ถ้าคุณลงทุน $1,000 กับ Netflix ตั้งแต่ปี 2007 คุณจะได้มีเงินเท่าไรในตอนนี้?

ถ้าคุณลงทุน $1,000 กับ Netflix ตั้งแต่ปี 2007 คุณจะได้มีเงินเท่าไรในตอนนี้?

ระบบ Streaming ของ Netflix ได้นำเสนอวิดีโอเกี่ยวการลงทุนในหุ้น Netflix เมื่อวันอังคารของสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแสดงให้เห็นว่า ราคาค่าดูรายเดือนได้ปรับตัวสูงขึ้นอีกประมาณ 13% ถึง 18%  สำหรับลูกค้าใหม่และลูกค้าที่มีอยู่เดิม ซึ่งเป็นการปรับราคาที่สูงมากเมื่อเทียบกับอดีตที่ผ่านมา หลังจากการประกาศของบริษัท ทำให้หุ้น Netflix ปรับตัวเพิ่มขึ้นทันทีถึง 6%

.

จากการคำนวณของ CNBC ถ้าคุณได้ลงทุนตั้งแต่หุ้น Netflix ตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งเป็นปีแรกที่บริษัทเริ่มให้บริการ Streaming ด้วยเงินลงทุนเพียง $1,000 จะมีมูลค่ามากกว่า $90,000 ในวันที่ 15 มกราคม ในปีนี้

.

ในขณะที่การแข่งขันในอุตสาหกรรม Streaming Platform จะมีการแข่งขันกันดุเดือดมากยิ่งขึ้น โดยมีคู่แข่งรายใหญ่อย่าง Amazon, Apple, Disney รวมไปถึง NBC Universal ที่เพิ่งได้เปิดตัวเร็วๆ นี้ ได้ลงมาเล่นในธุรกิจที่มีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน เพื่อเป็นการดึงลูกค้าจากเจ้าตลาดเดิมอย่าง Netflix

.

“ฉันคิดว่า Netflix จะประสบปัญหาอย่างแน่นอน เมื่อรายใหญ่ต่างๆ ได้เริ่มมาแข่งในธุรกิจเดียวกันนี้” กล่าวโดย Laura Martin นักวิเคราะห์ Investment-Banking และ Asset-management จาก Needham & Company เมื่อครั้งสัมภาษณ์ครั้งล่าสุดกับ CNBC ถึงอย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังมองเชิงบวกกับ Netflix อยู่

.

CNBC: หุ้น Netflix เมื่อเดือนมกราคม 2019

“การลงทุนของบริษัททั้งในเรื่อง Content ต่างๆ, เทคโนโลยี และการกระจายสู่รายย่อย จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัท ซึ่งจะเหนือกว่าความคาดหมายของตลาด ทั้งในตลาดในสหรัฐและประเทศอื่นๆ” กล่าวโดย Goldman Sachs นักวิเคราะห์ทางอินเตอร์เน็ตของ Health Terry

.

นอกจากนั้น Justin Patterson จาก Investment banking-company ของ Raymond James ได้ยกระดับเชียร์ให้ “Strong buy” จากเดิมที่ให้เพียง “Outperform”

.

“เราเชื่อกันว่า การปรับปรุงหนังเชิงบวกและสัญญาณการสร้างผลกำไรในระยะยาวของ Netflix จะสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้อย่างโดดเด่น” Patterson ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “Bird Box ซึ่งเป็นหนังที่ได้รับความนิยมและมียอดผู้ชมสูงมากเรื่องหนึ่ง เป็นตัวอย่างที่สามารถสร้างความประสบความสำเร็จในการสร้างหนังของบริษัท โดย Netflix ยังสามารถรักษาจุดแข็งไว้ได้ ทั้ง ความสะดวกสบายในการรับชม, ต้นทุนการผลิต และการหากลุ่มลูกค้าที่กระจายอยู่ทั่วโลก”

.

นี่ถือเป็นครั้งที่ 4 ที่ Netflix ได้เพิ่มราคา Subscription กับลูกค้า ตั้งแต่เริ่มให้บริการ Streaming จากครั้งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม 2017 โดยในครั้งนั้นทำให้หุ้นของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นกว่า 3%

.

นักวิเคราะห์ของ Wall Street ยังมีความเห็นว่า “ราคาของ Netflix ยังมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นได้ เพราะดูเหมือนว่าลูกค้ายังเต็มใจที่จะจ่าย ถึงมีค่าบริการรายเดือนจะเพิ่มขึ้นก็ตาม โดยดูได้จากอดีตที่ผ่านมา แม้ว่าราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ผู้ใช้บริการก็ยังเต็มใจที่ใช้บริการอยู่” โดยไตรมาศสุดท้ายของปีที่ผ่านมา Netflix ได้รายงานผู้ใช้งานในสหรัฐเติบโตสูงขึ้นประมาณ 11% โดยมีผู้ใช้งานประมาณ 58 ล้านคน

.

โดยในปี 2018 มีหลายบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีที่มีผลประกอบการโดดเด่นเช่นกัน จึงถูกเรียกกันว่าหุ้น “FAANG” ประกอบไปด้วย Facebook, Apple, Amazon, Netflix และ Google

.

ดังนั้น ถ้ากำลังมองหาที่จะเริ่มลงทุนกับ Netflix หรือหุ้นในตลาดโดยทั่วไป ผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน ทั้ง Warren Buffett, Mark Cuban และ Tony Robbins ได้แนะนำว่าให้เริ่มต้นที่ กองทุนที่อิงดัชนี (หรือ Index Funds) ที่จะเน้นการลงทุนกับหุ้นใหญ่ๆ หลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งมีผลกับดัชนีของตลาดโดยตรง นอกจากนี้ กองทุนเหล่านี้ยังมีข้อดีคือ มีอัตรา Turnover ที่ต่ำ, ค่าธรรมเนียมการซื้อขายและค่าใช้จ่ายทางภาษีไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับกองทุนประเภทอื่นๆ อีกด้วย

ที่มา: https://finance.yahoo.com