
ราคาน้ำมันดิบร่วงหนักถึง -10% คืนนี้ ! จนทำให้ WTI หลุดระดับ 100 เหรียญ/บาร์เรลไปแล้ว เพราะความกังวลเรื่อง Recession

คำตอบสั้นๆคือ - คืนนี้ราคาน้ำมันดิบร่วงหนักเพราะนักลงทุนเริ่มให้น้ำหนักการเกิด Recession มากขึ้นแล้ว ซึ่งหากเกิด Recession ขึ้นจริง การใช้น้ำมันจะหดตัวอย่างรวดเร็ว และทำให้ราคาปรับตัวลดลงด้วย

จริงอยู่ว่านักลงทุนกังวลเรื่อง Recession มานานแล้ว แต่ตลาดยังไม่ได้รับรู้เข้าไปมากเท่าไหร่นัก เราสามารถดูได้จาก Bond Yield หรือผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐของสหรัฐที่จะเป็น Leading Indicator ที่คอยได้ว่า นักลงทุนกำลังกลัว "ค่าเงินเฟ้อ" หรือ "Recession" มากกว่ากัน
ก่อนหน้านี้ถึงแม้นักลงทุนจะกลัว Recession บ้างแล้ว แต่ก็ยังกลัวเรื่องเงินเฟ้ออยู่ ทำให้ Bond Yield ยังดีดไปแตะ 3.5% เพราะความกังวลว่า FED จะต้องขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง
#อย่างไรก็ตาม... ล่าสุด Bond Yield ได้ปรับตัวลดอย่างรวดเร็ว และก็ร่วงลงอย่างหนักในคืนนี้ (ร่วง -12 basis point หรือวัดเป็น -4.2%) นับเป็นระดับ Bond Yield ที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 2 เดือน และก็เป็นการแสดงว่านักลงทุนไม่ห่วงเรื่องเงินเฟ้อแล้ว แต่กังวลเรื่อง Recession มากกว่าที่จะทำให้ FED หยุดการขึ้นดอกเบี้ยอีกด้วย
และก็สอดคล้องกับราคาน้ำมันในคืนนี้เป๊ะๆ ที่น้ำมันดับ WTI และ Brent ก็ได้ทำสถิติต่ำที่สุดในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมาที่ 99 และ 103 เหรียญต่อบาร์เรลตามลำดับ

ตอนนี้ทีม Trader KP ยังไม่เห็นความต้องการใช้น้ำมันในตลาดลดลงไปแม้แต่น้อย ดูได้จากการที่คืนนี้ทางซาอุดิอาระเบียเพิ่งออกมาปรับราคาขายน้ำมันสู่ภูมิภาคเอเชีย หรือ OSP ขึ้นอีก +2.8 เหรียญต่อบาร์เรล จนขึ้นมาอยู่ที่ 9.3 เหรียญต่อบาร์เรล หรือเกือบจะเป็นระดับที่สูงที่สุดในประวัตศาสตร์แล้ว
การขึ้นราคาขายของซาอุดิอาระเบียในครั้งนี้ เป็นสัญญาณว่าความต้องการใช้น้ำมันในภูมิภาคเอเชียยังคงสูงอยู่ และแม้แต่ผู้ผลิตน้ำมันอันดับที่ 1 ของโลกก็ยังไม่เห็นว่าการใช้น้ำมันในวันนี้จะลดลงไปแต่อย่างใด
#อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับตลาดหุ้น ราคาน้ำมันที่ซื้อขายในตลาด Futures ที่เราติดตามราคากัน ก็ไม่ได้ซื้อขายด้วยปัจจัยพื้นฐานของตลาดในวันนี้ แต่กลับเทรดด้วยความคาดหวังของอนาคต และวันนี้ในวันที่นักลงทุนกำลังกังวลกันเรื่อง Recession เป็นอย่างหนักก็ทำให้ราคาน้ำมันดิบร่วงลงมากว่า -10%

