ห้องเม่าปีกเหล็ก

“จีน-เวียดนาม” วิบากกรรม ‘ระยะสั้น’ ยังไม่หมด...

โดย Khal
เผยแพร่ :
168 views

“จีน-เวียดนาม” วิบากกรรม ‘ระยะสั้น’ ยังไม่หมด...

แนะลงทุนสไตล์ “Contrarian”- ทยอยสะสม “ซื้ออนาคต” !!!

.

Fun of Funds: ปีนี้บรรยากาศการลงทุนแย่จนไม่มีใครสนใจพื้นฐานสักเท่าไร จึงไม่น่าแปลกใจที่ 2 ดาวเด่นอย่าง “หุ้นจีน” และ “หุ้นเวียดนาม” เองก็ยังดิ่งลงแบบไม่สนใจพื้นฐานเช่นเดียวกัน

.

ตั้งแต่ตั้งปีมาถึงปัจจุบัน “หุ้นจีน” ปรับตัวลงมาแล้ว -28.3% ในขณะที่ “หุ้นเวียดนาม” -31.4% (ที่มา: Bloomberg, ณ วันที่ 28 ต.ค. 22)

.

แต่นั่นดูจะไม่ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนไทยหายไปแต่ประการใด เพราะกลุ่ม “กองหุ้นจีน” และ “กองหุ้นเวียดนาม” ยังครอง ‘อันดับ1 และ 2’ ที่เงินไหลเข้าสุทธิมากสุดในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ ด้วยเม็ดเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท และ 1.4 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ (ที่มา: www.morningstarthailand.com)

.

เป็นการลงทุนแบบมอง “สวนตลาด” (Contrarian) อย่างแท้จริง สำหรับ 2 ตลาดนี้ !!!

.

เรื่องราวจะเป็นเช่นไรนั้น ตามทีมงาน ‘โต๊ะกองทุน Wealthythai’ ไปอัพเดทมุมมองการลงทุนที่น่าสนใจพร้อมกันได้เลย

.

“หุ้นจีน” ร่วงแรงระยะสั้น...แนะโอกาส “ทยอยสะสม” เหตุพื้นฐานระยะยาวยังแกร่ง

.

“หุ้นจีน” เองเหมือนจะเจอรับน้องหลัง “สี จิ้น ผิง” ได้เป็นประธานนาธิบดีสมัยที่3 หวั่นหลายนโยบายฉุดเศรษฐกิจสะดุด เช่น Zero-Covid เป็นต้น แต่ถ้ามองกันยาวๆ แล้วน่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจจีนมากกว่า

.

โดย “ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.จิตตะ เวลธ์ มองว่า ในช่วงที่ “ตลาดหุ้นจีน” ปรับตัวลงแรงในเวลานี้ ถือเป็นจังหวะเหมาะในการ “สะสมหุ้นจีน” เนื่องจากเป็นการปรับลด จากปัจจัยระยะสั้นมากกว่า แต่หากพิจารณาปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจในระยะยาว จะพบว่าเศรษฐกิจจีนยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะนโยบายในระยะ 5 ข้างหน้าที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เอ่ยใน สุนทรพจน์ที่กล่าวในงานประชุมผู้แทนระดับชาติแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป จะพบว่ามีการเน้นย้ำคำว่า ‘เทคโนโลยี’ ถี่มากขึ้นกว่าในอดีตหลายเท่าตัว

.

“สะท้อนความพยายามผลักดันให้เศรษฐกิจจีนผงาดขึ้นมาเป็น ‘เบอร์หนึ่งด้านศรษฐกิจ’ เทียบเคียงกับสหรัฐในระยะ 5 ปี ข้างหน้าย่อมต้องมีอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจีนขึ้นเป็นจ่าฝูงหนุนให้เศรษฐกิจจีนขึ้นไปท้าชิงเบอร์หนึ่งของโลกได้”

.

ชู “หุ้นเทคฯ จีน” เด่นสุดกลุ่มหุ้นจีน...ปัจจัยหลักผลักดันศก.โตในอนาคต-เป้าหมายนักลงทุนทั่วโลก

.

แม้ในปี21 ที่ผ่านมา ‘หุ้นเทคโนโลยีจีน’ จะได้รับแรงกดดันจากนโยบาย Common Prosperity แต่ในปีนี้เองทางการเริ่มผ่อนคลายแรงกดดันลงอย่างชัดเจน จึงจะเห็นได้ว่าหุ้นเทคโนโลยีจีนได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก”

.

ล่าสุดในเดือนพฤษภาคม สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตลาดกว่า 85% รองรับเทคโนโลยี 5G ปัจจุบัน “จีน” เป็นประเทศที่มีโครงข่ายสัญญาณ 5G มากที่สุดในโลกอยู่ที่ 2 ล้านเสาสัญญาณ

.

“จีนมีความพร้อมด้านเงินทุน และประชากร สนับสนุนให้บริษัทเทคโนโลยีจีนเติบโต รุดหน้าอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่ปี โดยเฉพาะ ‘สตาร์ตอัพ’ (Startup) จากจีน ซึ่งส่วนใหญ่จะระดมทุนผ่าน ‘Private Equity’ และ ‘Venture Capital’ (PEVC) ซึ่งจีนเป็นประเทศที่มี PEVC ลงทุนในสตาร์ทอัพมากที่สุดเป็น ‘อันดับ 2 ของโลก’ ปี 2021 ด้วยมูลค่าการลงทุน 131 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และอยู่ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์มีมูลค่าสูงถึง 8.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ ‘จีนมีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น’ (มูลค่าตลาดมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) อยู่ที่ 174 บริษัท มากที่สุดเป็น ‘อันดับ2’ ของโลกรองจากสหรัฐอีกด้วย นี่จึงทำให้ ‘หุ้นเทคโนโลยีจีน’ ยังคงมีความน่าสนใจลงทุนในระยะยาว”

.

