เปิดโผ 7 หุ้นธนาคาร ปันผลสูง
เปิดโผ 7 หุ้นธนาคาร ปันผลสูง ตั้งแต่ต้นปี SCB มีอัตราเงินปันผลตอบแทนมากสุดในกลุ่ที่ 8.85% รองลงมา TISCO ที่ 7.91%
ณ ห้วงเวลานี้ หุ้นธนาคารอยู่ระหว่างประกาศงบการดำเนินงานไตรมาส 2 ของปี 2568 และครึ่งปี 2568 ซึ่งที่ผ่านมา หุ้นธนาคารจัดเป็นกลุ่มยอดนิยมของนักลงทุน เนื่องจากมีลักษณะเด่นหลายประการ เช่น เป็นสถาบันการเงินที่มีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ การดำเนินธุรกิจค่อนข้างมีเสถียรภาพ และได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมน้อยกว่าบางอุตสาหกรรม ทำให้เอื้อต่อการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ และมีอัตราผลตอบแทนที่ดีมาอย่างยาวนาน ขณะเดียวกันยังสามารถรักษานโยบายการจ่ายปันผลต่อเนื่องให้มีความน่าสนใจต่อนักลงทุนค่อนข้างสูง ทั้งนี้ "กรุงเทพธุรกิจ" ได้สำรวจหุ้นกลุ่มธนาคาร ว่า มีอัตราปันผล และอัตราผลตอบแทนด้านราคาเป็นอย่างไรบ้างในแต่ละช่วงเวลา

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) SCB
- อาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
- มาร์เก็ตแคป 397,319 ล้านบาท
- ไตรมาส 1/68 กำไรสุทธิ 12,502 ล้านบาท
- อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ที่ 8.85% ปี 2567 ที่ 8.80% ปี 2566 ที่ 6.31% ปี 2565 ที่ -%
- ผลตอบแทนราคา YTD +0.43% 1 สัปดาห์ +0.43% 1 เดือน 0.00% 3 เดือน +1.72% 6 เดือน -2.88% 1 ปี +15.12% 3 ปี +25.53% 5 ปี -%
บล.กรุงศรี คาด SCB รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ที่1.04 หมื่นล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้น +4% y-y เพราะค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX)-7% y-yจากไตรมาส 2/67 มีค่าใช้จ่ายในการปิด Robinhood รวมถึงค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) ลดลง -14% y-y จากไตรมาส 2/67 มีการตั้งเพื่อรองรับความเสี่ยงของลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเฉพาะราย ขณะที่กำไรลดลง -17%q-q จากรายได้ดอกเบี้ย (NII) ลดลง-4% q-q จาก NIM ที่ 3.65% ลดลงจากไตรมาส 1/67 ที่ 3.78% จากการลดลงของดอกเบี้ยนโยบายรวมถึงสินเชื่อลดลง -0.1% q-q คิดเป็น +0.8%YTD การลดลงq-q จากสินเชื่อภาคธุรกิจรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) ลดลง -7% q-qจากการลดลงของเงินลงทุน (FVTPL) และรายได้ค่าธรรมเนียมตลาดทุนด้านคุณภาพสินทรัพย์ NPL Ratio คาดที่ 3.55% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/68 ที่ 3.45% มองว่าหลักๆมาจากลูกหนี้กลุ่มบ้าน
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) KBANK
- ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
- มาร์เก็ตแคป 374,354 ล้านบาท
- ไตรมาส 1/68 กำไรสุทธิ 13,791 ล้านบาท
- อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ที่ 7.59% ปี 2567 ที่ 4.18% ปี 2566 ที่ 2.96% ปี 2565 ที่ 2.20% ปี 2564 ที่ 1.76%
- ผลตอบแทนราคา YTD +1.61% 1 สัปดาห์ +0.32% 1 เดือน +2.93% 3 เดือน +4.64% 6 เดือน -1.86% 1 ปี +24.90% 3 ปี +12.86% 5 ปี +75.07%
บล.กรุงศรี คาด KBANK รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ที่ 1.21 หมื่นล้านบาท กำไรลดลง -4% y-y และ -12% q-q เพราะรายได้ดอกเบี้ย (NII) ลดลง -7% y-y และ -2% จาก NIM ลดลงเหลือ 3.35% จากไตรมาส 2/67 ที่ 3.67% และไตรมาส 1/68 ที่ 3.41% จากการลดลงของ yield on loan ตามทิศทางดอกเบี้ยนโยบายที่
ปรับลง และ portfolio mixed นอกจากนั้นสินเชื่อรวมลดลง -1.0% q-q คิดเป็น -3.0% YTD จากการลดลงของสินเชื่อทุกประเภท ทั้งสินเชื่อภาคธุรกิจ SME และรายย่อย รวมถึงรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) ลดลง -6% y-y และ -11% q-q จากการลดลงของเงินลงทุน (FVTPL) และรายได้ค่าธรรมเนียม-บริการ เช่น Bancassurance และรายได้ค่าธรรมเนียมด้านตลาดทุน เป็นต้น ด้านคุณภาพสินทรัพย์บริหารอยู่ในระดับที่จัดการได้NPL Ratioที่3.25% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/68 ที่ 3.19%
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) KTB
- ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่
- มาร์เก็ตแคป 297,690 ล้านบาท
- ไตรมาส 1/68 กำไรสุทธิ 11,714 ล้านบาท
- อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ที่ 7.25% ปี 2567 ที่ 4.13% ปี 2566 ที่ 3.71% ปี 2565 ที่ 2.36% ปี 2564 ที่ 2.08%
- ผลตอบแทนราคา YTD +1.43% 1 สัปดาห์ -1.39% 1 เดือน -3.18% 3 เดือน -2.29% 6 เดือน -3.62% 1 ปี +23.12% 3 ปี +46.90% 5 ปี +102.86%
บล.กรุงศรี ระบุว่า คาด KTB รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ที่ 1.09 หมื่นล้านบาท กำไรลดลง -3% y-y และ -7% q-q เพราะรายได้ดอกเบี้ย (NII) ลดลง -9% y-y และ -2% q-q จาก NIM ที่ 2.96% ลดลงจากไตรมาส 2/67 ที่ 3.36% และไตรมาส 1/68 ที่ 3.04% จากการลดลงของ yield on loan ตามดอกเบี้ยนโยบาย และ portfolio mixed รวมถึงรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) ลดลง -4% q-q จากการลดลงของเงินลงทุน และรายได้ค่าธรรมเนียม-บริการ iii) ค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) เพิ่มขึ้น +5% y-y และ +2% q-q ตามพอร์ตลูกหนี้ สำหรับสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้น +1.2% q-q คิดเป็น -0.1% YTD การเพิ่มขึ้น q-q จากสินเชื่อภาครัฐ ด้านคุณภาพสินทรัพย์ NPL Ratio อยู่ที่3.00% ใกล้กับไตรมาส 1/68 ที่ 2.97%
