Jeff Bezos เปิดอาณาจักร Amazon
Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้นใหญ่ Amazon เศรษฐีรวยที่สุดของโลก เสียบตำแหน่งแทน Bill Gates แล้ว ด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 90.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าเจ้าพ่อไมโครซอฟท์ 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เเส้นทางของ Jeff Bezos ก่อนตั้งอาณาจักรอีคอมเมิร์ซใหญ่ที่สุดของโลก และก้าวขึ้นเป็นบุคคลร่ำรวยที่สุดของโลกในวันนี้ เขาจบการศึกษาจาก Princeton University สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า และวิทยาการคอมพิวเตอร์ เคยทำงานในตลาดหุ้น Wall Street ก่อนที่จะมาก่อตั้งธุรกิจ “Amazon” เมื่อปี 1994 โดยออฟฟิศแรกเริ่มอยู่ในโรงรถของเขาเอง
ชื่อของ Jeff Bezos ปรากฏเป็นครั้งแรกในผลการจัดอันดับมหาเศรษฐีรวยที่สุดในโลกของ “Forbes 400” เมื่อปี 1998 โดยเวลานั้นเขามีมูลค่าทรัพย์สิน 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ผลสำรวจ “Forbes The World’s Billionaires” เมื่อเดือนมีนาคม 2017 ที่ผ่านมา เจ้าพ่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของโลก มีมูลค่าทรัพย์สิน 72.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 2.5 ล้านล้านบาท รองจาก Bill Gates และ Warren Buffett
Amazon จากค้าปลีกออนไลน์ สู่ธุรกิจนำเที่ยวอวกาศ
เมื่อเอ่ยถึงชื่อ Jeff Bezos คนส่วนใหญ่จะนึกว่าเขาทำแต่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้ว ไม่ได้มีเพียงธุรกิจอีคอมเมิร์ซเท่านั้น แต่ยังเป็นเจ้าของธุรกิจเทคโนโลยี ธุรกิจสื่อ ธุรกิจหุ่นยนต์ ทั้งยังเป็นนักลงทุนตัวยง ที่เข้าไปลงทุนในธุรกิจน้อยใหญ่มากมาย
Visual Capitalist ได้ทำอินโฟกราฟิกเจาะลึกอาณาจักรธุรกิจเจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซระดับโลก ทั้งฝั่งที่อยู่ภายใต้ชายคากลุ่ม Amazon และฝั่งที่อยู่ภายใต้การลงทุนของ Bezos Expeditions อีกทั้งยังมีธุรกิจที่ Jeff Bezos ลงทุนในนามส่วนตัว
Amazon เน้นการลงทุน และซื้อกิจการที่มีความเชื่อมโยงกับ Core Business ของบริษัท Amazon ซื้อกิจการค้าปลีกอาหารออแกนิค และผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ Whole Foods ด้วยมูลค่า 13.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ Amazon เคยซื้อกิจการธุรกิจต่างๆ เข้ามา ในปี 2009 เข้าซื้อกิจการเว็บไซต์ขายรองเท้า Zappos.com ในปี 2012 ซื้อกิจการผลิตหุ่นยนต์ Kiva Systems โดยปัจจุบันเปลี่ยนชื่อมาเป็น Amazon Robotics นอกจากนี้ปี 2014 ซื้อกิจการ Twitch.tv เป็นธุรกิจ Live Streaming Video และเมื่อไม่นานนี้ได้จับมือกับ Nike เพื่อวางจำหน่ายสินค้าบนเว็บไซต์ Amazon
Bezos Expeditions เป็นบริษัท Venture Capital ที่นำเงินไปลงทุน และถือหุ้นในธุรกิจหลากหลายประเภท ทั้งบริษัทขนาดใหญ่ และสตาร์ทอัพด้านต่างๆ เช่น ร่วมลงทุนใน Twitter, Rethink Robotics, Business Insider, MakerBot และ Stack Overflow ขณะเดียวกันเขายังเป็นผู้ก่อตั้ง Blue Origin บริษัทนำเที่ยวไปอวกาศ โดยคิดค้นเทคโนโลยีด้านอวกาศ เพื่อพยายามลดต้นทุนสำหรับการท่องเที่ยวสู่อวกาศ
เจ้าพ่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซของโลกยังเข้าไปลงทุนในนามส่วนตัวอีกหลายบริษัท ที่เอ่ยชื่อไปทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น Google ที่ลงทุนส่วนตัวไปเมื่อปี 1998, “Airbnb” และ Uber เมื่อปี 2011 และ Business Insider
นอกจากการค้า-การลงทุนธุรกิจแล้ว ยังได้จัดตั้ง Bezos Family Foundation มูลนิธิที่บริหารโดย “Jackie และ Mike Bezos” พ่อแม่ของ Jeff เพื่อให้การสนับสนุนและลงทุนงานวิจัยด้านการศึกษาของเยาวชน เพื่อยกระดับการศึกษา และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับเยาวชน
สิ่งที่เราได้ศึกษาจาก Jeff Bezos ไม่ใช่เพียงความสำเร็จในการประกอบธุรกิจเท่านั้น รวมถึงการกระจายความเสี่ยงไปในธุรกิจใหม่ๆ และสิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้คือ ไม่มีเศรษฐีคนไหน อยู่เฉยๆ ใช้เงินไปเรื่อยๆ เมื่อคิดว่าตนเองนั้นรำ่รวยประสบความสำเร็จ ยังคงท้าทายสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอและตอบแทนสู่สังคมเมื่อมีโอกาส
- Yoo -
อ้างอิง : brandbuffet.co.th