ห้องเม่าปีกเหล็ก

IEA คาดปีหน้า สต็อกน้ำมันโลกจ่อ 'ท่วมตลาด' สูงเป็นประวัติการณ์

โดย light
เผยแพร่ :
56 views

IEA คาดปีหน้า สต็อกน้ำมันโลกจ่อ 'ท่วมตลาด' สูงเป็นประวัติการณ์

 

IEA คาดตลาดน้ำมันโลกปีหน้าจ่อสต็อกท่วม 'สูงสุดเป็นประวัติการณ์' ในปีหน้า หลายประเทศทั้งโอเปกและนอกโอเปกจ่อลุยผลิตเพิ่ม สวนทางอุปสงค์ลดลง โดยเฉพาะใน 'จีน อินเดีย บราซิล' แต่เกมอาจเปลี่ยนหากมีแซงชั่นรอบใหม่อิหร่านกับรัสเซีย อุปทานแซงหน้าอุปสงค์ไปไกล

 

สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) เปิดเผยคาดการณ์ตลาดน้ำมันโลกล่าสุดว่า ตลาดน้ำมันโลกมีแนวโน้มจะเผชิญภาวะสต็อกน้ำมัน "ล้นตลาด" สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า 2026 เนื่องจากอุปสงค์เติบโตช้าลงสวนทางกับอุปทานที่พุ่งสูงขึ้น และอาจฉุดราคาน้ำมันดิบลงอีก หลังจากที่ราคาน้ำมันโลกปรับตัวลงไปแล้วราว 12% ในปีนี้

ข้อมูลจากรายงานประจำเดือนของ IEA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นในอัตรา 2.96 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2020 ที่เกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 แต่ในทางกลับกัน "อุปสงค์" หรือความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกทั้งในปีนี้และปีหน้าจะขยายตัว "น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง" ของอัตราในปี 2023

ขณะเดียวกัน ปริมาณน้ำมันก็กำลังพุ่งสูงขึ้นเช่นกัน กลุ่มประเทศโอเปกพลัส นำโดยซาอุดีอาระเบีย ได้เร่งกระบวนการกลับมาผลิตอีกครั้งหลังจากหยุดการผลิต และ IEA ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกในปี 2026 ซึ่งนำโดยทวีปอเมริกาเล็กน้อย

ในขณะเดียวกัน "อุปทานน้ำมัน" จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก กลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) ซึ่งนำโดยซาอุดีอาระเบียได้เร่งการกลับมาผลิตน้ำมันอีกครั้งหลังจากที่กำลังการผลิตชะลอตัวไปก่อนหน้านี้ และ IEA ยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกในปี 2026 อีกเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน นำโดยกลุ่มประเทศในทวีปอเมริกา

"ความสมดุลของตลาดน้ำมันดูเหมือนจะขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการคาดการณ์อุปทานจะแซงหน้าอุปสงค์อย่างมากในช่วงปลายปีนี้และในปีหน้า” IEA ระบุ  “เห็นได้ชัดว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ตลาดเกิดความสมดุล”

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวลดลงไปแล้วประมาณ 12% ในปีนี้ โดยซื้อขายใกล้ระดับ 66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในลอนดอน เนื่องจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากทั้งกลุ่มโอเปกพลัสและกลุ่มคู่แข่ง สอดคล้องกับความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นว่า "สงครามการค้า" ของประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

การที่ราคาน้ำมันลดลงนี้ช่วยบรรเทาความกังวลให้กับผู้บริโภคได้บ้าง หลังจากเผชิญภาวะเงินเฟ้อที่ยืดเยื้อมาหลายปี ขณะเดียวกันก็ยังถือเป็น "ชัยชนะของทรัมป์" เนื่องจากเขากำลังผลักดันให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง เพื่อกดการขยายตัวของเงินเฟ้อ แม้ว่าจะเป็นภัยคุกคามทางการเงินสำหรับบริษัทและประเทศผู้ผลิตน้ำมันก็ตาม

น้ำมันโลกกำลังล้นตลาด

IEA ระบุว่าขณะนี้ ตลาดน้ำมันได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้เชื้อเพลิงที่แข็งแกร่งในช่วงฤดูร้อน แต่ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าโลกกำลังเข้าสู่ภาวะ "อุปทานล้นตลาด" แล้ว จากปริมาณน้ำมันสำรองทั่วโลกในเดือนมิ.ย. ที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 46 เดือน แต่มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อ "รัสเซีย" หรือ "อิหร่าน" อาจเปลี่ยนแปลงภาพรวมนี้ได้ 

การบริโภคน้ำมันทั่วโลกในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเพียง 680,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับ "ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2019" ท่ามกลางความต้องการที่ซบเซาใน "จีน อินเดีย และบราซิล" และจะขยายตัวที่ประมาณ 700,000 บาร์เรลต่อวัน ในปี 2026 

IEA ยังคาดการณ์ด้วยว่า ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกจะ "หยุดเติบโต" ภายในสิ้นทศวรรษนี้ เนื่องจากประเทศต่างๆ กำลังเปลี่ยนจากเชื้อเพลิงฟอสซิลมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV)

 

ที่มา. https://www.bangkokbiznews.com/world/1194130

 


light