นำโดย นาย สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยบริษัทย่อย “กัลฟ์ บีแอล” และนางพรทิพา ชินเวชกิจวานิชย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กัลฟ์อยู่ระหว่างการเตรียมการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าไอพีพี กัลฟ์เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการให้ผู้มีประสบการณ์ด้านการก่อสร้างและพัฒนาโรงไฟฟ้าเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการโรงไฟฟ้า ซึ่งจะต้องมีความเชี่ยวชาญ จึงเห็นว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เหมาะสม กัลฟ์จึงได้ให้ กฟผ. เข้ามาดูแลงานบริการที่ปรึกษาวิศวกรรมและก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้า 2 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 5,000 เมกะวัตต์ โดยมีการลงนามในสัญญางานบริการที่ปรึกษาวิศวกรรม (ภาคสนาม) มูลค่ารวม 400 ล้านบาท
สัญญาที่ sarath ratanavadi บริษัท กัลฟ์และ กฟผ. ลงนามร่วมกันในครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 สัญญา ประกอบไปด้วย 1. สัญญางานบริการที่ปรึกษาวิศวกรรม (ภาคสนาม) สำหรับโครงการโรงไฟฟ้า GSRC ขนาดกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 2,500 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ดำเนินการโดยบริษัท กัลฟ์ เอสอาร์ซี จำกัด อายุสัญญาประมาณ 4 ปี ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 – เดือนตุลาคม 2565 และ 2.สัญญางานบริการที่ปรึกษาวิศวกรรม (ภาคสนาม) สำหรับโครงการโรงไฟฟ้า GPD ขนาดกำลังผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 2,500 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่ อำเภอปลวกแดง จังหวัด ระยอง ดำเนินการโดยบริษัท กัลฟ์ พีดี จำกัด อายุสัญญาประมาณ 4 ปี ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 – เดือนตุลาคม 2567 ซึ่งทั้ง 2 บริษัท เป็นบริษัทย่อยของกัลฟ์
นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า ขอขอบคุณกัลฟ์ที่ได้มอบความไว้วางใจให้ กฟผ. มีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการ เพื่อประโยชน์และความมั่นคงของระบบผลิตไฟฟ้าของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่ง ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกซึ่งมีความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เติบโตเพิ่มขึ้น จากนโยบายของภาครัฐตามแผนยุทธศาสตร์ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อยกระดับประเทศให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ผ่านโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กฟผ.หวังว่าจะได้มีโอกาสร่วมพัฒนาโครงการอื่น ๆ กับกัลฟ์อีกในอนาคต