ห้องเม่าปีกเหล็ก

ข้อดีและข้อเสียของรูปแบบสินทรัพย์ทั้ง 5 ประเภท และ Portfolio Management

โดย slark
เผยแพร่ :
68 views

ข้อดีและข้อเสียของรูปแบบสินทรัพย์ทั้ง5ประเภท
และPortfolio Management
เรียบเรียงจาก หนังสือ Learn to Earn เขียนโดย Peter Lynch
และฟัง อ ชาย อดีตนายกสมาคมThaiviพูดในงานสัมมนาแห่งนึง

1.บัญชีออมทรัพย์ กองทุนรวมตลาดเงิน ตั๋วเงินคลัง. ตั๋วเงินฝาก
ข้อดี ได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย และได้รับเงินคืนในเวลาไม่นาน
ถ้าเป็นตราสารภาครัฐ ก็จะได้มีการประกันว่าได้คืนเงินแน่นอน
ไม่รวมรัฐวิสาหกิจ
ข้อเสีย คือ ในระยะยาว ผลตอบแทนจะแพ้เงินเฟ้อ หรือถ้าชนะแต่ก็ไม่มากพอ
ที่จะมีอิสระภาพทางเงินหลังเกษียณด้วยสินทรัพย์แบบนี้

 

2.ของสะสม ตั้งแต่ รถโบราณ ไปถึง แสตมป์ เหรียญโบราณ
ข้อดี ราคาสูงขึ้นจากความต้องการของตลาดมากขึ้น
อีกเหตุผลคือเงินเฟ้อ ทำให้เงินสดด้อยค่าลง และสินทรัพย์เพิ่มค่าขึ้น
ข้อเสีย คือ สูญหายและถูกขโมยได้ อาจโดนน้ำ ลม ไฟ หรือ ปลวก

 

3.บ้าน หรือ คอนโด
การซื้อบ้านหรือคอนโดเป็นการซื้อที่คุ้มค่าที่สุด มีข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น
คือ เข้าอยู่ได้ และ คุณสามารถซื้อได้ด้วยเงินคนอื่น
หมายถึงเราใช้เงินสดส่วนนึง ที่เหลือ ก็กู้ธนาคาร
บ้านและคอนโด ราคามีโอกาสขึ้นในอนาคต ซึ่งบางครั้ง เพิ่มมากกว่าเงินที่เราลงไปตอนแรก
ทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ขึ้นในช่วงsubprime
4.พันธบัตร
มีความคล้ายคลึงกับตั๋วเงินฝาก แต่ระยะยาวมากกว่า1ปี
ข้อดี คือความมั่นคง เพราะรัฐบาลรับประกัน
ข้อเสีย ถ้าอายุยิ่งยาว เงินต้นที่จะได้คืน ถูกเงินเฟ้อกัดกร่อนไป
เลยจะเห็นว่าดอกเบี้ยจะมากกว่าระยะสั้น

 

5.หุ้น น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
ในระยะยาว เช่น50ปี ในปี1945-1994. ดัชนีS&P500ให้ผลตอบแทนสูงสุด เฉลี่ย 11.9%ต่อปี
แต่พันธบัตร ได้5%ต่อปี. ตั๋วเงินคลัง4.7%
แม้แต่ทองคำที่คิดจากปี 1977 ได้แค่ 4.6%
แต่หุ้นต้องอาศัยทักษะในการเลือกให้ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลตอบแทนเฉลี่ย11.9%ต่อปี
ถ้าเลือกหุ้นผิดก็อาจขาดทุนได้
ผมแถมเพิ่มให้อีก

 

 

 

6.Commodity เช่น ทองคำ เงิน น้ำมัน ข้าว ยางพารา
เป็นสินทรัพย์ที่เคลื่อนไหวขึ้นลง ตามวัฐจักร
ถ้าเราเข้าใจวัฐจักรของแต่ละประเภท ก็สามารถทำผลตอบแทนเพิ่มให้พอร์ตได้
ดังนั้นเราควรจัดสัดส่วนในการลงทุน หรือ Portfolio management
หรือที่ ดร สมจินต์เรียกว่า จัดทัพลงทุนตามวัตถุประสงค์
Markowitz พูดถึง efficient frontier ว่า บางครั้ง ผลตอบแทนกับความเสี่ยงไม่ได้ไป
ด้วยกันตลอด เวลาจัดสินทรัพย์ลงในพอร์ต
แต่มีจุดนึงที่ความเสี่ยงไม่มาก แต่ได้ผลตอบแทนสูง
ยกตัวอย่างเช่น
การจัดพอร์ตที่มีหุ้นและตราสารหนี้
สถิติทางวิชาการพบว่า
หุ้น100% ให้ผลตอบแทนสูง แต่ความเสี่ยงก็สูง
หุ้น75% ตราสารหนี้ 25% ให้ผลตอบแทนลดลง แต่ความเสี่ยงก็ลดลง
หุ้น50% ตราสารหนี้ 50% ให้ผลตอบแทนเท่ากับพอร์ต ที่มีหุ้น100%แต่ความเสี่ยงน้อยกว่า
สำหรับผู้ลงทุนที่ไม่ใช่สายวีไอ100% ก็สามารถจัดสัดส่วนพอร์ตให้เหมาะสมกับตัวเอง
และพอร์ตมีความเสี่ยงที่รับได้

 


slark