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BBL
- ชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่
- มาร์เก็ตแคป 275,828 ล้านบาท
- ไตรมาส 2/68 กำไรสุทธิ 11,840 ล้านบาท
- อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ที่ 5.88% ปี 2567 ที่ 4.64% ปี 2566 ที่ 2.88% ปี 2565 ที่ 2.36% ปี 2564 ที่ 2.06%
- ผลตอบแทนราคา YTD -4.30%% 1 สัปดาห์ +0.70% 1 เดือน +3.96% 3 เดือน -1.37% 6 เดือน -3.99% 1 ปี +7.04% 3 ปี +13.78% 5 ปี +31.96%
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BBL รายงานผลการดำเนินงานธนาคารมีกำไรสุทธิในไตรมาส 2/68 จำนวน 11,840 ล้านบาท ลดลง 6.2% จากไตรมาสก่อน โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน สำหรับรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลงจากค่าธรรมเนียมการอำนวยสินเชื่อ และ ค่าธรรมเนียมบริการประกันผ่านธนาคาร และ บริการกองทุนรวม ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล ขณะที่ธนาคารยังคงมีการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างเหมาะสม ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานลดลง ทั้งนี้ ธนาคารพิจารณาตั้งสารองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตามหลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง แต่หากเทียบกับไตรมาส 2/67 กำไรสุทธิอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน
ในขณะที่กำไรสุทธิสำหรับงวดแรกปี 2568 จำนวน 24,458 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% จากงวดแรกปีก่อน สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารสินทรัพย์ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจหลายด้าน ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 63,614 ล้านบาท และ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ 2.85% ซึ่งเป็นไปตามทิศทางอัตราดอกเบี้ย
สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุนและกำไรจากเงินลงทุน ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลง ส่วนใหญ่จากการบริการธุรกรรมผ่านธนาคารสุทธิกับรายได้จากบริการการค้าระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ธนาคารมีการพัฒนา และ ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการให้ความสำคัญกับการบริหารค่าใช้จ่าย ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานอยู่ในระดับที่ 45.3%
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) TTB
- ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
- มาร์เก็ตแคป 183,434 ล้านบาท
- ไตรมาส 2/68 กำไรสุทธิ 5,004 ล้านบาท
- อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ที่ 7.04% ปี 2567 ที่ 5.62% ปี 2566 ที่ 4.35% ปี 2565 ที่ 2.69% ปี 2564 ที่ 3.05%
- ผลตอบแทนราคา YTD +1.08% 1 สัปดาห์ 0.00% 1 เดือน -3.59% 3 เดือน -4.08% 6 เดือน+3.30% 1 ปี +6.21% 3 ปี +67.86% 5 ปี +84.31%
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 ธนาคารและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 5,004 ล้านบาท ลดลง 7.2% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และลดลง 1.8% จากไตรมาสก่อน มีสาเหตุหลักจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลงตามทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย และสะท้อนผลจากการปรับลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือลูกค้าภายใต้โครงการต่างๆ ส่งผลให้งวด 6 เดือนแรก ปี 2568 ธนาคารมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10,100 ล้านบาท ลดลง 6.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ในด้านรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ปรับตัวดีขึ้น 9.1% จากไตรมาสก่อน หนุนโดยการฟื้นตัวของรายได้ค่าธรรมเนียมแบงก์แอสชัวรันส์จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และรายได้อื่นๆ เช่น เงินปันผล อย่างไรก็ดี รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ลดลง 3.6% จากไตรมาสก่อน จากอัตราผลตอบแทนที่ลดลงตามการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายและการลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือลูกค้า ส่งผลให้รายได้จากการดำเนินงานรวมอยู่ที่ 16,381 ล้านบาท ลดลง 1.0% จากไตรมาสก่อน และรายได้จากการดำเนินงานรวม 6 เดือน อยู่ที่ 32,934 ล้านบาท ลดลง 6.0% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
