ทำไม? ช่วงต้นปีใหม่ จึงเหมาะกับการเริ่มลงทุน
รู้จัก January Effect เมื่อหุ้นมักขึ้นในเดือน ม.ค.

.
พอปีใหม่เวียนมาถึง คำว่า "January Effect" ก็มักจะถูกพูดถึงเสมอ แต่คำถามคือ…คำนี้มีที่มาอย่างไร และปัจจุบันยังมีอยู่จริงไหม?
.
"January Effect" เป็นความเชื่อของเหล่านักลงทุนที่มองว่า "ตลาดหุ้นในช่วงเดือนมกราคมจะมีความสดใสเป็นพิเศษ และราคาหุ้นก็สูงขึ้นกว่าปกติ"
.
เอาเข้าจริง "January Effect" ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเป็นเรื่องที่ถูกกล่าวถึงมากว่า 80 ปีแล้ว โดย Sidney B. Watchel ที่ปรึกษาทางการเงิน ของธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ที่เริ่มสังเกตตั้งแต่ปี 1942 ว่า ราคาหุ้นในเดือนมกราคม มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่าเดือนอื่นๆ
.
หลังจากนั้น ก็เริ่มมีงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากสถาบันการเงินต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง
.
แล้วทำไมต้องเป็นเดือนมกราคมล่ะ?
.
จุดเริ่มต้นมาจากฝั่งอเมริกา ที่ในช่วงปลายปีอย่างเดือนธันวาคม เหล่านักลงทุนสถาบันหรือบรรดากองทุนต่างๆ ในสหรัฐฯ มักจะขายหุ้นออกไป เพื่อต้องการได้ประโยชน์ทางภาษี และเมื่อเข้าสู่เดือนมกราคม ก็จะกลับเข้ามาซื้ออีกครั้ง ทำให้ดัชนีในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
.
แต่เชื่อหรือไม่ว่า แม้ต้นกำเนิดของ “January Effect” จะเกิดขึ้นที่สหรัฐฯ แต่ในปัจจุบัน ข้อมูลจาก บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ได้สรุปไว้ว่า ดัชนี S&P500 ของสหรัฐฯ ไม่มี “January Effect” แล้ว
.
เนื่องจากข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี ตั้งแต่ปี 2556-2565 ดัชนี S&P500 ให้ผลตอบแทนที่เป็นบวกในเดือนมกราคมได้เพียง 4 ปี เท่านั้น
.
ตรงข้ามกับประเทศไทย ที่ตัวเลข SET Index ย้อนหลังในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบว่า ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนเป็นบวกในเดือนมกราคมได้ถึง 7 ปี จาก 10 ปี โดยผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 1.9%
.
ตัวเลขผลตอบแทน SET Index เดือนมกราคม 10 ปีย้อนหลัง (2556-2565)
2013 = 5.9%
2014 = -1.9%
2015 = 5.6%
2016 = 1.0%
2017 = 2.2%
2018 = 4.2%
2019 = 5.0%
2020 = - 4.2%
2021 = 1.2%
2022 = -0.5%
.
ซึ่งกรณีของไทย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ได้ประเมินไว้ว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากนักลงทุนและนักวิเคราะห์มักคิดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียน และภาวะเศรษฐกิจไทยในปีนั้นๆ จะดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จึงทำให้เกิดการเข้าสะสมหุ้นในช่วงเดือนมกราคม
.
ส่วนเดือนมกราคมปี 2566 นี้ จะเกิด "January Effect" หรือไม่ รวมภาพรวมตลาดหุ้นของทั้งจะปีเป็นแบบไหน คงไม่มีใครฟันธงได้ แต่จากวิเคราะห์ของหลายโบรกเกอร์ก็มองว่า หุ้นไทยเดือนนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ แม้จะมีความกังวลเล็กๆ จากแรงเทขาย LTF ที่ครบกำหนดขายปีนี้ปีแรกก็ตาม
.
และหากมองภาพรวมทั้งปี จากคาดการณ์ของหลายภาคส่วน ที่มองว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้ มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ ก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุน ในการเริ่มทยอยสะสมหุ้นตั้งแต่ต้นปีได้เช่นกัน
.
ก่อนลาจากกันไป ขอย้ำเตือนกันอีกครั้ง ไม่ว่าสถิติจะบอกว่าผลตอบแทนในเดือนมกราคมจะเป็นบวกกี่ครั้ง แต่ยังไงก็เป็นแค่ตัวเลขในอดีต ไม่สามารถใช้ฟันธงอนาคตได้อย่างถูกต้อง
.
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุน นักลงทุนต้องศึกษา วิเคราะห์ และทำความเข้าใจข้อมูล สถานการณ์ต่างๆ ให้รอบด้าน เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ
.
อ้างอิง:
https://www.set.or.th/.../15--set-market-report-for...
https://www.wallstreetmojo.com/january-effect/
https://www.investopedia.com/terms/j/januaryeffect.asp
https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1046167