Wall Street ปรับตัวสูงขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการกลุ่มน้ำมัน

Wall Street ปรับตัวสูงขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการกลุ่มน้ำมัน

ตลาดทั่วโลกได้กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะตลาดยักษ์ใหญ่อย่าง Wall Street ของสหรัฐอเมริกา โดยทั้งดัชนี S&P และ Down Jon ได้ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FED ได้ส่งสัญญาณที่จะชะลอตัวการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปก่อน

.

Wall Street ได้ตอบรับข่าวการส่งสัญญาณการชะลอตัวการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED โดยตลาดกลับมาบวกอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย S&P500 เมื่อวันพฤหัสปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเป็นดัชนีที่สูงที่สุดในเดือนมกราคมของทุกปี นับตั้งแต่ปี 1987 และยังเป็นการสะท้อนความหวังในการเจรจาเพื่อคลี่คลายสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ รวมไปถึงความอดทนในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED

.

นอกจากนั้น ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐและตัวเลขประกาศผลประกอบการของบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อย่าง Exxon Mobil และ Chevron ยังส่งผลให้ตลาดเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมาอีกด้วย โดยดัชนี S&P500 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% ปิดที่ระดับ 2,706.53 ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของภาคพลังงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 1.8% ส่วนภาคเทคโนโลยี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% ตามไปด้วยภาคการเงินปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% อย่างไรก็ตาม หุ้นในกลุ่มบริโภคปรับตัวลดลง 1.8% ซึ่งเป็นภาคอุตสหกรรมหลักที่ฉุดดัชนีโดยรวม

.

การปรับตัวเพิ่มขึ้นของ Exxon และ Chevron กว่า 3% มีผลให้ดัชนี Dow Jon ภาคอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้น 0.3% แตะที่ระดับ 25,063.89 จุด ขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite ปิดลบ 0.3% ที่ 7,263.87 จุด

.

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ Wall Street ปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ได้ เนื่องจากการประกาศตัวเลขการจ้างงาน โดยเติบโตขึ้น 304,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม ขณะที่ตลาดคาดการณ์การเติบโตเพียง 165,000 ตำแหน่ง

.

นอกจากนั้น ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ประกาศโดย The Institute for Supply Management ได้เปิดเผยว่า ดัชนีตัวเลขกิจกรรมการผลิตของโรงงาน (Tracking factory activity index) ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยได้รับอานิสงค์จากคำสั่งซื้อใหม่และการปรับตัวลดลงของต้นทุนสินค้า ซึ่งทำให้ลดความกังวลสำหรับนักลงทุนในการชะลอตัวของภาคการผลิตไปได้ (Manufacturing Sector)

.

ส่วนตัวเลขผลตอบแทนพันธบัตรซึ่งมีการขายออกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้น โดยผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 4.9 จุด แตะที่ระดับ 2.6842% ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรประเภท 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.4 จุด แตะที่ระดับ 2.506%

.

ดัชนีอัตราแลกเปลี่ยนเงินเหรียญดอลล่าห์เทียบกับเงินสกุลอื่นๆ ปรับตัวคงที่ที่ 95.579

.

ขณะที่ราคาน้ำมันยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.7% แตะที่ $55.26 ต่อบาเรลล์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 3.1% แตะที่ $62.75 ต่อบาเรลล์

ที่มา: https://www.ft.com/content