คัดหุ้นน่าเข้า “เก็งกำไร”
ในช่วงประกาศงบไตรมาส 3/66
.
เข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในช่วงไตรมาส 3/66 กันแล้ว โดยล่าสุดนักวิเคราะห์ได้ออกมาประเมินภาพรวมว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนในช่วงดังกล่าวว่าจะอยู่ที่ระดับ 2.3 แสนล้านบาท เติบโต 5% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
.
แม้เห็นภาพการฟื้นตัวของกำไรบริษัทจดทะเบียน แต่ยังไม่กลับไปสู่ศักยภาพปกติที่ควรทำได้ไตรมาสละ 2.5 แสนล้านบาท ดังนั้นคอลัมน์ “โพยหุ้น” ประจำวันจันทร์ Wealthy Thai จึงได้รวบรวมหุ้นที่น่าเข้าลงทุน ตามรอบการประกาศผลประกอบการมาฝากแฟนคลับอีกเช่นเคย
.
ในมุมมองนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินกำไรสุทธิของ SET INDEX ไตรมาส 3/66 จะอยู่ที่ 2.3 แสนล้านบาทเติบโต 5% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งยังเป็นภาพการฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำ
.
แต่ยังไม่กลับไปสู่ศักยภาพปกติที่ควรทำได้ไตรมาสละ 2.5 แสนล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลที่ทำให้การบริโภคและการลงทุนในประเทศชะลอตัว โดยเฉพาะการลงทุนทั้งของภาครัฐและเอกชน ที่สะท้อนผ่านรายงานสินเชื่อกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่เดือน ก.ค. และ ส.ค. ที่ลดลง 0.7% และลดลง 1.2% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ
.
ขณะที่เครื่องชี้วัดการลงทุนรายเดือนตามการรายงานของ ธปท. พบว่าการลงทุนภาคเอกชนพลิกกลับมาอ่อนตัวลงในเดือน ส.ค.เมื่อเทียบเดือนก่อนหน้า และช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการลงทุนภาครัฐฯ ยังทรุดต่อเนื่อง จากการจัดตั้งรัฐบาลที่ใช้เวลานานเกินไป
.
อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมกำไรสุทธิของ SET INDEX จะไม่น่าตื่นเต้น แต่เราพบว่ามีหลายกลุ่มที่คาดว่าจะเห็นการเติบโตทั้งจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวเดียวกันของปีก่อน ซึ่งพอจะเก็งกำไรระยะสั้นในช่วง Earning Season รอบนี้ได้ คือ
.
ธนาคารพาณิชย์ จากการตั้งสำรองที่ทยอยลดลง และ NIM ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตามทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย รวมทั้งพลังงานกลุ่มพลังงานต้นน้ำและโรงกลั่น ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบและค่าการกลั่นที่ปรับตัวขึ้น ตามด้วยค้าปลีก ได้แรงหนุนจากต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ปรับตัวลง และ SSSG ที่เริ่มฟื้นตัว
.
รวมทั้งการแพทย์ เริ่มกลับมาโตในไตรมาส 3/66 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะเป็น High Season และฐานกำไรไตรมาส 3/65 ถูกปรับสมดุลจาก COVID-19 แล้ว
.
อีกทั้งกลุ่มสื่อสาร ได้แรงหนุนจากการแข่งขันที่ลดลง ทำให้ผลประกอบการเริ่มประคองตัวได้ทั้งจากไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามด้วยกลุ่มท่องเที่ยว ยังได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว ส่วนกลุ่มที่ผลประกอบการมีแนวโน้มชะลอตัวเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน คือ สื่อทีวี, ยานยนต์ (ไม่รวม AH), และอสังหาริมทรัพย์
.
นักวิเคราะห์ยังบอกอีกว่า ประเมิน Earning Season รอบนี้มีโอกาสเป็น Positive Surprise มากกว่า Negative Surprise เพราะ 1.สภาพแวดล้อมด้านเศรษฐกิจ และการลงทุนช่วงไตรมาส 3/66 ไม่เอื้อต่อการคาดการณ์เชิงบวก เนื่องจากหลายอุตสาหกรรมถูกกระทบจากสุญญากาศทางการเมือง จึงทำให้คาดการณ์ของตลาดอยู่ในระดับต่ำ
.
2.ต้นทุนการผลิตส่วนใหญ่ปรับตัวลง พิจารณาจากดัชนีราคาผู้ผลิตไตรมาส 3/66 ที่ปรับตัวลง 3.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และค่าไฟฟ้าที่ลดลงเหลือ 3.99 บาท หน่วยตั้งแต่เดือน ก.ย.
.
3.SET INDEX มีการพักฐานลงมารอแล้วพอควร ทำให้มีโอกาสเกิด Buy on fact มากกว่า Sell on fact ซึ่งถ้าอิงสถิติการประกาศงบช่วง 7 ไตรมาสล่าสุดหลังผ่าน COVID-19 พบว่า ถ้า SET INDEX ปรับตัวลงแรงก่อน Earning Season เมื่อประกาศงบออกมาแล้ว หุ้นขนาดใหญ่มักมีแรง Buy on fact และหนุนให้ SET INDEX ฟื้นตัว จากแรง Short Covering ในช่วงสั้นๆ
.
ดังนั้นแนะนำ “เก็งกำไร” หุ้นงบสวยที่ราคาปัจจุบันยังมี Upside เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสม หรือ ราคาหุ้นปรับฐานลงแรงเกินไป ซึ่งได้แก่ BBL, SCB, TOP, DOHOME, CPALL, SAWAD, OSP, MINT, BDMS, EKH เป็นต้น
