โดย FahsaiME
เผยแพร่ : 
66 views
หลังจากแตกพาร์ไป หุ้น PTT ก็เป็นที่จับตาของนักลงทุนรายย่อยอย่างเราๆอย่างมาก ด้วยราคาที่ซื้อง่ายขายคล่อง จากราคาห้าร้อยกว่า ลงมาอยู่ที่ 51 บาทต่อหุ้น โบรกต่างแนะนำซื้อ เนื่องจากแนวโน้มปัจจัยการดำเนินงานและเศรษฐกิจ ดังนี้
ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2561
ผลงานไตรมาสแรกของปี 2561 QoQ ดีกว่าที่หลายโบรกคาดการณ์เอาไว้ ถึงแม้ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยและต้นทุนขายสูงขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง ทำให้กำไรสุทธิดีกว่าไตรมาสก่อนถึง 13% ที่ 39,788 ล้านบาท
หากมอง YoY ปี 2561 มีรายได้สูงกว่าปี 2560 ถึง 23,175 ล้านบาท แต่มีต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูง ส่งผลให้มีกำไรสุทธิลดลง 14% 
โครงสร้างผลประกอบการของ PTT ประกอบไปด้วย 4 ส่วนใหญ่ คือ 1.ธุรกิจน้ำมันและเทรดดิ้ง 2.ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น 3.ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และ 4.ธุรกิจสำรวจและผลิต จะเห็นได้ว่าธุรกิจน้ำมันและเทรดดิ้ง เป็นรายได้หลักของ PTT แต่มีสัดส่วนสร้างผลกำไรได้น้อย ในขณะที่ธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีรายได้ต่ำกว่า แต่เป็นอันดับหนึ่งในเรื่องผลกำไรที่กินสัดส่วนเกือบครึ่งของกำไรสุทธิทั้งหมด
ข้อมูลจากบทวิเคราะห์ชี้ว่า เนื่องจากราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ในไตรมาสแรกของปีนี้ หลายธุรกิจของ PTT มีรายได้เพิ่มขึ้น
- ธุรกิจน้ำมันและเทรดดิ้ง คือ ธุรกิจจำหน่ายน้ำมันดีเซล เบนซินและน้ำมันเครื่องบิน รวมทั้งขายปลีก เช่น Cafe Amazon ในส่วนน้ำมันมีผลประกอบการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในไตรมาสนี้ เนื่องจากราคาและปริมาณการขายน้ำมันดีเซลและน้ำมันเครื่องบินที่เพิ่มสูงขึ้น
- ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นกลับชะลอตัวลง เนื่องจากปิโตรเคมีสายอะโรเมติกส์มีกำไรลดลงตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์พลอยที่ลดลงอย่างมาก รวมทั้งในส่วนของโรงกลั่นที่มีค่าการกลั่นลดลงจากกำไรสต๊อกน้ำมันที่ลดลงและต้นทุนน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น
- ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ โดยภาพรวมมีรายได้การขายลดลงเล็กน้อย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งมีรายได้มาจาก 3 ธุรกิจใหญ่ คือธุรกิจท่อส่งก๊าซ ซึ่งมีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายและขาดทุนลดลงจากธุรกิจ NGV ขณะที่ธุรกิจ Selling and Marketing และโรงแยกก๊าซ (GSP) มีกำไรลดลงเล็กน้อย ตามราคาและปริมาณการขายที่ลดลงและต้นทุนที่สูงขึ้น
- ธุรกิจสำรวจและผลิต ถึงแม้ว่าปริมาณการขายจะลดลงแต่ราคาขายปิโตรเลียม (น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ ก๊าซธรรมชาติเหลว) เฉลี่ยเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY ส่งผลให้ สัดส่วนกำไรสุทธิสูงขึ้น
แนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจปี 2561
จากรายงานการวิเคราะห์ของ PTT เปิดเผยว่าเศรษฐกิจโลกในไตรมาส 1/ 61 ขยายตัวในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน โดยได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ผู้บริโภคที่เข้มแข็ง ตลอดจนภาคส่งออก และการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงขยายตัวได้ดี ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกากลับชะลอลง ตามการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ชะลอตัวในช่วงเริ่มต้นของปี ส่งผลให้การประชุม Fed ในเดือนมีนาคม 2561 ที่ผ่านมา มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
สำนักงานพลังงานสากล (International Energy Agency: IEA) ณ เดือนเมษายน 2561 คาดว่าความต้องการ ใช้น้ำมันของโลกในปี 2561 จะอยู่ที่ 99.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจาก 97.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2560
ปัจจัยเสี่ยที่อาจเกิดขึ้นได้ คือ ภาวะชะลอตัว/ชะงักงันของเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบโลก ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์อื่นๆ และอัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนและต่ำว่าประมาณการ
อ่านผลประกอบการเพิ่มเติมได้ที่.....http://ptt-th.listedcompany.com/home.html
โบรกชี้เป้า แนะนำซื้อ
ASIAwealth แนะนำซื้อ เป้าหมาย 66.4 คาดการณ์ว่าปี 2561 ยังเป็นปีที่ดีของ PTT จากภาพรวมราคาน้ำมันและราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ปรับตัวดีขึ้น อิงกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และการควบคุมซัพพลายของจีน ผลประกอบการไตรมาส 2/61 คาดว่ายังอยู่ระดับใกล้เคียงกับไตรมาส 1/61 - 8 มิ.ย. 2561
LHS แนะนำซื้อ เป้าหมาย 59.50 จากกำไรไตรมาส 1/61 ที่สูงกว่าที่คาด ประกอบกับราคาน้ำมันระยะสั้นอยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งเป็นผลบวกต่อหุ้น PTT และยังมีโอกาสได้มูลค่าหุ้นเพิ่มจาก PTTOR ที่เป็นการแยกธุรกิจเทรดดิ้งออกจากธุรกิจน้ำมัน -14 พ.ค. 2561
อ่านบทวิเคราะห์เพิ่มเติมได้ที่....http://www.ruayhoon.com/analysis.php?stock=PTT
จากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น ถึงแม้ว่าผลประกอบการ YoY จะไม่ดีเท่าปีก่อน แต่ด้วยปัจจัยอื่นๆทั้งผลประกอบการ QoQ และภาวะเศรษฐกิจที่เอื่ออำนวย ทำให้หุ้น PTT ได้รับคำแนะนำซื้อจากหลายโบรก และตัวผู้เขียนเองก็มีความเห็นว่าหุ้น PTT ยังคงน่าสนใจลงทุนอย่างยิ่ง ด้วยลักษณะธุรกิจที่ผูกขาดสูงและเป็นอุตสาหรรมใหญ่ที่ขับเคลื่อนประเทศ
