เทศกาลปั่นหุ้นเล็ก / สุนันท์ ศรีจันทรา
ช่วงนี้ฝ่ายกำกับการซื้อตลาดหลักทรัพย์ ทำงานหนักเป็นพิเศษ เพราะมีหุ้นร้อนๆ ที่ต้องเฝ้าติดตามนับ 100 บริษัท โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็ก ซึ่งราคาถูกลากขึ้นอย่างหวือหวา และมีการสร้างข่าวกระตุ้นเก็งกำไรกันมากมาย
แม้ว่าจะประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายอย่างถี่ยิบ และยกระดับความเข้มข้นของมาตรการในหุ้นหลายตัว แต่ไม่อาจหยุดยั้งการพุ่งทะยานของราคาหุ้นได้
ปัจจุบันมีหุ้นที่ถูกตลาดหลักทรัพย์ประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายติดแคชบาลานซ์ต้องซื้อหุ้นด้วยเงินสดทั้งสิ้น 45 บริษัท โดยไม่นับรวมหุ้นลูกหรือใบสำคัญแสดงสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนหรือวอร์แรนต์ และหุ้นที่ซื้อขายในกระดานต่างประเทศ
ในจำนวน 45 หุ้นที่ถูกใช้มาตรการกำกับการซื้อขาย แยกเป็นถูกมาตรการขั้นที่ 1 โดยต้องซื้อหุ้นด้วยเงินสด 40 บริษัท ถูกมาตรการขั้นที่ 2 โดยห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย 2 บริษัท และถูกมาตรการขั้นที่ 3 ห้ามหักลบกลบชำระค่าซื้อขายหุ้นในวันเดียวกันจำนวน 3 บริษัท
นอกจากนั้น หุ้นนับสิบบริษัทถูกประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ภายในเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เช่น หุ้นบริษัท เอ๊กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG หุ้นบริษัท จัสมิน เทเลคอมซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JTS
หุ้นบริษัท เดลต้า อิเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA และหุ้น บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AEC
ไม่มีช่วงเวลาใดในประวัติศาสตร์ที่ตลาดหลักทรัพย์จะงัด “ใบเหลือง” ประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายเพื่อดับความร้อนแรงของหุ้นมากมายเท่าช่วงเวลานี้
แต่สิ่งที่น่าหดหู่คือ มาตรการดับความร้อนแรงของตลาดหุ้นแทบใช้ไม่ได้ผล เพราะหุ้นส่วนใหญ่ดื้อยา ไม่สะทกสะท้านกับมาตรการกำกับการซื้อขาย ราคาหุ้นยังพุ่งทะยานต่อไป แม้ตลาดหลักทรัพย์จะยกระดับเข้มข้นของมาตรการสูงสุดสู่ระดับ 3 ก็ตาม
หุ้นบางตัวนอกจากถูกมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 3 แล้ว แต่ราคาหุ้นยังถูกลากขึ้นอย่างเย้ยฟ้าท้าดิน จนตลาดหลักทรัพย์ต้องออกประกาศด่วน เตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังการซื้อขาย จึงสยบความร้อนแรงได้ เช่นหุ้น บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MVP
หุ้นที่ติดติดแคชบาลานซ์ทั้ง 45 บริษัท ส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดเล็กซึ่งจะมีการสร้างข่าวกระตุ้นราคาหุ้น ทั้งข่าวลือ หรือข่าวความเคลื่อนไหวภายในบริษัทจดทะเบียนเอง เช่น ข่าวโครงการลงทุนใหม่ๆ การคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการ
และข่าวยอดนิยมที่ใช้กระตุ้นราคาหุ้นในยุคนี้คือ การมีนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียน
แต่หุ้นบางตัวพุ่งทะยานอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย โดยไม่มีข่าวดีสนับสนุน เช่น หุ้น JTS ซึ่งปีนี้ปรับตัวขึ้นกว่า 2,000% จนค่าพี/อี เรโช ทะลุ 650 เท่าไปแล้ว
เบื้องหลังความร้อนแรงของหุ้นขนาดเล็กร่วมร้อยบริษัท นักลงทุนเชื่อว่า เจ้ามือหุ้นเป็นผู้บงการ และเจ้ามือแต่ละเจ้าเปิดปฏิบัติการโดยไม่ได้นัดหมาย ลากราคาหุ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน จนเกิดปรากฏการณ์การปั่นหุ้นขนาดเล็ก
และปั่นกันอย่างสนุกสนานเหมือนเทศกาล โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ไม่ไว้หน้าตลาดหลักทรัพย์ หรือแม้แต่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
การประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขาย มีเป้าหมายเพื่อกำกับการซื้อหุ้นหุ้นที่เป็นไปโดยไม่ปกติ ให้กลับมาซื้อขายตามปกติ แต่ดูเหมือนว่ากลไกของตลาดหลักทรัพย์ชิ้นนี้ ใช้ไม่ได้ผล และกำลังทำให้ตลาดหลักทรัพย์เป็นเพียงเสือกระดาษ
หุ้นเริ่มดื้อยา ขณะที่เจ้ามือหุ้นหัวดื้อก้มหน้าก้มตาลากหุ้นต่อไป โดยมีเป้าหมายลากนักลงทุนรายย่อยขึ้นไปเชือด
พฤติกรรมการปั่นหุ้น เกิดขึ้นอย่างโจ๋งครึ่มอีกครั้ง และกำลังทำให้ภาพลักษณ์ของตลาดหุ้นเปลี่ยนเป็นบ่อนการพนันที่ถูกต้องตามกฎหมาย และมีคนเข้ามาเล่นกันอย่างเมามัน
หุ้นปั่นมักจะปิดฉากด้วยโศกนาฏกรรม โดยเจ้ามือรวย นักลงทุนรายย่อยจน และการปั่นหุ้นรอบนี้เกิดขึ้นแทบทั้งตลาดหุ้น นักลงทุนรายย่อยจึงอาจบาดเจ็บล้มตายกันนับหมื่นนับแสนราย
ตลาดหลักทรัพย์จะปกป้องนักลงทุนอย่างไร จะช่วยแมลงเม่าให้รอดพ้นจากการตกเป็นเหยื่อเจ้ามือที่กำลังเปิดเทศกาลปั่นหุ้นได้หรือไม่
หรือทุกฝ่ายได้แต่นั่งดูแก๊งเจ้ามือหุ้นสุมหัวเปลี่ยนตลาดหุ้นให้เป็นบ่อนการพนันอย่างเต็มรูปแบบ และไม่มีใครทำอะไรได้
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมุลจาก