ห้องเม่าปีกเหล็ก

จับตาเศรษฐกิจและการลงทุน จากกูรูกรุงศรี

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
48 views

จับตาเศรษฐกิจและการลงทุน จากกูรูกรุงศรี
สรุปKrungsriExclusive 9 พ.ย.
FundLecture

Source : https://www.youtube.com/watch?v=fnfCQR6oNFo

 

May be an image of 6 people and text

 

>> คุณธณาพล อิทธินิธิภัค Head of Thai Business BlackRock
“BlackRock มองเศรษฐกิจโลกฟื้นต่อไหม สินทรัพย์ใดน่าลงทุน”
.
- มองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจะต่างกัน โดย DM ฟื้นดีกว่า และฉีดวัคซีนมาก ผ่อนคลายเร็ว สวนทาง EM
- กิจกรรมทางเศรษฐกิจเปิดตัว แต่ตตลาดการเงินผันผวน Fed ก็เริ่มมีการทำ QE Tapering ลง (ทั้ง Treasury 10bn และ MBS 5bn) อย่างไรก็โ ไม่ใช่เรื่อง Surprise
.
- สิ่งที่ตลาดจับตามองจริงๆ คือ เรื่องเงินเฟ้อ
- แต่การขึ้นดอกเบี้ยคงไม่ขึ้นเร็วนี้ BlackRock มองว่า จะขึ้นครึ่งปีหลัง 2023 เลย (จากแต่ละรอบที่ผ่านมา เฟด ใช้เวลาราวๆ 1 ปีในการขึ้นดอกเบี้ย)
- ขณะที่ยุโรปอาจจะขึ้นดอกเบี้ยในปี 2026 เลย
- แต่จะไม่รีบขึ้นดอกเบี้ยเพราะเงินเฟ้อต่ำมานาน
- บวกกับปัญหา Supply chain Shortage เกิดเพราะการปิดตัวของโรงงานในช่วงโควิด บวกกับการขาดแคลนพลังงานด้วย
.
- ตัวเลข Unemployment ต่ำ (จริงต่ำกว่าความเป็นจริง) ควรดูคู่กับ Labor force Participation rate (สะท้อนคนที่ไม่อยากหางานทำ) ก็ต่ำ อยู่ราวๆ 62 (ปกติ 63-64) สะท้อนว่าเป็นอีก indicator นึง ว่าถ้าเฟดกดดันเกินไป ตลาดแรงงานอาจไม่ฟื้นตัว
.
- ECB ยืดหยุ่นเป้าหมายเงินเฟ้อมากขึ้น และพเชชื่อว่าจะมีการทำ QE ไปเรื่อยๆ (PEPP สิ้นสุดมี.ค.2022) ตราบใดที่ตลาดต้องการสภาพคล่อง
.
- จีนไม่เพิกเฉยกับตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาไม่ค่อยดี อาจมีการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ หรือมีมาตรการออกมา
- GDP จีนเริ่มแย่ลง คงไม่อยากให้ Q4 ออกมาแย่ลงไปอีก
.
- ระยะยาว 1 ปีขึ้นไปแนะนำ ถือหุ้นเพราะผลประกอบการออกมาดี Valuation ไม่แพง
- แนะนำยุโรป ได้เรื่องลดโลกร้อน กำไรฟื้น เปิดประเทศ ดอกเบี้ยต่ำ Valuation น่าสนใจ เม็ดเงินเพิ่งเริ่มไหลกลับเข้าไป
- จีนมองว่ายังโตได้ต่อเนื่องนะ
- ตราสารหนี้ไม่คุ้มความเสี่ยง แนะลงหุ้นดีกว่า
- แนะนำ Local bond เพราะได้รับผลกระทบ Taper น้อย คนท้องถิ่นถือ และ Yield สูง
.
===================
.
>> ดร. สมประวิณ มันประเสริฐ ผู้บริหารสายงานวิจัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
“เศรษฐกิจไทยเป็นอย่างไร หลังการติดเชื้อผ่านจุดสูงสุด”
.
#เราอยู่ในที่สว่างแล้วแต่ยังต้องระมัดระวง
#การฟื้นตัวแต่ละภาคไม่เท่ากันต้องSelective
.
