คลัง เตรียมเก็บ ภาษี VAT สินค้านำเข้า ราคาต่ำกว่า 1,500 บาท
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการพิจารณาแก้ไขประมวลรัษฎากร ในการยกเลิกการยกเว้นการจัดเก็บ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สินค้านำเข้า ตามกฎหมายศุลกากร เพื่อให้กรมสรรพากรสามารถดำเนินการจัดเก็บ VAT สินค้านำเข้า ในทุกรายการสินค้าได้
ซึ่งกระทรวงการคลังกำลังหารือเกี่ยวกับกลไกที่จะดำเนินการโดยในหลักการที่มอบนโยบายไว้คือไม่ว่าสินค้าเหล่านั้นจะมาจากประเทศใดก็ตาม แต่จะไม่สามารถปลอดภาษี VAT ได้อีกต่อไป
“เราต้องมาคุยกันว่า กลไกที่จะดำเนินการเพื่อให้การเก็บภาษี VAT เป็นไปได้อย่างครบถ้วน และเกิดความเสมอภาคกับเอกชนไทยที่ผลิตและขายในประเทศ ผมได้มอบแนวความคิดไปแล้วเชื่อว่าทางคลังจะเร่งดำเนินการ ไม่นานน่าจะมีคำตอบให้ เพราะมันเป็นเรื่องของความเหลื่อมล้ำระหว่างเอกชนไทยที่ผลิตสินค้าและขายในประเทศกับการนำเข้าสินค้า”
นายจุลพันธ์ เปิดเผยต่อว่า ที่ผ่านมาเมื่อสินค้ามีราคาต่ำกว่าเกณฑ์ จะไม่ถูกเก็บภาษี VAT แต่ในหลักความเป็นจริงแล้วควรจะต้องเก็บ ดังนั้นหลังจากนี้ไม่ว่าสินค้าเหล่านั้นจะมาจากประเทศใดก็ตาม จะไม่สามารถปลอด VAT ได้อีกต่อไป ส่วนรายละเอียดอยากให้รอความชัดเจน
“ตอนนี้คลังกำลังพิจารณาอยู่ว่ากลไกควรจะดำเนินการอย่างไรเข้าใจว่าในทางปฏิบัติ คงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะว่าตู้สินค้าหนึ่ง มีสินค้าไม่ต่ำกว่า 4-5 หมื่นรายการ ดังนั้นจึงต้องมาพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมและเสมอภาคมากที่สุด ถ้าเหลื่อมล้ำตรงไหน ก็จะมีการปรับแก้ เพื่อให้อยู่บนพื้นฐานของการแข่งขันที่เท่าเทียม
อย่างไรก็ตามการเก็บภาษีในครั้งนี้อาจกระทบต่อการนำเข้าสินค้าจีนที่ช่วงนี้มีการนำเข้ามามาก แต่เชื่อมั่นว่าจีนไม่น่าจะมีการตอบโต้อะไร เพราะแนวทางที่กำลังดำเนินการเป็นไปตามกรอบข้อตกลง ไม่ได้มีการทำนอกกรอบข้อตกลงระหว่างประเทศ”
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า วันนี้กรมสรรพากรได้มีการประชุมร่วมกับ นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อทบทวนการยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าที่มีการสั่งซื้อและส่งเข้ามาจากต่างประเทศซึ่งปัจจุบันมีการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)สำหรับสินค้าที่ไม่เกิน 1,500 บาท
“วันนี้เป็นการประชุมเรื่องการพิจารณาอัตราภาษี VAT สำหรับสินค้านำเข้าที่ราคาไม่เกิน 1,500 บาท โดยรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ขอให้ปลัดกระทรวงการคลังเป็นคนชี้แจง”