สองหุ้นคู่หูฝ่าวิกฤติ

“COM7 VS. SYNEX” สองหุ้นคู่หูฝ่าวิกฤติ COVID-19

แม้ว่าเหล่ามนุษย์เงินเดือนต้องทำงานจากที่บ้าน หรือ Work From Home มากขึ้น ทำให้หุ้นกลุ่มสื่อสารได้รับอานิสงส์จากแพ็คเกจการใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านโปรแกรมต่างๆ แต่ในทางกลับกัน “หุ้นกลุ่มขายโทรศัพท์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” กลับได้รับผลกระทบหนัก!!

Wealthy Thai รวบรวมข้อมูลความเคลื่อนไหวของหุ้นเด่น 2 ตัวที่เป็นคู่ชกกันได้ระหว่าง “COM7 VS. SYNEX” พบว่าตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (1 ม.ค.-13 เม.ย.63) หุ้นบริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ราคาปรับลดลง 24.91% ขณะที่หุ้นบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ราคาปรับลดลง 32.00%


เริ่มจาก COM7 แม้จะได้รับผลกระทบจากแผนขยายสาขา แต่ COM7 ถือเป็นบริษัทจดทะเบียนแรกๆ ที่มีการปรับตัวเร็วในช่วงที่เราต้องปรับไลฟ์สไตล์การทำงานกันใหม่ เพื่อลดการระบาดของไวรัส COVID-19 โดย “สุระ คณิตทวีกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ออกแคมเปญให้เช่าอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัย และมีการลงโปรแกรมซอฟต์แวร์พร้อมสำหรับใช้งาน ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มองค์กรที่ไม่มีอุปกรณ์เพียงพอ เพื่อช่วยสร้างความพร้อมให้ภาคธุรกิจขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไปในช่วงวิกฤตินี้ได้

มาดูมุมมองของนักวิเคราะห์กันบ้าง บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อหุ้น COM7 ว่าปีที่แล้วเป็นปีที่ดีของ COM7 แต่ในช่วง 3-6 เดือนที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 หุ้น COM7 มีความเสี่ยงจากกำลังซื้อที่ลดลงของผู้บริโภค และในด้านซัพพลายที่สินค้าคงคลังอาจจะไม่พอขาย และ 5G ที่เริ่มต้นช้ากว่าที่คาดไว้

การขยายสาขาของ COM7 ต้องสะดุด

การเติบโตของ COM7 ในปีนี้ นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ประเมินว่าจะมาจากการขยายส่วนแบ่งบนตลาด IT จากปัจจุบัน 10% ควบคู่กับหาโอกาสบน Segment ใหม่ๆ เช่น Gaming, IoTs ผ่านการขยายสาขา จาก 787 สาขา เป็น 955 สาขาภายในสิ้นปี แต่เมื่อมี COVID-19 เกิดขึ้นทำให้หุ้นได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในสาขาของร้านในเมืองท่องเที่ยวที่คิดเป็น 10% ของรายได้

5G ยังเป็นความหวังช่วงปลายปี 63

ส่วนการพัฒนา 5G เดิมนั้น COM7 จะได้อานิสงส์จากพัฒนาเทคโนโลยีในครึ่งปีแรก 2563 เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป แต่ก็ยังมีความหวังว่า iPhone 5G น่าจะออกสู่ตลาดได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี หรือใน Q4/2563

ปีแห่งการเว้นว่างของ COM7

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า ปีนี้เป็นปีแห่งการเว้นว่างของ COM7 โดยได้ปรับประมาณการกำไรลง 17.7% ในปี 2563 และ12.3% ในปี 2564 สะท้อนการเติบโตที่ลดลงของรายได้ผลิตภัณฑ์มือถือและอุปกรณ์ ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทั้งนี้ในประมาณการใหม่ คาดว่ารายได้รวมจะอยู่ในช่วง 3.23- 3.55 หมื่นล้านบาท ในปี 2563-2564 ลดลงจากประมาณการก่อนหน้าที่เคยประมาณการไว้ 3.49-3.79 หมื่นล้านบาท

SYNEX ได้อานิสงส์ขายอุปกรณ์ตรวจจับความร้อน COVID-19

ขณะที่หุ้น SYNEX แม้ว่าอาจจะไม่ได้มีช่องทางการจำหน่ายค้าปลีกเท่ากับ COM7 แต่มีจุดเด่นเรื่องการเป็นตัวแทนขายโทรศัพท์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้กับดีลเลอร์ โดยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินว่า ซินเน็คมีความโดดดเด่นจากการเป็น “Wholesale IT Distributor เบอร์ 1 ของประเทศไทย” โดยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) ราคาหุ้นปรับลดลงตามภาวะตลาดที่ปรับฐานลงเพราะภาวะ COVID-19

โดยผลกระทบที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดปัญหา Supply Shortage ในบางกลุ่มสินค้า เช่น Notebook สินค้ากลุ่ม Apple แต่ปัญหาดังกล่าวคาดว่าจะคลี่คลายขึ้น เนื่องจากตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาจีนมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ทำให้ปัญหาด้าน Supply Shortage เริ่มลดลงต่อเนื่อง

ทั้งนี้ SYNEX ยังมีปัจจัยบวกจากกำลังซื้อสินค้า IT บางกลุ่มมีความต้องการซื้อที่สูงขึ้นในช่วงโรคระบาด เช่น Notebook อุปกรณ์ Conference call อุปกรณ์ ตรวจจับความร้อน ขณะที่ความต้องการด้าน IT โดยรวมเชื่อว่าจะเร่งตัวขึ้นแรงหลังเหตุการณ์โรคระบาด จากทั้งภาครัฐและเอกชนกลับมาให้ความสำคัญกับการลงทุนอุปกรณ์ IT อีกครั้ง และการเข้ามาของยุค 5G จะยิ่งเร่งการเติบโตของตลาด IoT ซึ่ง SYNEX เป็นเจ้าตลาดอยู่

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก