ห้องเม่าปีกเหล็ก

คัดสุดยอด 6 หุ้น ในดัชนี SET100

โดย dave
เผยแพร่ :
138 views

คัดสุดยอด 6 หุ้น ในดัชนี SET100

ค่า P/E ต่ำ- แนวโน้มกำไรโตต่อเนื่อง

.

ตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาได้มีการปรับตัวลงมาในระดับหนึ่ง ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นมายืนที่ระดับ 1,500 จุด แต่หากเราโฟกัสที่หุ้นรายตัวนั้น ก็จะพบว่ายังมีบางหุ้นบางบริษัท ที่ราคาหุ้นยังไม่ได้ฟื้นตัวขึ้นมาตามตลาด จนทำให้ระดับของ P/E ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างถูก

.

ในวันนี้ทาง Wealthy Thai ก็ได้ทำการรวบรวม 6 หุ้น ในดัชนี SET100 ที่ระดับ P/E ค่อนข้างต่ำและถูกกว่าอุตสาหกรรม รวมไปถึงยังมีแนวโน้มการเติบโตของกำไรสุทธิในปี 2566 ผ่านมุมมองหรือการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญกันในครั้งนี้

.

โดยเริ่มกันที่ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP ราคาหุ้นในปัจจุบันอยู่ที่ 11.60 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากต้นปี ขณะที่ระดับ P/E อยู่ที่เพียง 6.49 เท่า ซึ่งต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่อยู่ในระดับ 14.83 เท่า (อ้างอิงจากข้อมูล ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2566)

.

ด้านบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ได้ประมาณการกำไรปี 2566 ที่ 6.1 พันล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 3% และเป็นการทำสถิติใหม่สูงสุดต่อเนื่องเป็นปีที่สี่ต่อกัน โดยแนวโน้มกำไรสุทธิทยอยดีขึ้นต่อเนื่องรายไตรมาส เริ่มตั้งแต่ในไตรมาส 3/66 - 4/66

.

ได้ให้คำแนะนำ ซื้อ กำหนดราคาเป้าหมายที่ 15 บาท โดย AP เป็นหนึ่งในหุ้น top pick ด้วยจุดเด่นจากแผนธุรกิจปี 2566 แบบเชิงรุกที่ผลักดันให้เป็นสถิติใหม่สูงสุดทั้งยอดขาย,การโอนและกำไรสุทธิได้ ในขณะที่มีแผนการเติบโตในระยะ 1-2 ปีข้างหน้าที่แข็งแกร่งและชัดเจนกว่ากลุ่ม ทำให้คาดรักษาอันดับหนึ่งด้านมาร์เก็ตแชร์ได้ต่อเนื่อง

.

ถัดมาเป็น บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ซึ่งราคาหุ้นในปัจจุบันอยู่ที่ 10.50 บาท ปรับตัวลดลง 13.22% จากต้นปี ขณะที่ระดับ P/E อยู่ที่ 6.72 เท่า ซึ่งต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่อยู่ในระดับ 14.83 เท่า (อ้างอิงจากข้อมูล ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2566)

.

สำหรับบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประมาณการกำไรปี 2566 ที่ 3.9 พันล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 10% โดยทำสถิติใหม่สูงสุดต่อเนื่อง ตามแนวโน้มกำไรในไตรมาส 2/66 - 4/66 ที่จะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ตามการรับรู้ยอดโอนคอนโดมิเนียนและแนวราบ รวมถึงมีการรับรู้กำไรจากการขายโครงการ "พาร์ค ออริจิ้น"

.

ทั้งนี้ จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 15 บาท เนื่องจาก ยอดขายไตรมาส 2/66 และปี 2566 จะยังทำได้ดีและมีโอกาสมากกว่าคาด, ขณะที่กำไรไตรมาส 2/66 – 4/66 จะกลับมาดีขึ้นต่อเนื่องตามยอดโอนที่สูงขึ้นและจะมียอดขายก่อนใหญ่ที่ช่วยหนุน และมูลค่าหุ้นยังคงน่าสนใจ

.

ต่อมาเป็น ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ที่ในปัจจุบันระดับราคาหุ้นอยู่ที่ 20.30 บาท ปรับตัวขึ้นจากต้นปี 14.69% และมีระดับ P/E อยู่ที่ 8.11 เท่า ซึ่งต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่อยู่ในระดับ 8.99 เท่า (อ้างอิงจากข้อมูล ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2566)

.

โดยบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้ประมาณการกำไรปี 2566 ที่ 3.88 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 14% ตามการเติบโตของส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) จากการปล่อยสินเชื่อภาครัฐลดลงและได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น

.

