วทำไมค่าเฉลี่ย IQ ของแต่ละประเทศถึงต่างกัน

งานวิจัยระดับโลกชี้ว่า ระดับ IQ ของประชากรในแต่ละประเทศมีความสัมพันธ์กับศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจและระดับการศึกษาอย่างใกล้ชิด ปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อ IQ ได้แก่

• ประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจและการศึกษาที่เข้มแข็ง มักมี IQ เฉลี่ยสูง

• โภชนาการที่ดีตั้งแต่เด็ก ส่งผลต่อการเชื่อมต่อของสมองอย่างมีประสิทธิภาพ

• ประเทศที่เผชิญโรคติดเชื้อรุนแรงหรือมีระบบสาธารณสุขอ่อนแอ อาจมีพัฒนาการสมองที่ชะงัก

• การเล่นเกมฝึกสมอง เช่น หมากรุก หรือการพูดสองภาษา ช่วยกระตุ้นสมองส่วนหน้า

• สภาพแวดล้อมที่มีโรงเรียนดี โรงพยาบาลดี และกิจกรรมเสริมทักษะ มีส่วนทำให้ประชากรมี IQ สูงขึ้น

 

IQ กับ HDI: ความฉลาดสะท้อนการพัฒนา

ระดับ IQ ของประชากรในแต่ละประเทศมีความสัมพันธ์กับดัชนีการพัฒนามนุษย์ (Human Development Index: HDI) ซึ่งประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ อายุขัยเฉลี่ย ระดับการศึกษา และรายได้เฉลี่ยต่อหัว ประเทศที่มี IQ สูงมักจะมีระดับ HDI อยู่ในกลุ่ม High หรือ Very High

 

ประเทศที่มี IQ เฉลี่ยสูงสุด 5 อันดับแรก (ข้อมูล ณ 1 ม.ค. 2025)

จีน – IQ 107.19 | HDI 0.788

เกาหลีใต้ – IQ 106.43 | HDI 0.929

ญี่ปุ่น – IQ 106.40 | HDI 0.920

อิหร่าน – IQ 106.30 | HDI 0.780

สิงคโปร์ – IQ 105.14 | HDI 0.949

 

ไทยอยู่ที่อันดับ 15 ด้วยค่าเฉลี่ย IQ 101.52 และ HDI 0.803 ซึ่งอยู่ในกลุ่ม Very High

 

IQ ไม่ได้คงที่ตลอดชีวิต

หนึ่งในความเข้าใจผิดคือ “ใครฉลาดก็จะฉลาดตลอดไป” แต่ในความเป็นจริง IQ สามารถลดลงได้หากไม่ได้รับการกระตุ้นสมองอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในวัยรุ่นตอนปลาย หากระบบการศึกษาไม่ยืดหยุ่นและท้าทายพอ เด็กอาจ “แบน” ลงทางสติปัญญาแม้จะเคยมีศักยภาพสูง แต่ข่าวดีคือ สมองสามารถ “ฟื้นตัว” ได้ หากกลับมาเรียนรู้ในสิ่งที่ท้าทายและมีความหมาย พื้นที่สมองที่ไม่ได้ใช้สามารถกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง ถ้าระบบการเรียนรู้พร้อมสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

 

IQ ของประชากร = ดัชนีชี้วัดการพัฒนา

งานศึกษาในระดับมหภาค เช่น โครงการ Human Capital Project ของธนาคารโลก และการวิเคราะห์ของ James Flynn พบว่า IQ เฉลี่ยของประเทศมีความสัมพันธ์กับรายได้ต่อหัว การเติบโตทางเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชน สังคมที่ลงทุนในการพัฒนาทุนมนุษย์ตั้งแต่วัยเยาว์ จะมีประชากรที่มีศักยภาพในการปรับตัวและสร้างนวัตกรรมได้ดีกว่า

 

จาก IQ สู่ EF: ยุคใหม่ของความฉลาด

แม้ IQ จะวัดศักยภาพเชิงตรรกะและการแก้ปัญหาได้ดี แต่ในโลกปัจจุบัน ทักษะ EF หรือ Executive Function กลายเป็นหัวใจของความฉลาดยุคใหม่ EF คือทักษะของสมองส่วนหน้า เช่น การควบคุมอารมณ์ การวางแผน และความยืดหยุ่นทางความคิด ซึ่งเป็นรากฐานของการเรียนรู้ตลอดชีวิต EF พัฒนาได้ตั้งแต่วัยเด็ก โดยเฉพาะผ่านกิจกรรมที่ให้เด็กได้ลองผิดลองถูกในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย

 

นโยบายสาธารณะต้องเริ่มที่สมองเด็ก

หากประเทศไทยต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดคือการลงทุนในช่วง 0–6 ปีแรกของชีวิต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวคือหน้าต่างทองของการสร้างทุนมนุษย์ ทั้งในมิติของสติปัญญา อารมณ์ สังคม และวัฒนธรรม

 

สรุปส่งท้าย: ความฉลาดไม่ใช่โชคชะตา แต่คือการออกแบบ

IQ ไม่ได้สะท้อนแค่ความสามารถของบุคคล แต่คือผลรวมของระบบการเลี้ยงดู การศึกษา และโครงสร้างสาธารณสุขทั้งประเทศ หากเราสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมตั้งแต่วันนี้ เราจะไม่เพียงได้คนที่ฉลาดขึ้น แต่ยังได้ประเทศที่ฉลาดขึ้นด้วย

.

เรื่องและภาพ: กุสุมา ธะนะวงศ์ Economist, Bnomics

════════════════

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาจาก..  Bnomics by Bangkok Bank 


illumitus