โครงการ “Gulf Football Camp: ชาร์จพลังปลุกฝันนักเตะเยาวชน แบ่งเป็น 2 กิจกรรมหลัก ประกอบด้วย การปรับปรุงสนามฟุตบอลเก่าในชุมชนให้ได้มาตรฐาน โดย กัลฟ์ และสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะคัดเลือกสนามฟุตบอลหนึ่งแห่งที่มีผู้เสนอเข้ามาพร้อมเหตุผลที่น่าสนใจ เพื่อมาปรับปรุงให้เป็นสนามฟุตบอลที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน”
“และอีกหนึ่งกิจกรรมหลัก คือ Trial Tournament ซึ่งเป็นการจัดการแข่งขันฟุตบอลระดับเยาวชน โดย จะเกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2562 เพื่อเฟ้นหานักเตะเยาวชน 4 คน ที่มีความสามารถโดดเด่นร่วมเดินทางไปเก็บประสบการณ์ด้านฟุตบอลที่สโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ประเทศเยอรมนี เป็นระยะเวลา 7 วัน”
“โดยภายหลังจากการฝึกซ้อมที่ต่างประเทศแล้ว ทั้ง 4 เยาวชนจะกลายเป็นสมาชิกของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อะคาเดมี โดยอัตโนมัติ”
กลุ่มบริษัท กัลฟ์ (Gulf) ผู้ผลิตพลังงานชั้นนำของประเทศไทย ร่วมกับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด หรือ สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จัดโครงการ “Gulf Football Camp : ชาร์จพลังปลุกฝันนักเตะเยาวชน” และพัฒนาสนามฟุตบอลเก่าในชุมชน พร้อมจัด Trial Tournament เพื่อเฟ้นหาเยาวชนอายุระหว่าง 10-14 ปี ที่มีความสามารถ พร้อมผลักดันสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
เนวิน ชิดชอบ ประธาน บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด กล่าวว่า “ฟุตบอลไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนานักเตะระดับเยาวชนมาอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้จะเห็นได้ว่าฟุตบอลระดับเยาวชนของไทยเริ่มที่จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ”
“แต่ละสโมสรมีการคัดเลือกเด็กเข้าสู่ระบบอะคาเดมีอย่างเข้มข้น ซึ่งถือว่าเดินกันมาถูกทางแล้ว และแน่นอนว่าจะเป็นการส่งผลดีต่อการพัฒนาฝีเท้าของนักเตะระดับเยาวชน เพื่อเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยในอนาคต”
“โครงการนี้นับเป็นก้าวสำคัญของวงการฟุตบอลไทย สำหรับบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ไม่ได้เห็นความสำคัญของชัยชนะหรือการเป็นแชมป์เพียงเท่านั้น แต่การสร้างบุคคลากรเพื่อให้เป็นนักเตะมืออาชีพสำหรับทีมชาติไทยก็เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญ”
“ดังนั้นนักเตะเยาวชนจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนระเบียบวินัย เพื่อทำให้พัฒนาขึ้นมาเป็นเยาวชนแถวหน้าของวงการฟุตบอลไทย โดยเน้นการเล่นฟุตบอลแบบสมัยใหม่ มีแนวทาง และรูปแบบการเล่นแบบเดียวกับทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชุดใหญ่”
“กัลฟ์ ที่นำโดยคุณ สารัชถ์ รัตนาวะดี ( sarath ratanavadi ) ตระหนักดีว่าการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไม่ว่าจะด้านใดก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านกีฬาให้ไปถึงระดับสากลนั้น จำเป็นต้องส่งเสริมความพร้อมอย่างรอบด้าน ซึ่งนอกจากความพร้อมด้านทักษะพื้นฐาน สถานที่ และอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานแล้วนั้น”
“สิ่งสำคัญเพื่อช่วยให้เยาวชนไทยพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง คือ การสร้างเยาวชนต้นแบบเพื่อปลุกกระแสและเป็นแรงบันดาลใจในหมู่เยาวชนด้วยกันเอง ดังนั้น กัลฟ์ จึงพร้อมเป็นพลังหลักในการสนับสนุนเยาวชนที่มีใจรักการเล่นกีฬา และจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้พัฒนาศักยภาพ พร้อมปลุกพลังความมุ่งมั่นทุ่มเท เพื่อทำฝันของตนให้เป็นจริง” นายธนญ กล่าว
“สโมสรมีความยินดีที่ได้มีส่วนร่วมและแบ่งปันประสบการณ์ เทคนิคและความเชี่ยวชาญของเราให้แก่เยาวชนไทย”
“โดยเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับประสบการณ์จากศูนย์ฝึกซ้อม ‘Hohenbuschei’ ของสโมสรที่ขึ้นชื่อเรื่องนวัตกรรมการฝึกฝนทักษะฟุตบอลและได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์ฝึกที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป เราเชื่อว่านักเตะเยาวชนของไทยจะได้รับการพัฒนาและประสบการณ์อันล้ำค่า จากสโมสรดอร์ทมุนด์อย่างแน่นอน”คาร์สเทน คราเมอร์ (Carsten Cramer) ผู้บริหารฝ่ายการตลาด สโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กล่าวปิดท้าย