ทั้งนี้ ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 21 บาท ซึ่งราคาหุ้นยังมีอัพไซด์จากแนวโน้มรายได้ค่าธรรมเนียมที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นได้ดีจากแอปเป๋าตังที่กำลังต่อยอดในการขายหลายๆผลิตภัณฑ์ผ่านแอฟ และสามารถนำข้อมูลมา cross-sellingเพิ่มเติมได้อีกในอนาคต แต่อย่างไรก็ดียังมีความเสี่ยงจากแนวโน้มการตั้งสำรองและค่าใช้จ่ายทางด้าน IT ไม่เป็นไปตามคาด

.

ถัดมาเป็น บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH โดยในปัจจุบันระดับราคาหุ้นอยู่ที่ 8.45 บาท ปรับตัวลดลงจากต้นปี 14.65% ส่วนระดับของ P/E อยู่ที่ 13.05 เท่า ซึ่งต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่อยู่ในระดับ 14.83 เท่า (อ้างอิงจากข้อมูล ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2566)

.

ด้านบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ประมาณการกำไรปี 2566 ที่ 8.88 พันล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 7% โดยในช่วงครึ่งปีหลังปี 2566 บริษัทมีแผนการขายสินทรัพย์ในกลุ่มรายได้ประจำ(recurring income) ซึ่งเป็นพอร์ตโรงแรมในไทย 2 แห่งเข้ามา ซึ่งคาดรับรู้เป็นกำไรพิเศษ

.

ทั้งนี้ แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายที่ 10.80 บาท เนื่องจาก LH ยังมีจุดแข็งของอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงในปี 2566 ที่ 6.0-7.0% บนความผันผวนที่ต่ำกว่าบริษัทอื่น เนื่องจากคาดกำไรสุทธิ 35-40% มาจากส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วมอีกทั้งยังมีโอกาสอัพไซด์ของปันผลจ่ายจากการขายสินทรัพย์เข้ากองรีท

.

ต่อมาบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC ซึ่งราคาหุ้นในปัจจุบันอยู่ที่ 328 บาท ปรับตัวลดลงจากต้นปี 4.09% ขณะที่ระดับ P/E อยู่ที่ 13.54 เท่า ซึ่งต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่อยู่ในระดับ 13.69 เท่า (อ้างอิงจากข้อมูล ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2566)

.

โดยบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ประมาณกำไรปี 2566 ที่ 2.41 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 13% ตามการฟื้นตัวของทุกธุรกิจในครึ่งปีหลังปี 2566 ขณะที่ต้นทุนถ่านหินลดลงและปริมาณขายในภูมิภาคฟื้นตัวตามการเปิดประเทศของจีน

.

ทั้งนี้ จึงให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 380 บาท เนื่องจากมองว่าในระยะสั้นมีปัจจัยบวกหนุนจาก core operation ที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และในช่วงครึ่งปีหลังปี 2566 มีปัจจัยบวกการฟื้นตัวของทุกธุรกิจหนุนต่อซีเมนต์ต้นทุนลดลงหนุนอัตรากำไร, ปิโตรเคมีซัพพลายใหม่เข้ามามาก, บรรจุภัณฑ์ ปริมาณขายฟื้นต่อเนื่องและต้นทุนพลังงานลดลงหนุนอัตรากำไร

.

สุดท้ายบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ที่ราคาหุ้นในปัจจุบันอยู่ที่ 47.75 บาท ปรับตัวลดลงจากต้นปี 2.05% ขณะที่ระดับ P/E อยู่ที่ 14.13 เท่า ซึ่งต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่อยู่ในระดับ 17.07 เท่า (อ้างอิงจากข้อมูล ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2566)

.

ด้านบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ประมาณการกำไรปี 2566 ที่ 4.9 พันล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 10% และเป็นสถิติใหม่ ซึ่งหนุนจากการเติบโตของสินเชื่อราว 86% จากปีก่อหน้า โดยกลบผลกระทบของคาดการณ์อัตราการตั้งสำรองในปี 2566 ที่ 1.8% และ NIM ที่ลดลง

.

ทั้งนี้ จึงให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 55 บาท เนื่องจากราคาหุ้นที่ผ่านมาได้มีการปรับตัวลดลงจากความกังวลของตลาดเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ ซึ่งเรามองประเด็นดังกล่าวได้สะท้อนในราคาหุ้นแล้ว และมูลค่าหุ้นของ SAWAD อยู่ที่ระดับราคาที่ต่ำสุดในประวัติศาสตร์จึงเป็นจุดที่น่าสนใจ

 

 


dave