|
ดี.เจ. โกห์ ประธานซัมซุงโมบาย |
|
 |
การเปิดเผยผลสอบสวนปัญหาในสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด 'โน้ต 7' (Galaxy Note 7) ที่ทำให้ซัมซุง ต้องเรียกคืนและหยุดจำหน่ายทั่วโลกตั้งแต่ปีที่แล้วนั้นถูกจวกยับว่าไม่ตอบคำถามคาใจของนักวิเคราะห์ทั่วโลก แถมยังเป็นการแถลงที่เปิดเผย 'เฉพาะในส่วนที่ซัมซุงต้องการ' ท่ามกลางตอนจบที่ซัมซุงพยายามสร้างให้แฮปปี้เอนดิ้งสุดขีด จากตัวเลขผลประกอบการที่ไม่ได้รับผลกระทบใด เหตุที่ทำให้ซัมซุงถูกมองเช่นนี้ เพราะการแถลงของซัมซุงไม่ได้ไขข้อข้องใจว่า เจ้าพ่อเทคโนโลยีซึ่งมีดีกรีเป็นสัญลักษณ์ของอุตสาหกรรมเกาหลีใต้อย่างซัมซุง ยินยอมให้เกิดปัญหาเช่นนี้ได้อย่างไร? ปัญหาที่ว่านี้คือเหตุสมาร์ทโฟน Note 7 ระเบิด ซึ่งเกิดขึ้นกับผู้ซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ไปในเวลาไม่นานหลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อสิงหาคม 2559ที่ผ่านมา ถัดมาในเดือนกันยายน ซัมซุงตัดสินใจเรียกคืนเครื่อง จำนวน 2.5 ล้านเครื่อง จาก 10 ตลาดทั่วโลก แต่แม้จะเรียกคืนเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ จนเกิดเป็นการเรียกคืนครั้งที่ 2 ก่อนจะนำไปสู่การหยุดจำหน่ายในที่สุด วิกฤตนี้ซัมซุง ประเมินว่าจะขาดทุนจากการดำเนินงานไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของบริษัทที่เสียหายจนประเมินมูลค่าไม่ได้ ประเด็นนี้สำนักข่าวนิวยอร์กไทม์ส วิเคราะห์ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจเป็นสัญญาณสะท้อนปัญหาของบริษัทสัญชาติเกาหลีใต้ ซึ่งมีเกมการเมืองเข้ามาพัวพันสูง *** รับผิดเฉพาะเรื่องไม่ทดสอบ 23 มกราคม 2560 ซัมซุงแถลงว่าจากการพิสูจน์ของวิศวกรมากกว่า 700 คน ซึ่งวิเคราะห์ Note 7 จำนวน 2 แสนเครื่อง ท่ามกลางแบตเตอรี่ 3 หมื่นชิ้น พบว่าข้อผิดพลาดของแบตเตอรี่ใน Galaxy Note 7 สามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกผิดพลาดที่กระบวนการผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งให้พื้นที่กล่องแบตเตอรี่แคบเกินไป ทำให้อิเล็กโทรดภายในเกิดการกดทับ เป็นเหตุให้ไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่จากผู้ผลิตแบตเตอรี่กลุ่มแรกมาเป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยขึ้น ปัญหากลับไม่ได้เบาบางลง ผู้ใช้ยังคงพบปัญหาเครื่องระเบิดหลายกรณี แบตเตอรี่กลุ่มนี้ตรวจสอบแล้วพบปัญหาการผลิตที่ภายในเซลล์แบตเตอรี่ ทำให้เกิดเหตุร้อนจัดและไฟลุกไหม้ที่ตอนกลางแบตเตอรี่ ดี.เจ. โกห์ ประธานซัมซุงโมบาย ประกาศขออภัยทุกส่วนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการวางจำหน่าย โดยยอมรับผิดว่า เพื่อจะผลิต Note 7 ให้เป็นสุดยอดสมาร์ทโฟน ซัมซุงจึงตั้งเป้าคุณสมบัติแบตเตอรี่ไว้สูงลิ่ว ดังนั้น บริษัทจึงรู้สึกเจ็บปวดมากที่ล้มเหลวเรื่องการทดสอบ ทั้งหมดนี้ ประธานซัมซุงไม่ลืมที่จะย้ำว่า ปัญหาของ Note 7 ทั้งหมดอยู่ที่การออกแบบและการผลิตแบตเตอรี่ ในช่วงก่อนการวางจำหน่ายสินค้าสู่ตลาด ประธานซัมซุงปกป้องระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทุกส่วนใน Note 7 โดยบอกว่าระบบชาร์จทั้งแบบไร้สาย และผ่านสาย รวมถึงพอร์ต USB Type-C และคุณสมบัติใหม่อย่างการสแกนม่านตา ล้วนผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญหลายกลุ่ม เท่ากับว่าซัมซุงกำลังขอให้ผู้บริโภคมั่นใจกับการซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ที่อาจเลื่อนเปิดตัวออกไปจากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 หลังจากโยนความผิดให้แบตเตอรี่ ซัมซุงประกาศแผนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก โดยเปิดตัวระบบทดสอบแบตเตอรี่แบบใหม่ที่บริษัทจะนำมาใช้กับสินค้าที่ประกอบด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไออนทุกประเภท ไม่เฉพาะกับโทรศัพท์มือถือเท่านั้น
ซัมซุงระบุว่าระบบทดสอบแบตเตอรี่ใหม่จะมี 8 ขั้นตอน ส่วนหนึ่งใน 8 ขั้นตอนคือระบบทดสอบความทนทานของแบตเตอรี่ จะมีการทดสอบทั้งในกรณีที่มีการชาร์จเกินขนาด การทดสอบแบตเตอรี่ในภาวะอุณหภูมิสุดขั้ว ยังมีการทดสอบด้วยการเอ็กซ์เรย์ เพื่อหาความผิดปกติของแบตเตอรี่ รวมถึงการทดสอบด้านเทคนิคของแบตเตอรี่แบบลงลึก ทั้งหมดนี้ ซัมซุง ระบุว่า การทดสอบหลายขั้นตอนไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะซัมซุง ดำเนินการทดสอบอยู่แล้วในอุปกรณ์ที่วางจำหน่ายมาก่อนหน้านี้ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ ความถี่ในการทดสอบที่จะเพิ่มขึ้น โดยจะเพิ่มการทดสอบที่หลากหลายเพื่อป้องกันไม่ให้มีความผิดพลาดเกิดขึ้นอีก |