- มอง GDP ปีนี้ 0.6% ปีหน้า 3% โดยมองการลงทุนภาคเอกชน น่าจะเพิ่มขึ้นมากในปีหน้า เพราะคนกล้าลงทุนมากขึ้น
- การลงทุนใหม่เกิดจาก Industry Transformation มีการเกิดวง Supply Chain ใหม่
- Global Value Chain เกิดการแยกวง ของประเทศยักษ์ใหญ่ มีวงการผลิตของตัวเอง จะเกิด Demand สำหรับ Investment เกิดขึ้น
.
- การท่องเที่ยวยังมองไม่ค่อยดี ปีนี้ท่องเที่ยว 2 แสน ปีหน้าอาจจะ 5 ล้าน แต่ยังห่างนักท่องเที่ยวกว่า 40 ล้านคน
.
- อัตราการเสียชีวิตที่ลดลงช่วยให้เปิดเศรษฐกิจได้ แต่จังหวัดฉีดไปเยอะ แต่หลายจังหวัดยังฉีดกันไม่เยอะมาก ยงไม่เร็วมาก มีความเสี่ยงและหลากหลายอยู่
- เราต้องอยู่กับโควิด คุ้นชินกับมัน โดยพบว่า ปีก่อนรัฐประกาศ คนกลัว แต่ปีนี้ คนไม่ค่อยสนใจกับกฎระเบียบมาก เพราะยังไงคนไทยต้องอยู่กับโควิดให้ได้
.
- กิจกรรมในประเทศเริ่มดีขึ้น แต่ภาคท่องเที่ยวยังห่างจากระดับก่อนโควิด (การท่องเที่ยวโลกกลับมาราว 50% ดูจากการ search แต่ไทยแค่ 25%)
- มองว่า จะค่อยฟื้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ยังไม่กลับไปที่เดิมนะ
- ปัจจัยบวกเริ่มมีมากขึ้นใน Q4 ดีกว่า Q3
- มองว่ากนง.ยังคงดอกเบี้ยนโยบายถึงปีหน้า และไม่ห่วงเรื่องเงินเฟ้อในไทย
.
===================
.
>> คุณอิสระ อรดีดลเชษฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. กรุงศรี
“ตลาดหุ้นไทยจะไปต่อหรือไม่ หลังการเปิดประเทศ”
.
- US แรงงานหายาก ต้นทุนจ้างคนสูง / มองว่าเงินเฟ้อจะค่อยชะลอตัว แต่ Demand สินค้ายังสูง และการเติมสินค้าคงคลังต่างๆ >> ไทยน่าจะได้ประโยชน์จากการส่งออกนี้
- Macro แนะนำลงหุ้น เพราะหุ้นยังให้ผลตอบแทนที่ดี (แม้จะผ่านจุดร้อนแรงไปแล้ว)
- การผลิตจะกลับมา การส่งออกจะดีขึ้น เงินเฟ้อจะค่อยๆขึ้นไป >> ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล/ตลาดจะปรับตัวขึ้น
- Cyclical / Value Stock น่าจะฟื้นตัวขึ้นมา
- กลุ่มภาคการเงิน ธนาคาร จะได้รับอานิสงส์ชัดเจน จากการจัดการมูลหนี้ที่ดีขึ้น
- กลุ่มพลังงานได้อานิสงส์ด้วย เพราะ Demand กลับมา จึงทำให้การ reinvestment ใช้เวลา มีความ mismatch อยู่
.
- มองสิ้นปีนี้ 1700 จุด เป้าปีหน้า 1780 ครึ่งปีแรก และอาจแผ่วลงมา 1750 ในช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้า
- ยังเชียร์หุ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้าแต่ละกลุ่มฟื้นไม่เท่าเทียม แนะนำยุโรป อยู่ใน supply chain เดียวกัน
- EM จะค่อยๆฟื้น และไทยจะค่อยๆไป
.
===================
.
>> คุณรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการและผู้บริหารกลุ่มวิจัย และวิเคราะห์ตลาดเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
“ทิศทางเงินบาทจะเป็นอย่างไร หลัง Fed เริ่มลด QE”
.
