ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดร่วง 24.30 จุด ตามต่างประเทศ, ขายทำกำไรหลังตลาดมีความเสี่ยงสูงขึ้น-ยังไร้ประเด็นบวกหนุน
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย Equity Derivative บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงค่อนข้างหนัก เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างก็ปรับตัวลง โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวลงแรงกว่า 3% ในวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางจีนได้ปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งมองว่าที่จริงเป็นการเสริมสภาพคล่องให้กับแบงก์ของจีน เพียงแต่บางคนกลัวว่าจะมีปัญหาเศรษฐกิจถึงได้ทำแบบนี้ ซึ่งก็เป็นการมองไปอีกมุม ด้านตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ต่างก็ติดลบกัน เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ที่ติดลบเช่นกัน แม้แต่ตลาดเกิดใหม่ก็เผชิญแรงขายเกือบทุกแห่ง
ทั้งนี้ ตลาดฯมองภาพรวมการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงขณะนี้มีความเสี่ยงมากขึ้น ขณะที่ไม่มีประเด็นบวกอะไรเข้ามา ตลาดฯจึงเลือกที่จะ Take Profit ก่อน ซึ่งวันนี้นักลงทุนต่างชาติก็ยังคงจะขายออกมา เนื่องจากค่าเงินบาทยังอ่อนค่า และคาดว่านักลงทุนสถาบันก็ขายออกมาด้วยในวันนี้ อย่างไรก็ดีดัชนีฯบริเวณ 1,685-1,680 จุด น่าจะได้มีโอกาสเห็นการรีบาวด์ขึ้นได้ แต่มองหุ้นที่ยังน่าลงทุนเป็นหุ้นในประเทศเป็นหลักที่สะสมได้ อย่างหุ้นกลุ่มแบงก์, กลุ่มโรงพยาบาล, กลุ่มสื่อสาร ซึ่งสามารถรอเข้าซื้อได้
แนวโน้มการลงทุนในวันนี้ (9 ต.ค.) นายธีรวุฒิ กล่วว่า ถ้าตลาดฯเปิดแล้วดัชนีฯปรับตัวลงไปทดสอบแถว 1,685 จุด ตลาดฯก็มีโอกาสรีบาวด์ได้ แต่ถ้าตลาดฯเปิดแล้วมีแรงซื้อต่อ ในช่วงบ่ายก็อาจโดนขายทำกำไรได้ และควรจะต้องรอดูทิศทางดาวโจนส์คืนนี้ด้วย พร้อมมองตลาดฯมีความผันผวนมากขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลจาก Block Trade โดยให้แนวรับ 1,685 จุด ส่วนแนวต้าน 1,705-1,720 จุด
สำนักข่าวอินโฟเควสท์