EPG ลั่นรายได้แตะ 2 หมื่นลบ. ภายใน 5 ปี ศึกษาแผนซื้อกิจการอีก 2-3 ดีล

รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 66 (เม.ย.65-มี.ค.66) จะเติบโตต่อ 12-15% สู่ระดับ 13,500 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นที่ 29-32% มาจากการดำเนินงานของ 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ยอดขายเติบโต 10 - 12% มาจากการรักษาส่วนแบ่งการตลาดสำหรับสินค้าเกรดพรีเมี่ยมทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น พร้อมแนะนำสินค้ารุ่นใหม่ๆ
.
การลงทุนใน Aeroflex USA Inc.สหรัฐอเมริกา เพื่อขยายกำลังการผลิตได้นำเครื่องจักรระบบอัตโนมัติความเร็วสูงมาใช้เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิต ลดความเสี่ยงในการพึ่งพาแรงงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ปัจจุบันมีกำลังการผลิตที่ 8,000 ตันต่อปี
.
ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ยอดขายเติบโต 20-23% โดยทำงานร่วมกับลูกค้ากลุ่ม OEM ค่ายยานยนต์ของยุโรป เอเชีย และสหรัฐอเมริกา เพื่อพัฒนาสินค้านวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ได้รับประโยชน์จากที่อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก กำลังมุ่งไปทางยานยนต์ไฟฟ้า ผู้ผลิตยานยนต์ต้องการชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีมาตรฐานสูง ปลอดภัย และน้ำหนักเบา
.
สำหรับธุรกิจในออสเตรเลียมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ตามความต้องการยานยนต์ประเภท Light Commercial Vehicle และ SUV ในออสเตรเลีย และการเข้าซื้อกิจการ 4 Way Suspension 100% ในออสเตรเลี จะรับรู้รายได้และกำไรทันที ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ยอดขายเติบโต 5 - 8%
.
ดร.ภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EPG กล่าวว่า ปีนี้ตั้งเป้ายอดขาย 13,500 ล้านบาท และ ปี 67 เพิ่มเป็น 15,000 ล้านบาท โดยวางเป้าภายใน 5 ปี หรือปี 70 ยอดขายแตะ 20,000 ล้านบาท มาจากการเติบโตมาจาก Organic Growth และ Inorganic Growth ด้วยการลงทุน M&A และ Joint Venture
.
การเข้าซื้อกิจการ 4 Way Suspension ในออสเตรเลีย โดยไม่ต้องเพิ่มทุน เนื่องจากการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวจะสร้างกำไรส่วนเพิ่มให้กับบริษัทได้ทันที โดยเงินลงทุนมาจากกระแสเงินสดภายในกิจการและเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ปัจจุบันมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 0.38-0.4 เท่า หลังซื้อกิจการ D/E จะอยู่ที่ 0.5 เท่า แต่ก็แค่ชั่วคราวเพราะกิจการ 4 Way รับรู้รายได้และกำไรทันที นอกจากนี้อยู่ระหว่างศึกษาดีล M&A อีก 2-3 ดีล แต่ต้องขอดูตามความเหมาะสม
.
สำหรับต้นทุนพลังงานที่ปรับเพิ่มขึ้น ปลายปีนี้บริษัทจะติดตั้ง Solar Roof (ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา) กว่า 20 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าพลังงานไฟฟ้าได้ปีละ 70-80 ล้านบาท หรือ 30% ต่อปี จากเดิม 300 ล้านบาทต่อปี