- บาทแข็งมีเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นและพันธบัตรกว่า 2 หมื่นล้านบาท
- USD ได้แรงหนุนช่วงสั้นจากการลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
- เงินเฟ้อ US ทะลุขอบบบนไปไกลมองว่าทะลุไปถึง 5.8%
- ขณะที่ในไทยปัจจัยบวกก็ซึมซับแล้ว และความเสี่ยงขาลงก็ยังมีอยู่
.
- ค่าเงินยูโรมีน้ำหนักมากที่สุดในตะกร้าเงิน ในช่วงที่ยกเลิก E พบว่า USD แข็งค่าขึ้นไว (Dollar Index) วิ่งขึ้นอย่างรวดเร็วและชันมาก แต่ขณะที่ QE4 (ปัจจุบัน) Dollar Index ตอนนี้สูงกว่าตอนนั้น
- ไทยขาดดุลบริการ เงินปันผลโอนออก netๆ แล้วขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ทำให้บาทอ่อนลงในปีนี้
.
- ต่างชาติซื้อสุทธิในพันธบัตรไทย แล้วเข้ามาพักเงิน แต่กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายผันผวนสูง
- บาทอ่อนค่าราวๆ 10% และอ่อนช่วงโควิดมาเรื่อยๆ แต่หลังจากนี้มองว่าจะเป็นรอบๆตาม Flow ไปแข็ง/อ่อน
- มองบาทแข็งค่าอย่างจำกัด (Q4/21-Q1/22) และบาทน่าจะกลับมาแข็งค่าตามจำนวนนักท่องเที่ยว และติดตามสถานการณ์
.
===================
.
>> คุณศิระ คล่องวิชา, CFA, FRM ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มการลงทุน บลจ. กรุงศรี
“กองทุนตราสารหนี้ไทยยังน่าลงทุนไหมท่ามกลางความกังวลเงินเฟ้อ”
.
- ตราสารหนี้ผลตอบแทนไม่ค่อยดีเท่าในอดีต
- แต่ก็ไม่ผันผวนสูงจนเกินไปเมื่อเทียบกับหุ้น โดยในปีนี้ มีความผันผวนที่มากระทบมาจากเรื่องนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลกเข้มงวดขึ้น
- ตลาดมองว่าน่าจะขึ้นดอกเบี้ยครึ่งปีหลัง 2022
.
- Supply จากพันธบัตรออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ (หลีกเลี่ยงการกู้ธนาคาร) ซึ่งออกมามาก และปรับเพิ่มเพดานหนี้ ปีนี้ 8 แสนล้านบาท ปีหน้า 1.2 ล้านล้านบาท (ทำให้ Yield ก่อนหน้านี้เด้ง)
- แต่ Yield ไทยก็ขึ้นไปได้ไม่มาก เพราะดอกเบี้ย และเงินเฟ้อก็ไม่สูง เศรษฐกิจก็ฟื้นช้ากว่าคนอื่น มองว่า BOT จะขึ้นดอกเบี้ยหลังๆเลย และขึ้นน้อยมาก
- เงินเฟ้อไทยก็ไม่ได้โดนกดดันมากเหมือนใน US มองว่าเงินเฟ้อคงไม่กลับไป 5-6% และวิ่งแถวๆ 2-3% ยาวๆ (วันนี้ ไม่ถึง 1%)
.
- แนะดูหุ้นกู้เอกชน Spread ไทยยังน่าสนใจ หรือลงกองทุนผสมที่มีหุ้นกู้เอกชนด้วย
.
===================
.
>> คุณวิน พรหมแพทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ธ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
“จัดทัพลงทุนกับพอร์ตการลงทุนแนะนำโดยกรุงศรี”
.
- Portfolio 5 แบบ
เช่น Port Growth(ระดับ4) มีหุ้น 48% REITs 7% และถ้ามาทำ Backtest จะเห็นว่า Port ที่เสี่ยงมากจะผันผวนมาก ร่วงแรง แต่ผลตอบแทนก็คุ้มค่ามากกว่า
.
- Port #RMF มี 3 Port Conservative Balance Growth
