Food & Beverage Sector เลือกหุ้นที่มีแนวโน้มฟื้นตัวแข็งแกร่งกว่า
โดยปกติแล้ว ไตรมาส 4 ของปีน่าจะเป็นไตรมาสที่ร้านอาหารที่ทำผลงานได้ดีที่สุด โดยมีการเติบโตที่แข็งแกร่งทั้ง YoY และ QoQ ซึ่งเป็นกรณีของ ZEN ในไตรมาส 4/2565 อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรสุทธิของ M จะลดลง ซึ่งแสดงให้เห็นผลกระทบเชิงโครงสร้างที่สำคัญจากการแข่งขันในธุรกิจหม้อไฟ (สุกี้ยากี้) ที่รุนแรงในตลาด
ZEN เราคาดว่าบริษัทฯ จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/2565 ที่ 55 ลบ. (+492% YoY และ +13% QoQ) ในวันที่ 27 ก.พ. การเติบโตเชิง YoY คาดว่ามาจาก 1) การบริโภคที่ฟื้นตัวหลังการระบาดของโควิด-19 ซึ่งหนุนรายได้ต่อสาขาด้วยอัตราการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ที่ 10 % และ 2) การไม่เพิ่มขึ้นของต้นทุนบางส่วนที่ทำให้ SG&A ต่อรายได้ ลดลง 5.2% YoY ขณะที่การเติบโตเชิง QoQ น่าจะได้รับแรงหนุนจากช่วงไฮซีซั่นของการขายในช่วงวันหยุด
M เราคาดว่าบริษัทฯ จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/2565 ที่ 371 ลบ. (-7.1% YoY และ -9.1% QoQ) ในวันที่ 23 ก.พ. การลดลงเชิง YoY คาดว่ามาจากการจ่ายโบนัสพิเศษจำนวน 100 ลบ. ขณะที่การลดลงเชิง QoQ น่าจะมาจาก 1) การเติบโตของรายได้ที่ทรงตัว QoQ ซึ่งตามไม่ทันกับรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น และ 2) ค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น
แนวโน้มของ ZEN ดูดีกว่าของ M การฟื้นตัวทั้งปีในปี 2566 น่าจะช่วยผลักดันรายได้ของร้านอาหารชั้นนำให้เติบโตได้สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 โดยการเปิดประเทศของจีนน่าจะช่วยหนุนการเติบโตของรายได้ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เนื่องจาก GDP และการบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก (แผนภาพ 9) อย่างไรก็ตาม ราคาวัตถุดิบที่สูงยังคงไม่ลด (แผนภาพ
และคาดว่าจะทรงตัวตลอดปี 2566 ดังนั้นการกลับไปสู่อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ก่อนการระบาดของโควิด-19 ที่ 48% และ 69% สำหรับ ZEN และ M มีความเป็นไปได้ยาก และการปรับขึ้นราคาอีกมีข้อจำกัด เนื่องจาก ZEN และ M เพิ่งปรับราคาไปในปี 2565
แนวโน้มของ ZEN คือ 1) รายได้ต่อร้าน ณ ปัจจุบันสูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 11% 2) การดำเนินงานเต็มปีของสาขาใหม่ ทำให้ ROE เพิ่มขึ้น 3) ต้นทุนวัตถุดิบโดยรวมดีขึ้นจากต้นทุนปลาแซลมอนที่ลดลง (แผนภาพ 5) 4) ราคาแก๊ซหุงต้มที่ลดลง (แผนภาพ 7) โดยสรุปเราคาดว่า ZEN จะสามารถคง GPM ในปี 2565 ที่ 46% ขณะที่ NPM จะปรับดีขึ้นจากต้นทุนบางส่วนที่ไม่เพิ่มขึ้น
แนวโน้มของ M คือ 1) รายได้ต่อร้าน ณ ปัจจุบันต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 11% 2) ผลประกอบการไตรมาส 4/2565 ที่น่าผิดหวังอาจส่งสัญญาณถึงภัยคุกคามด้านโครงสร้างต่อตำแหน่งผู้นำในธุรกิจหม้อไฟของ M 3) ราคาเป็ดที่สูงขึ้นทำให้วัตถุดิบโดยรวมแพงขึ้น (แผนภาพ 6) 4) การปรับขึ้นค่าไฟฟ้า 30% ในปี 2566 จะทำให้ SG&A เพิ่มขึ้นอีก 250 ลบ. โดยสรุป เราคาดว่า NPM จะลดลงในปี 2566 ขณะที่รายได้จะสามารถแตะระดับก่อนเกิดโควิด-19 ได้
มุมมอง KS
“ซื้อ” ZEN ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 19.20 บาท และ คงคำแนะนำ “ถือ” M และราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 58.20 บาท โดยหุ้น ZEN และ M ขณะนี้ซื้อขายอิงตาม PER ปี 2566 ที่ 25 เท่า และ 31 เท่า ขณะที่บริษัทคู่แข่งทั่วโลกซื้อขายที่ 31 เท่า ZEN และ M ซื้อขายต่ำกว่าและสูงกว่าค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลังที่ 28 เท่า และ 26 เท่า
