ห้องเม่าปีกเหล็ก

CHAO เร่งเครื่องเติบโต

โดย ร้อยลี้
เผยแพร่ :
78 views

CHAO เร่งเครื่องเติบโต

ตั้งเป้าปี 70 รายได้แตะ 2.2 พันลบ.

รุกขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ

พร้อมดันแบรนด์ “เจ้าสัว” สู่เวทีโลก

.

CHAO เดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้ารายได้แตะ 2,200 ล้านบาท ภายในปี 2570 ผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก เสริมแกร่งการตลาด พัฒนานวัตกรรม ขยายช่องทางจัดจำหน่าย และรุกตลาดสากล คาดสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเพิ่มเป็น 35% ในปี 2571 พร้อมผลักดันแบรนด์ “เจ้าสัว” สู่ขนมขบเคี้ยวไทยระดับโลก

 

นางสาวณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยวางเป้าหมายภายในปี 2568-2570 รายได้จะแตะระดับ 2,200 ล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 12% ต่อปี และรักษาการเป็นผู้นำในตลาดขนมขบเคี้ยวไทยรูปแบบใหม่ (Modern Thai Snack) และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์ (Meat Snack)

.

 

 โดยแผนการเติบโตดังกล่าวบริษัทจะดำเนินธุรกิจผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่

 

1.ความเป็นเลิศด้านการตลาด (Marketing Excellence) บริษัทฯ ตั้งเป้าสร้างการรับรู้แบรนด์ให้เป็นอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค ด้วยการปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัย พร้อมทำแคมเปญการตลาดผ่านช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ

.

2. นวัตกรรมและความหลากหลาย (Product Innovation & Diversification) บริษัทมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ (NPDs) ไม่ต่ำกว่า 15-20 SKUs ต่อเนื่องตลอดทั้งปี และมีแผนขยายไปสู่ตลาดขนมเพื่อสุขภาพ เพื่อตอบโจทย์กระแสรักสุขภาพที่กำลังมาแรง นอกจากนี้ บริษัทกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าสู่หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง

.

3. เสริมความแข็งแกร่งในการจัดจำหน่าย (Distribution Channel Reinforcement) บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาช่องทางค้าปลีกทั้งแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) และค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ควบคู่ไปกับการเสริมความแข็งแกร่งให้กับช่องทางออนไลน์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงการขยายไปยังช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จาก Modern Trade ราว 40% รองลงมาเป็น Traditional Trade ที่ 24% และออนไลน์ 8%

.

“บริษัทยังมีโอกาสเติบโตจากช่องทาง Traditional Trade อีกมาก ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของเจ้าสัวสามารถเข้าถึงร้านค้าเหล่านี้ได้เพียง 30,000 ร้านค้า จากจำนวน 300,000 ร้านค้าทั่วประเทศ ในขณะที่ออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางมาแรง สัดส่วนรายได้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 8% จากช่วง 3 ปีก่อนอยู่ที่ 2-3% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง” นางสาวณภัทร กล่าว

.

สำหรับตลาดต่างประเทศ บริษัทยังเดินหน้าเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับกลุ่มลูกค้าเดิม ควบคู่ไปกับการขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ ในประเทศสหรัฐฯ และแคนาดา โดยบริษัทได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) ขึ้นใหม่ เพื่อดูแลการขายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาโดยเฉพาะ ซึ่งกลยุทธ์หลักคือการนำผลิตภัณฑ์แบรนด์ตนเองเข้าสู่ซูเปอร์มาร์เก็ตเอเชีย ก่อนที่จะขยายไปยังช่องทางอื่นๆ พร้อมทั้งออกงานแสดงสินค้า (Fair) ต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้และขยายฐานลูกค้า

.

รวมถึงประเทศจีนที่บริษัทจะเน้นเพิ่มจำนวนลูกค้าทั้งในกลุ่มผู้จัดจำหน่าย (Distributor) และผู้ค้าปลีก (Retailer) ควบคู่ไปกับการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ประเทศในภูมิภาคเอเชียซึ่งบริษัทได้เริ่มขยายตลาดเพิ่มเติมในปี 2567 ที่ผ่านมา ในปี 2568 จะเน้นสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง (Build Fundamental) และกระจายสินค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง

.

4. การขยายตลาดสู่ระดับสากล (International Market Expansion) ในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าหมายในการขยายสู่กลุ่มประเทศใหม่เพิ่มเติม 5-10 ประเทศ โดยมุ่งเน้นกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพเติบโตในภูมิภาคเอเชีย และยุโรป ผ่านการออกงานแสดงสินค้า พร้อมแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง

.

ทั้งนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการวางแผนในการเข้าสู่ตลาดใหม่อย่างมีกลยุทธ์และรอบคอบ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น และตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าอย่างครอบคลุม นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ผ่านการจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การปรับปรุงกระบวนการอัตโนมัติ การเพิ่มแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างอัตรากำไรที่ดีอย่างต่อเนื่อง

.

จากแผนขยายตลาดต่างประเทศส่งผลให้บริษัทคาดการณ์ว่าในปี 2571 สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 35% จาก 25% ในปี 2567 ในขณะที่สัดส่วนรายได้ในประเทสไทย จะลดลงมาอยู่ที่ 65% จาก 75% ในปี 2567 ช่วยผลักดันให้แบรนด์ “เจ้าสัว”กลายเป็นแบรนด์ขนมขบเคี้ยวไทยชั้นนำระดับโลก

.

ด้านนายสิริณัฏฐ์ ชญาน์นันท์ กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า บริษัทประเมินภาพรวมตลาดขนมขบเคี้ยวไทยระหว่างปี 2567-2570 คาดว่าจะเติบโตที่เฉลี่ย 6.5% ต่อปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มขยายตัว โดยการใช้จ่ายภาครัฐยังเป็นแรงส่งสำคัญของเศรษฐกิจในระยะต่อไป สำหรับภาคเอกชนมีแรงส่งต่อเนื่องจากภาคธุรกิจท่องเที่ยว รวมถึงอุปสงค์ในประเทศที่มีแรงสนับสนุนหลักจากการฟื้นตัวของรายได้

.

อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ที่เจ้าสัวดำเนินธุรกิจอยู่ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดี โดยระหว่างปี 2567-2570 คาดว่าจะยังมีอัตราการเติบโตเป็นเลขสองหลัก สำหรับตลาดข้าวตังคาดการณ์ว่าจะเติบโตเฉลี่ย 14.4% ซึ่งเจ้าสัวมีส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับหนึ่งที่ 79% คาดว่าในปี 2568 จะมีมูลค่าตลาดรวมที่ 1,635 ล้านบาท

.

ขณะที่ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์คาดว่าจะเติบโตที่ CAGR 13.9% โดยเจ้าสัวครองส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับหนึ่งที่ 62% และคาดว่าในปี 2568 จะมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 732 ล้านบาท สะท้อนความแข็งแกร่งว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ของเจ้าสัวมีความแตกต่างและโดดเด่น มีศักยภาพเติบโตได้ดีกว่าตลาดขนมขบเคี้ยวโดยรวม

 

ทีมา….  WealthyThai

 


ร้อยลี้