เปิด “3 ปัจจัยเสี่ยง” กดดัน “หุ้นเวียดนาม” ระยะสั้น... “มองบวก” ระยะกลาง-ยาว ราคาน่าสนใจ -แนะ “ทยอยสะสม” หวังผลระยะยาว 3-5 ปี

.

เช่นเดียวกับ “หุ้นเวียดนาม” ที่ราคาดิ่งลงไม่สนใจพื้นฐานที่แข็งแกร่งในระยะยาวเช่นกัน โดย “3 สาเหตุ” หลักที่กดตลาดให้ดำดิ่ง ได้แก่ 1. ค่าเงินเวียดนามดองอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง 2. ธนาคารแห่งชาติเวียดนามปรับขึ้นดอกเบี้ยขึ้นต่อเนื่องอีก 1% เพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้น 3. การสอบสวน

.

จากภาครัฐในภาคอสังหาริมทรัพย์และธนาคารพาณิชย์จากกรณีฉ้อโกง ส่งผลให้นักลงทุนในตลาดเกิดความกังวลจนความเชื่อมั่นลดลง

.

โดย “ธิดาศิริ ศรีสมิต” Chief Investment Officer บลจ.กสิกรไทย มองว่า “ตลาดหุ้นเวียดนาม” ยังคงมีความน่าสนใจจากปัจจัยภายในประเทศทั้งในแง่เศรษฐกิจที่ GDP ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง กำไรบริษัทจดทะเบียนยังเติบโตได้ในระดับสูงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค และจำนวนประชากรวัยแรงงานมีสัดส่วนสูงที่สุดในอาเซียน ซึ่งเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว อย่างไรก็ตามในระยะสั้นยังคงมีปัจจัยกดดันตลาดอยู่ แต่การปรับตัวลงมากค่อนข้างมากของตลาดหุ้นเวียดนามได้สะท้อนระดับความกังวลไปแล้วส่วนหนึ่ง และปัจจุบัน Valuation ก็อยู่ในระดับที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาว

.

ล่าสุด “ค่าเงินดอง” ยังอ่อนค่าต่อเนื่อง หลัง “ธนาคารแห่งชาติเวียดนาม” (State Bank of Vietnam – SBV) ได้ปรับกรอบการเคลื่อนไหว VND/USD กว้างขึ้นจาก +3% เป็น +5% ส่งผลให้ค่าเงินดองอ่อนลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

.

“ใน ‘ระยะสั้น’ มีมุมมองระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากใน ‘ตลาดหุ้นเวียดนาม’ มีสัดส่วนนักลงทุนรายย่อยจำนวนมาก และนักลงทุนกลุ่มนี้ข้างให้ความสำคัญกับข่าวเชิงลบทั้งภายในและภายนอกประเทศเป็นหลัก จึงส่งผลให้การลงทุนระยะสั้นมีความผันผวนสูง ใน ‘ระยะกลางถึงยาว’ ยังคงมุมมองบวกต่อการลงทุนในหุ้นเวียดนาม เพราะหากดูจากปัจจัยภายในประเทศเศรษฐกิจเวียดนามยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง และกำไรของบริษัทจดทะเบียนยังเติบโตได้ในระดับสูง รวมถึงการมีจำนวนประชากรวัยแรงงานมีสัดส่วนสูงที่สุดในอาเซียน ซึ่งเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว สำหรับผู้ที่สนใจหุ้นเวียดนาม ไม่แนะนำให้จับจังหวะการลงทุน แต่ควรมุ่งไปที่การกระจายการลงทุนจะดีกว่า ซึ่งตอนนี้ราคาหุ้นก็ย่อตัวลงไปมาก ถือเป็นโอกาสดีในการ ‘ทยอยสะสม’ แนะนำให้ลงทุนยาว 3-5 ปี”

.

ใครที่มี “หุ้นจีน” และ “หุ้นเวียดนาม” ติดพอร์ตไว้แล้วเจ็บหนัก จังหวะนี้ไม่ใช่จังหวะในการขาย คนบลจ.ต่างแนะนำให้คนที่มี “อดทนถือกันต่อไป” ปัจจุบันในแง่มูลค่าของทั้ง 2 ตลาดก็ถือว่าลงมาจน “ถูกมากแล้ว” มองไประยะยาว เพราะมองไปในปีหน้าเมื่อเหตุการณ์ต่างๆ ชัดเจนขึ้นไม่ว่าจะทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ หรือสงครามยูเครน-รัสเซีย ก็น่าจะทำให้ตลาดหันกลับมามองกันที่ “พื้นฐาน” มากขึ้น ส่วนใครที่ยังไม่มีก็ “ไม่ต้องรีบ” อาจกระจายความเสี่ยงทยอยสะสม หรือรอให้ตลาดกลับทิศชัดเจนแล้วค่อยเข้าก็ได้เช่นเดียวกัน

 

 


Khal