ขณะที่ 6 เดือนแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ 10,100 ล้านบาท ยังคงเน้นย้ำการมีประสิทธิภาพด้านต้นทุนเพื่อลดผลกระทบจากแรงกดดันด้านรายได้และรักษาความสามารถในการทำกำไร ด้านอัตราส่วนหนี้เสียลดลงมาอยู่ที่ 2.73% ส่วนอัตราส่วนสำรองฯ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพทรงตัวในระดับสูงที่ 149% สะท้อนแนวโน้มด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่มีเสถียรภาพและบริหารจัดการได้ตามเป้าหมาย
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) BAY
- เคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
- มาร์เก็ตแคป 161,091 ล้านบาท
- ไตรมาส 2/68 กำไรสุทธิ 8,295 ล้านบาท
- อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ที่ 3.88% ปี 2567 ที่ 3.47% ปี 2566 ที่ 3.01% ปี 2565 ที่ 2.76% ปี 2564 ที่ 0.99%
- ผลตอบแทนราคา YTD -10.61% 1 สัปดาห์ +0.46% 1 เดือน +2.82% 3 เดือน 0.00% 6 เดือน -9.50% 1 ปี -10.25% 3 ปี -30.48% 5 ปี +1.39%
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2568 ธนาคารและบริษัทในเครือ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 8,295 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เกิดจากการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการลดลงของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของธนาคารในการเพิ่มประสิทธิภาพการดําเนินงานและการควบคุมต้นทุน
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวปีก่อน แม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวลดลง กำไรสุทธิยังคงเพิ่มขึ้น 1.0% โดยมีปัจจัยหลักมาจากการลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
ส่วนช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ธนาคารและบริษัทในเครือ มีกำไรสุทธิ 15,829 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2567
บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) TISCO
- ศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
- มาร์เก็ตแคป 78,463 ล้านบาท
- ไตรมาส 2/68 กำไรสุทธิ 1,644 ล้านบาท
- อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ที่ 7.91% ปี 2567 ที่ 7.87% ปี 2566 ที่ 7.77% ปี 2565 ที่ 7.20% ปี 2564 ที่ 6.56%
- ผลตอบแทนราคา YTD -0.51% 1 สัปดาห์ -0.25% 1 เดือน +0.51% 3 เดือน -2.00% 6 เดือน -0.76% 1 ปี +2.89% 3 ปี +12.97% 5 ปี +39.01%
บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) TISCO รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 2/68 มีกำไรสุทธิ 1,643.516 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.2 จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,753 ล้านบาท มาจากรายได้รวมที่อ่อนตัวลง ทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และการลดภาระดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้กลุ่มเปราะบางในโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยชะลอตัวจากธุรกิจที่เกี่ยวกับตลาดทุนในภาวะที่ตลาดทุนผันผวนรุนแรง และการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้น ตามแผนการตั้งสำรอง ส่วนกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน เท่ากับ 2.05 บาทต่อหุ้น ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า และลดลงจาก 2.19 บาทต่อหุ้นในไตรมาส 2/67 ส่วนอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 15.2
ทั้งนี้ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย มีจำนวน 1,465.35 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5.5 จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากธุรกิจตลาดทุนอ่อนตัวลงตามภาวะตลาดทุนที่ผันผวน รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ มีจำนวน 104.89 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4.6 ตามปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ชะลอตัวลง รายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานของธุรกิจจัดการกองทุน มีจำนวน 416.70 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 0.5 จากการชะลอการออกกองทุนใหม่ รายได้ธุรกิจวาณิชธนกิจ มีจำนวน 17.84 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า รวมถึงผลกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านก าไรหรือขาดทุน ลดลงมาอยู่ที่จำนวน 107.12 ล้านบาท
ขณะที่ รายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์ปรับตัวดีขึ้นร้อยละ 11.7 มาอยู่ที่ 888.94 ล้านบาท จากค่าธรรมเนียมนายหน้าประกันภัย ตามปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ฟื้นตัว ประกอบกับรายได้อื่นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการบันทึกรายได้รับจากเงินสมทบจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จากโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ซึ่งในไตรมาส 2/68 มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 3,328.48 ล้านบาท ลดลง ร้อยละ 1.7 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท. ประกอบกับการลดภาระดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางผ่านโครงการ “คุณสู้ เราช่วย”
ที่มา.. https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1190205