*Alternative << Principal IPROPRMF
*MMF >> KFCASH RMF
*Fixed Income >> KFAFIXRMF KFSINCRMF
*หุ้นโลก >> KFGBRANDRMF KFGGRMF
.
- Port #SSF มี 3 Port Conservative Balance Growth
*Alternative << Principal IPROPENSSF
*MMF >> KFCASHSSF
*Fixed Income >> KFAFIXSSFF
*หุ้นโลก >> KFGBRANDSSF KFGGSSF
*เอาทองคำใส่เข้ามาในพอร์ตด้วยได้นะ
.
- Investment strategy
แนะหุ้นและ REITs ที่ overweight ส่วนกลุ่มที่ให้น้ำหนักน้อย คือ ทองคำ + MMF และเพิ่มน้ำหนักในหุ้นแทน
.
ชอบหุ้น Global US Europe และ Japan
เน้นทาง DMมากกว่า EM โดยจีนไทย EM Neutral
.
====================
.
#คำถาม
.
- การท่องเที่ยวจะกลับมาเมื่อไหร่
>> ต้องใช้เวลา ต้องกักตัว และจีนก็เดินทางออกมายากมาก ประเมินว่า ใช้เวลา 3 ปี ในปี 2025
>> การท่องเที่ยวอาจจะไม่เหมือนเดิม และ Business Model อาจไม่เหมือนเดิม แต่การใช้เงินต่อทริปอาจจะสูงขึ้น และอาจจะอยู่นานขึ้น
.
- Evergrande
>> Flow ไหลกลับเข้ามาเพราะ Yield สูงมาก และหาลงทุนระดับนี้ยาก
>> มองว่าปัญหานี้จะไม่กระจายเป็นวงกว้าง และเป็นการขอความร่วมมือของแบงก์ ในการไม่หยุดปล่อยสินเชื่อ และทำให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้
.
- แนวโน้มหุ้นไทยจะกลับมา pre-covid ไหม
>> กำไรเริ่มมาแล้ว นักท่องเที่ยวต้องใช้เวลา การส่งออก การผลิต การลงทุนจะเป็นตัว Driver มองว่าซื้อขายในช่วง 1700 จุด
.
- ตราสารหนี้ + KFCORE + KFCINCOME
>> ผลตอบแทนกองตราสารหนี้ดีขึ้นแล้ว แต่คงไม่ Smooth และอาจมีกระตุกบ้าง (ที่อื่นขึ้นดอกเบี้ย) มอง Downside ตราสารหนี้ในไทยน้อย
>> KFCORE เน้นต่างประเทศ ลงผ่าน BlackRock จัดพอร์ตกองผสมให้
>> KFCINCOME เป็นกองผสมเช่นกัน แต่ KFCORE เป็นเหมือน Core Port ของนักลงทุนใช้ในการสร้าง Income ระยะยาวๆ
.
- เวียดนาม / ยุโรป vs อาเซียน
>> Principal VNEQ อิง VN30 โดย EPS Growth 2022 +25% P/E 13-15x มองว่าไม่ค่อยแพง โตดี P/E ต่ำ และ Technical เป็นขาขึ้นชัดเจน ยังมองว่า ต้องระมัดระวัง
>> เชียร์ยุโรปมากกว่าอาเซียน (แต่ไม่มองข้ามเวียดนาม) และอย่าลืมจีน น่าสนใจ
.
- ค่าเงินควร Hedge หรือไม่
>> กรณีเป็นผู้ประกอบการ หรือนักลงทุน แนะนำ Hedge ถ้าเปิดความเสี่ยงไว้หมด เพราะธุรกิจหลักไม่ใช่การค้าเงิน
>> ดังนั้นการคาดการณ์เปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ทุกชม. จึงแนะนำป้องกันความเสี่ยง เพื่อลดความผันผ

.

- ยุโรป vs สหรัฐ
>> ยุโรปน่าสนใจ มองว่ายังเป็นช่วงต้นๆ ตามรอยสหรัฐ ผลประกอบการล่าสุดยังดี และมาตรการการเงิน ยังอัดฉีดได้เรื่อยๆ จึงเป็นปัจจัยสนบสนุนค่อนข้างเยอะ
.
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก Krungsri Exclusive ครับ
#FunManager


คนเล่นหุ้น