ตัวเลขมหัศจรรย์

โลกรู้จักตัวเลขมานับแต่โบราณ น่าจะก่อนที่จะมีการคิดตัวอักษรขึ้นมาด้วยซ้ำ
สังเกตุได้จากการใช้การขีดเพื่อใช้นับจำนวนสัตว์เลี้ยง หรือจำนวนคน
ซึ่งปัจุบันก็ยังคงมีการใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวันเช่น การนับเสียงโหวต เป็นต้น
ในแง่ของการลงทุนและการบริหารความเสี่ยงนั้นเราต้องอยู่กับตัวเลขตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผลตอบแทนที่ต้องการ ผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริง จำนวนเงินที่ต้องลงทุน หรือจำนวนเงินที่ต้องการเพื่อการเกษียณ เป็นต้น คราวนี้เราลองมาดูเรื่องแปลกๆของตัวเลขบางตัวที่รู้แล้วน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารพอร์ตความมั่งคั่งของเราบ้าง
ต่อไปลองเตรียมเครื่องคิดเลขไว้กดคำนวณตามนะครับทุกคน....
เลข 72 จะได้รู้ว่าเงินของเราจะเพิ่มเป็นสองเท่าเมื่อไหร่ ?
ตัวเลขแรกที่อยากจะกล่าวถึงคือเลข 72
ซึ่งมันเป็นตัวเลขที่ช่วยให้เรารู้ว่า
ถ้าเราลงทุนวันนี้ด้วยเงินจำนวนหนึ่งเช่น 1 ล้านบาท ด้วยผลตอบแทนหนึ่ง
เช่น ร้อยละ 5 เงินของเราจะโตเป็น 2 เท่าหรือร้อยเปอร์เซนต์
ซึ่งในกรณีนี้คือ
จาก 1 ล้านบาทโตเป็น 2 ล้านบาทในเวลากี่ปี วิธีการก็คือ เอาเลข 72 ตั้ง
หารด้วยผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับซึ่งในที่นี้คือ 5 เปอร์เซนต์
จะได้คำตอบคือ 72/5 = 14.4 ปี
นั่นคือถ้าเรานำเงินไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนที่ร้อยละ 5 แล้วทิ้งเอาไว้
อีก 14.4 ปีต่อมาเราจะมีเงินเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า
อีกตัวอย่างหนึ่งถ้าเรานำเงินไปฝากธนาคารเพื่อกินดอกเบี้ย สมมติเช่น
ดอกเบี้ยร้อยละ 1 เงินของเราจะโตขึ้นเป็น 2 เท่าโดยใช้เวลาเท่ากับ 72/1 = 72 ปี ซึ่งนานกว่าตัวอย่างแรกถึง 5 เท่า
แต่ถ้าเรารับความเสี่ยงได้มากหน่อย
โดยนำเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนร้อยละ 10 จะพบว่า
เราใช้เวลาเพียง 7.2 ปีเพื่อให้เงินเราโตขึ้นสองเท่าโดยใช้สูตรวิธีคิดเดียวกัน (72/10 = 7.2)
เห็นไม่ครับว่าเลข 72 มีความประหลาดมหัศจรรย์ และช่วยให้เราคาดการณ์
การลงทุนแบบง่ายๆได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องคำนวณให้วุ่นวาย
เลข 70 รู้แล้วจะหนาว
เลขต่อมาที่อยากจะพูดถึงคือเลข 70 ซึ่งตัวเลขนี้มีประโยชน์ต่อเราในการช่วยทำให้เรารู้ว่ามูลค่าของเงินที่เรามีจะมีมูลค่าหายไปเท่าไหร่ (เงินไม่ได้หายนะครับ แต่มูลค่าของเงินลดลง) เนื่องจากเงินเฟ้อที่ทำให้มูลค่าสินค้าต่างๆสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลทำให้เราต้องใช้เงินมากขึ้นเพื่อซื้อสินค้าจำนวนเท่าเดิม โดยปกติเงินเฟ้อจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 3
ซึ่งวิธีก็คือนำค่าเงินเฟ้อมาหารด้วย 70
ก็จะได้จำนวนปีที่มูลค่าของเงินของเราจะลดลงครึ่งหนึ่ง ตัวอย่างเช่นในกรณีที่เงินเฟ้อมีค่าเท่ากับร้อยละ 3 ต่อปี เงินของเราจะมีมูลค่าลดลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งในอีก 23.3 ปี นั่นหมายความว่าถ้าตอนนี้เราอายุ 37 เมื่อเราเกษียณตอนอายุ 60ปี ถ้าตอนนี้เราคำนวณแล้วพบว่าเราต้องใช้เงินต่อเดือนเท่ากับ 1 หมื่นบาทนั่นแปลว่าเมื่อตอนเกษียณเราควรเตรียมเงินไว้ใช้จ่ายเดือนละ 2 หมื่นบาท
จริงๆแล้วตัวเลขที่ควรนำมาใช้เพื่อให้สามารถคำนวณค่าได้ใกล้เคียงมากขึ้นคือเลข 69.3 แต่เนื่องจากคงไม่มีใครสามารถเอา 69.3 มาหารด้วยผลตอบแทนและเงินเฟ้อและคำนวณในใจได้ จึงใช้เลขที่ใกล้เคียงคือ 72 ซึ่งมีตัวที่หารได้ลงตัวมากมาย เช่น 2 3 4 6 12 ... ในขณะที่ 70 สามารถหารได้ด้วย 2 5 7... ในขณะที่ 69 หารลงตัวได้แค่ 3 และ 23 จึงเป็นที่มาของตัวเลข 72 และ70 และอีกเหตุผลหนึ่งคือ กฎของ 72 จะใช้ได้ดีในช่วงผลตอบแทนประมาณ 6%-11% ซึ่งเป็นช่วงผลตอบแทนโดยทั่วไปของสินทรัพย์เสี่ยงโดยปกติ ในขณะที่ กฎของ 70 จะใช้ได้ดีในช่วงผลตอบแทนประมาณ 2%-4% ซึ่งเป็นช่วงของพันธบัตรและเงินเฟ้อ