โพยหุ้น กลุ่มไฟแนนซ์กำลังจะโดดเด่น
กำไรปี 2565 มีการเติบโตทุกบริษัท

.
โพยหุ้นสัปดาห์นี้ ได้รวบรวมหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ พร้อมกับมุมมองของนักวิเคราะห์ว่านับจากนี้จะมีพื้นฐานการเติบโตน่าสนใจแค่ไหน โดยนักวิเคราะห์ได้ออกมาประเมินไว้อย่างน่าสนใจไม่ว่าจะเป็น ช่วงไตรมาส 3/65 จะเห็นทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 4/65 ก็เช่นกัน ทำให้ภาพรวมทั้งปี 2565 กำไรรวมทั้งกลุ่มจะอยู่ที่ระดับ 25,608 ล้านบาท เติบโต 16.8%จากปีก่อน
.
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์นั้น ประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/65 จะเห็นความแตกต่างของหุ้น 3 กลุ่มดังนี้1.หุ้นกลุ่มสินเชื่อเพื่อการบริโภค (KTC, AEONTS) คาดเร่งตัวขึ้นเด่นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการตั้งสำรองที่ผ่อนคลายลงมาก ส่วนเมื่อเทียบไตรมาสก่อน คาดชะลอตัวลงเล็กน้อย แม้แรงหนุนจากความต้องการจับจ่ายของครัวเรือนที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ด้วยจำนวนหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น คาดทำให้การตั้งสารองสูงขึ้นจากไตรมาส 2/65
.
2.หุ้นกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ (SAWAD, MTC, AMANAH) คาดเริ่มเห็นการขยับขึ้นของทั้งพอร์ตสินเชื่อและ NIM หลังความต้องการเงินด่วนในต่างจังหวัดยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับบริษัทเริ่มหันมาปล่อยสินเชื่อกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ อย่างสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์มือ 1 และสินเชื่อ Buy Now Pay Later ทำให้คาดผลดำเนินงานจะเร่งตัวขึ้นทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน
.
3.หุ้นกลุ่ม AMC (BAM, CHAYO) คาดกำไรเร่งตัวขึ้นทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน สอดรับกับการจัดเก็บเงินสดของลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ที่ฟื้นตัว และมีการขาย NPL และ NPA เพิ่มขึ้นจากเดิม
.
ส่วนภาพรวมของไตรมาส 4/65 คาดเห็นการปรับขึ้นทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนเช่นกัน หลังเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจสินเชื่อเพื่อการบริโภค เนื่องจากร้านค้าต่างๆ จะจัดโปรโมชั่นด้านราคาจำนวนมากเพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงปลายปี
.
ส่วนสินเชื่อจำนำทะเบียนรถคาดมีความต้องการใช้มากขึ้น เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการทำธุรกิจของลูกค้ารายย่อยและ SME หลังเศรษฐกิจในต่างจังหวัดมีแนวโน้มกลับมาขยายตัวมากขึ้น รับผลบวกจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตั้งแต่วันที่ 1ต.ค.คาดช่วยเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ให้กับลูกค้ากลุ่มรายได้น้อย และทำให้การตั้งสำรองชะลอตัวลง
.
ด้านกลุ่ม AMC เป็น High Season เช่นกัน คาดมีลูกหนี้ NPL เข้ามาเจรจาเพื่อปิดบัญชีหนี้ และมีลูกค้า NPA ติดต่อเพื่อซื้อทรัพย์มากกว่าช่วงอื่นของปี ดังนั้นจึงคาดว่าจะหนุนให้หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ปี 2565 จะมีกำไรสุทธิราว 25,608 ล้านบาท เติบโต 16.8%จากปีก่อน
.
ทั้งนี้มองว่าราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว และมี Upside น่าสนใจ โดยให้น้ำหนักลงทุนหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ที่ “เท่ากับตลาด” ซึ่งคาดจะมีแรงกดดันจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นไปอีกระยะหนึ่ง รวมถึงมาตรการควบคุมธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อที่จะทยอยเพิ่มขึ้นตามลำดับ แต่ด้วยราคาหุ้นหลายตัวได้ปรับลงมาตอบรับปัจจัยลบไปมากแล้ว ทำให้ Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ แนะนำ SAWAD เป็น Top Pick ของกลุ่ม จากความโดดเด่นของพอร์ตสินเชื่อที่เร่งตัวขึ้นได้ดี และการเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์มือ 1 ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ คาดหนุน Asset Yield ให้ปรับตัวขึ้นได้ดี
.
• SAWAD แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 64.00 บาท คาดปี 2565 รายงานกำไร 4,797 ล้านบาท เติบโต 1.6%
.
• MTC แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 52.00 บาท คาดปี 2565 รายงานกำไร 5,665 ล้านบาท เติบโต 14.6%
.
• KTC แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 69.50 บาท คาดปี 2565 รายงานกำไร 7,251 ล้านบาท เติบโต 23.3%
.
• AMANAH แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.20 บาท คาดปี 2565 รายงานกำไร 337 ล้านบาท เติบโต 9.7%
.
• AEONTS แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 222 บาท คาดปี 2565 รายงานกำไร 4,257 ล้านบาท เติบโต 19.8%
.
• CHAYO แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 14.40 บาท คาดปี 2565 รายงานกำไร 322 ล้านบาท เติบโต 47.0%
.
• BAM แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 24 บาท คาดปี 2565 รายงานกำไร 2,979 ล้านบาท เติบโต 14.6%