สรุปงบ M มีอะไรน่าสนใจ
ราคาหุ้น M ไหลพรวดๆ ลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 56.75 บาท ซึ่งเป็นราคาต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปลายปี 2017
ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากผลกระทบของ COVID-19 เพราะ M มีสาขารวมทุกแบรนด์มากกว่า 700 สาขา และหลายที่ก็อยู่ในสถานที่ท่องเที่ยว
แต่อีกเหตุผล ก็อาจจะมาจากงบการเงิน ถ้าไปส่องดูจะพบว่า รายได้โต 4% และกำไรสุทธิโต 1.2%
เรามาดูกันดีกว่าครับ ว่าในงบมีตัวเลขอะไรน่าสนใจบ้าง
1. ร้านเดิมขายไม่ดี
79% ขาย MK 19% ขาย Yayoi
ตัวเลข SSSG (Same Store Sale Growth) หรือ การเติบโตของร้านเดิม ทั้งปี MK Suki 0% Yayoi -5%
- MK ฟื้นจาก Q3 ที่ติดลบกลับมาเป็นศูนย์ใน Q4 คาดว่ามาจาก Co-promotion กับ ชานมพี่เสือพ่นไฟที่ดึงคนเข้าร้าน และเพิ่มยอดขายเครื่องดื่ม แต่ว่า SG&A ก็เพิ่มนะ
- Yayoi ติดลบ 3 ไตรมาสต่อเนื่อง อาการน่าเป็นห่วง เมื่อ 2 ปีก่อนยังเป็นพระเอกช่วยเพิ่มยอดอยู่เลย มาตอนนี้ขายไม่ดีซะแล้ว
2. ร้านใหม่เปิดช้าลง
ปี 2019 เปิด 40 สาขา เป็น MK 17 Yayoi 15 และร้านอื่นอีก 8 สาขา เมื่อก่อนเห็นเปิดได้เกือบปีละ 50 สาขา
และมีข้อสังเกตว่าทั้ง MK และ Yayoi เปิดสาขาในกรุงเทพกับปริมณฑลมากขึ้นกว่าปีก่อนๆ แต่ต่างจังหวัดกับเปิดน้อยลง อันนี้ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร เป็นเรื่องค่าใช้จ่ายมั้ย หรือว่าต้องการมาสู้ศึก Delivery ในเมืองหลวงมากขึ้น
สำหรับแผนปี 2020 จะเปิด 30 สาขา แบ่งเป็น MK 16 Yayoi 9 และ ร้านอื่น 5 สาขา ถือว่าลดลงพอสมควร และคงเห็นแล้วว่า Yayoi น่าจะเหนื่อย เลยลดการเปิดสาขาลง
3. แหลมเจริญ กำไรดี
หลังจากทุ่มเงิน 2,000 ล้านบาท ซื้อหุ้น 65% ในแหลมเจริญ มีการรวมงบเข้ามา 1 เดือน (29 พ.ย. – 31 ธันวาคม)
- รายได้ 117 ล้านบาท กำไรสุทธิ 19 ล้านบาท NPM 16.2% (แค่เดือนเดียวนะ)
- สมมติว่าทั้งปีขายได้เรตนี้ (แต่จริงๆ อาจต่ำกว่า เพราะธันวาคมอาจจะขายดี) รายได้ก็ตกปีละ 1,400 ล้านบาท กำไรก็อาจจะ 240 ล้านบาท
- สมมติคิดกลมๆ 200 ล้านบาท MK ถือหุ้น 65% ก็ได้มา 130 ล้านบาท
- กำไรของ M ทั้งบริษัท 2,600 ล้านบาท แหลมเจริญก็จะเข้ามาช่วยเพิ่มกำไรให้ประมาณ 5%
- แต่ไม่รู้ว่านักท่องเที่ยวมากินร้านนี้แค่ไหน อาจจะกระทบยอดขายบ้าง และถ้าเดือนธันวาเป็นพีค ทั้งปีก็อาจไม่ถึง
4. เงินเยอะ สภาพคล่องดี หนี้น้อย
M จัดว่าเป็นหุ้นที่พื้นฐานแข็งแกร่ง เงินสดรวมกับเงินทุนระยะสั้นมีอยู่ประมาณ 8 พันล้านบาท สภาพคล่อง 3.54 เท่า D/E 0.23 เท่า และเป็นหุ้นที่มีอัตราส่วนกำไรสูง คือ GPM 68.5% NPM 14.6%
แปลว่า ถ้า M จะลงทุนเพิ่มหรือซื้อกิจการอื่นเข้ามาเพิ่มก็สามารถทำได้ไม่มีปัญหา แต่อาจจะต้องเลือกดีลดีๆ ที่ดูแล้วคุ้มค่าหรือตอบโจทย์กับการเติบโตในยุคที่มีการแข่งขันสูงทั้งแบรนด์อื่น และ Delivery App หลากหลายเจ้า
โดยสรุป M ต้องลองพิจารณาดูว่าจะโตต่อไปทางไหนดี เพราะร้านเดิมไม่ค่อยโต ร้านใหม่เข้ามาช่วยได้แต่การขยายสาขาเริ่มช้าลง และกระจุกตัวในกรุงเทพฯ แถมยังโดนผลกระทบจาก Delivery กับ COVID-19 แต่ข้อดีคือมีเงินหนา และอยู่ในธุรกิจนี้มานาน น่าติดตามครับว่า ก้าวต่อไปจะเป็นอย่างไร